“ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ส่อไร้ 2 กองหลังตัวหลัก แต่แนวรุกพร้อมจัดเต็มเตรียมให้ อองโตนี่ มาร์กซิยัล ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้านัดต้อนรับ “เจ้าป่า” น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ในศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันที่ 27 ธ.ค.นี้ เพื่อลุ้นเก็บชัยเกาะกลุ่มบนหัวตารางคะแนน

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด VS น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์
สนาม : โอลด์ แทรฟฟอร์ด
เวลา : 03.00 น.
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ผลงาน 5 เกมหลังสุดในศึกพรีเมียร์ลีก
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : ชนะ ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ 2-0 (เหย้า)
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : เสมอ เชลซี 1-1 (เยือน)
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : ชนะ เวสต์แฮม 1-0 (เหย้า)
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : แพ้ แอสตัน วิลล่า 1-3 (เยือน)
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : ชนะ ฟูแล่ม 2-1 (เยือน)
คาดว่ากุนซือ เอริค เทน ฮาก จะปรับทัพบางตำแหน่ง โดยเฉพาะแนวรับส่อไร้ 2 กองหลังตัวหลัก แต่พร้อมให้พวกตัวสำรองลงไปทำหน้าที่แทนได้เลย เพื่อลุ้นเก็บชัยเกาะกลุ่มบนหัวตารางคะแนนต่อไป โดยในช่วงก่อนเกมอยู่อันดับ 5 แข่ง 14 นัด มี 26 คะแนน จึงพร้อมให้พวกแข้งหลักในแนวรุกออกสตาร์ทเป็นตัวจริงทั้งหมดเลย
11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามเป็นตัวจริงตามแผนการเล่นแบบ 4-2-3-1
ดาบิด เด เคอา, แฮร์รี่ แม็คไกวร์, วิคเตอร์ ลินเดเลิฟ, ลุค ชอว์, อารอน วาน-บิสซาก้า, คาเซมิโร่, คริสเตียน อีริคเซ่น, แอนโทนี่, บรูโน่ แฟร์นันเดส, มาร์คัส แรชฟอร์ด, อองโตนี่ มาร์กซิยัล
ผู้รักษาประตู : ไม่เปลี่ยนแปลงไปจาก ดาบิด เด เคอา พร้อมยืนเฝ้าเสาเป็นตัวจริงแน่นอน เพราะถูกวางตัวให้สวมบทเป็นมือหนึ่งอยู่แล้ว ส่วนในรายของ มาร์ติน ดูบราฟก้า และ ทอม ฮีตัน เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองอยู่ที่ข้างสนามเหมือนเดิม
แนวรับ : ส่อไร้ 2 กองหลังตัวหลัก นั่นก็คือ ราฟาเอล วาราน กับ ลิซานโดร มาร์ติเนซ เพราะได้พักจากการกรำศึกหนักจากฟุตบอลโลก 2022 จนถึงนัดชิงชนะเลิศนั่นเอง ทำให้ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ เตรียมลงไปยืนคุมแดนหลังคู่กับ วิคเตอร์ ลินเดเลิฟ ส่วนแบ็กขวารอเช็กสภาพความฟิตของ ดิโอโก้ ดาโลต์ มีปัญหาบาดเจ็บรบกวน แต่พร้อมให้ อารอน วาน-บิสซาก้า ลงไปยืนเล่นเป็นตัวจริงในตำแหน่งนี้ได้เลย โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ ลุค ชอว์ ในตำแหน่งแบ็กซ้าย เพราะเป็นตัวเลือกอันดับแรกเหนือกว่า ไทเรลล์ มาลาเซีย นั่นเอง
แดนกลาง : พร้อมให้ คาเซมิโร่ ยืนเป็นตัวคุมเกมร่วมกับ คริสเตียน อีริคเซ่น เพราะเป็นตัวหลักในแผงมิดฟิลด์อยู่แล้ว ทำให้ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์, เฟรด รวมถึง ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองไปก่อน ส่วนในรายของ บรูโน่ แฟร์นันเดส เตรียมสวมบทเป็นเพลย์เมกเกอร์ในฐานะตัวปั้นเกมอย่างแน่นอน
แนวรุก : เตรียมจัดทัพใหญ่ลงสนามได้เลย แม้จะไร้ จาดอน ซานโซ่ ได้พักจากปัญหาเรื่องของสภาพจิตใจไม่พร้อมลงสนาม แต่พร้อมให้ แอนโทนี่ สวมบทเป็นปีกขวาอยู่แล้ว ทำให้ แอนโธนี่ เอลังก้า เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองไปเลย โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ มาร์คัส แรชฟอร์ด ในตำแหน่งปีกซ้าย เพราะน่าจะเป็นตัวเลือกอันดับแรกเหนือกว่า อเลฮานโดร การ์นาโช่ ขณะที่ อองโตนี่ มาร์กซิยัล พร้อมสวมบทเป็นกองหน้าตัวเป้าในยุคไร้เงาของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซึ่งได้จากไปแล้ว
น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์
ผลงาน 5 เกมหลังสุดในศึกพรีเมียร์ลีก
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : เสมอ ไบรท์ตัน 0-0 (เยือน)
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : ชนะ ลิเวอร์พูล 1-0 (เหย้า)
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : แพ้ อาร์เซนอล 0-5 (เยือน)
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : เสมอ เบรนท์ฟอร์ด 2-2 (เหย้า)
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : ชนะ คริสตัล พาเลซ 1-0 (เหย้า)
คาดว่ากุนซือ สตีฟ คูเปอร์ จะปรับทัพบางตำแหน่ง แม้จะมีนักเตะได้รับบาดเจ็บหลายคน แต่ยังมีผู้เล่นให้เลือกใช้งานได้อีกหลายราย เพื่อลุ้นเก็บชัยขยับหนีจากโซนท้ายตารางคะแนน โดยในช่วงก่อนเกมอยู่อันดับ 18 แข่ง 15 นัด มี 13 คะแนน
11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามเป็นตัวจริงตามแผนการเล่นแบบ 4-3-3
เวย์น เฮนเนสซีย์, วิลลี่ โบลี่, โจ วอร์เรลล์, เรนาน โลดี้, แซร์จ ออริเย่ร์, เรโม ฟรอยเลอร์, ไรอัน เยตส์, โอเรล มองกาล่า, เบรนแนน จอห์นสัน, มอร์แกน กิ๊บบ์ส-ไวท์, เจสซี่ ลินการ์ด
ผู้รักษาประตู : หมดสิทธิ์ใช้งาน ดีน เฮนเดอร์สัน เพราะติดเงื่อนไขตามสัญญายืมตัวจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จึงไม่สามารถลงสนามในเกมพบกับทีมต้นสงกัดที่แท้จริง ทำให้ เวย์น เฮนเนสซีย์ เตรียมได้ยืนเฝ้าเสาเป็นตัวจริง แม้จะมีปัญหาบาดเจ็บรบกวน แต่น่าจะผ่านความฟิตเพื่อลงเล่นเป็นตัวจริงได้ โดยมี จอร์แดน สมิธ เตรียมนั่งเป็นตัวสแตนบายอยู่ที่ข้างสนาม
แนวรับ : พร้อมให้ วิลลี่ โบลี่ กับ โจ วอร์เรลล์ ยืนเป็นกองหลังคู่กัน ส่วนแบ็กซ้ายเป็นหน้าที่ของ เรนาน โลดี้ โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ แซร์จ ออริเย่ร์ ในตำแหน่งแบ็กขวา ทำให้ สตีฟ คุ้ก, เนโก้ วิลเลี่ยมส์, แฮร์รี่ ตอฟโฟโล่, มุสซ่า นิอัคฮาเต้, สกอตต์ แม็คเคนน่า, ลออิค บาเด้ และ โอมาร์ ริชาร์ดส เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองไปก่อน
แดนกลาง : น่าจะใช้ 3 ประสาน นั่นก็คือ เรโม ฟรอยเลอร์, ไรอัน เยตส์ และ โอเรล มองกาล่า เพราะว่าเป็นตัวหลักในแผงมิดฟิลด์อยู่แล้ว ส่วนในรายของ แจ็ค โคลแบ็ค, กุสตาโว่ สคาร์ปา และ ลูวิส โอไบรอัน เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองทั้งหมดเลย แต่หมดสิทธิ์ใช้งาน ชีคฮู คูยาเต้ ต้องพักรักษาตัวจากอาการบาดเจ็บ
แนวรุก : เตรียมวาง มอร์แกน กิ๊บบ์ส-ไวท์ ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้า และพร้อมให้ เบรนแนน จอห์นสัน สวมบทเป็นปีกขวา โดยจะยืนคนละฝั่งกับ เจสซี่ ลินการ์ด อดีตดาวเตะของทีมเจ้าบ้านในตำแหน่งปีกขวา จึงน่าจะได้เห็น แซม เซอร์ริดจ์, เอมมานูเอล เดนนิส และ ไตโว อโวนิยี่ นั่งเป็นตัวสำรองทั้งหมดเลย
สถิติการพบกันเอง
สำหรับคู่นี้เคยดวลแข้งกันในทุกรายการมาแล้วทั้งหมด 78 เกม ปรากฎว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีสถิติเหนือกว่าอยู่พอสมควร โดยเป็นฝ่ายชนะ 37 เกม เสมอ 17 เกม และแพ้ 24 เกม ส่วนผลการพบกันนัดล่าสุดในศึกพรีเมียร์ลีกเมื่อปี 1999 ปรากฎว่า “ปีศาจแดง” บุกไปถล่ม 8-1 สำหรับผลการพบกันนัดล่าสุดที่สนามแห่งนี้ในศึกพรีเมียร์ลีกเมื่อปี 1999 ปรากฎว่า น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ เป็นฝ่ายแพ้คาบ้าน 1-8
สถิติที่เคยพบกัน 5 เกมหลังสุด
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ปี 1996 : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 5-0
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ปี 1996 : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 4-1
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ปี 1996 : น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ แพ้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-4
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ปี 1998 : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 3-0
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ปี 1999 : น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ แพ้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-8
ความน่าจะเป็น
แม้จะไม่มี คริสเตียโน่ โรนัลโด้ อีกต่อไป แต่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังคงพร้อมเดินหน้าต่อไปเหมือนเดิม เพราะมีผู้เล่นในแนวรุกให้เลือกใช้งานได้อีกหลายคน เช่นเดียวกับพวกกองหลังที่ยังมีตัวเลือกอีกหลายราย ส่วน น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ พร้อมจัดผู้เล่นชุดที่ดีที่สุดลงสนามอย่างแน่นอน เพราะนักเตะที่พร้อมลงสนามได้เพียบเลย คาดว่า “ปีศาจแดง” ถือความได้เปรียบในฐานะเจ้าบ้านอยู่แล้ว ส่วน “เจ้าป่า” ทำผลงานในยามออกไปเล่นเป็นทีมเยือนได้ไม่ค่อยดีนัก ดังนั้นเจ้าถิ่นน่าจะเก็บชัยในถิ่นของตัวเองเอาไว้ได้
ผลที่คาด : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 2-0
บทความนี้นับสนุนโดย Siam99 เว็บคาสิโนออนไลน์ที่นึ่งในประเทศไทย
บทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับการวิเคราะห์ฟุตบอล และ EPL