วิเคราะห์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก: เชลซี VS บอร์นมัธ

Premier League Football Analysis: Chelsea VS Bournemouth

“สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี มีปัญหานักเตะได้รับบาดเจ็บเพียบเลย แต่แนวรุกพร้อมใช้ 3 ประสาน นั่นก็คือ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, ไค ฮาเวิร์ตซ และ ปิแอร์ เอเมริก โอบาเมยอง นัดต้อนรับ บอร์นมัธ ในศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันที่ 27 ธ.ค.นี้ เพื่อลุ้นกลับมาคว้าชัยอีกครั้ง หลังไม่พบกับชัยชนะในช่วงก่อนพักเบรกฟุตบอลโลก 2022 มาแล้วถึง 5 เกมติดต่อกัน

Premier League Football Analysis: Chelsea VS Bournemouth
Premier League Football Analysis: Chelsea VS Bournemouth

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

เชลซี VS บอร์นมัธ

สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์

เวลา : 00.30 น.

เชลซี

ผลงาน 5 เกมหลังสุดในศึกพรีเมียร์ลีก

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : เสมอ เบรนท์ฟอร์ด 0-0 (เยือน)

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : เสมอ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-1 (เหย้า)

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : แพ้ ไบรท์ตัน 1-4 (เยือน)

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : แพ้ อาร์เซนอล 0-1 (เหย้า)

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : แพ้ นิวคาสเซิ่ล 0-1 (เยือน)

คาดว่ากุนซือ โธมัส ทูเคิ่ล จะปรับทัพหลายตำแหน่ง เพราะมีนักเตะได้รับบาดเจ็บหลายคนเลย แต่ยังใช้งานพวกแข้งหลักได้อีกหลายราย เพื่อลุ้นกลับมาคว้าชัยให้ได้อีกครั้ง เพราะสะกดคำว่าชนะในช่วงก่อนพักเบรกฟุตบอลโลก 2022 ไม่เป็นมาแล้วถึง 5 เกมติดต่อกัน และจะได้ขยับขึ้นไปเกาะกลุ่มบนหัวตารางคะแนนด้วย โดยในช่วงก่อนเกมนี้อยู่อันดับ 8 แข่ง 14 นัด มี 21 คะแนน

11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามเป็นตัวจริงตามแผนการเล่นแบบ 4-3-3

เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า, เทรโวห์ ชาโลบาห์, คาลิดู คูลิบาลี่, มาร์ค คูคูเรย่า, รีซ เจมส์, คอเนอร์ กัลลาเกอร์, จอร์จินโญ่, เมสัน เมาท์, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, ปิแอร์ เอเมริก โอบาเมยอง, ไค ฮาเวิร์ตซ

ผู้รักษาประตู : รอเช็กสภาพความฟิตของ เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า มีปัญหาบาดเจ็บตรงบริเวณเท้า แต่น่าจะกลับมายืนเฝ้าเสาเป็นตัวจริงได้ตามเดิม ส่วนในรายของ เอดูอาร์ เมนดี้ เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองอยู่ที่ข้างสนามไปก่อน เพราะว่าโชว์ฟอร์มในช่วงหลังๆ ได้ไม่ค่อยดีนัก

แนวรับ : น่าจะให้ เทรโวห์ ชาโลบาห์ ลงไปยืนเป็นกองหลังคู่กับ คาลิดู คูลิบาลี่ ทำให้ ติอาโก้ ซิลวา รวมถึง เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า น่าจะต้องนั่งเป็นตัวสำรองไปก่อน ส่วนในรายของ เวสลีย์ โฟฟาน่า หมดสิทธิ์ลงสนามอย่างแน่นอน เพราะต้องพักรักษาอาการบาดเจ็บไปก่อน ขณะที่แบ็กซ้ายไม่มี เบน ชิลเวลล์ เจอโรคเดี้ยงเล่นงาน จึงน่าจะให้ มาร์ค คูคูเรย่า ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในตำแหน่ง โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ รีซ เจมส์ เพิ่งหายเจ็บพร้อมกลับมาสวมบทเป็นแบ็กขวา

แดนกลาง : เตรียมขยับ เมสัน เมาท์ ลงไปยืนคุมเกมร่วมกับ จอร์จินโญ่ และน่าจะให้ คอเนอร์ กัลลาเกอร์ ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงด้วย เนื่องจาก มาเตโอ โควาซิช ได้รับอนุญาตให้พักเพิ่มเติมในช่วงหลังกรำศึกหนักร่วมกับทีมชาติโครเอเชียชุดคว้าอันดับ 3 จากศึกฟุตบอลโลก 2022 นั่นเอง ส่วนในรายของ เดนิส ซากาเรีย เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองไปก่อน แต่หมดสิทธิ์ใช้งาน เอ็นโกโล่ ก็องเต้, รูเบน ลอฟตัส-ชีค รวมถึง คาร์นีย์ ชุควูเอเมก้า ต้องพักรักษาอาการบาดเจ็บไปก่อน

แนวรุก : ส่อใช้ 3 ประสาน นั่นก็คือ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง สวมบทเป็นปีกขวา โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ ปิแอร์ เอเมริก โอบาเมยอง ในตำแหน่งปีกซ้าย และพร้อมให้ ไค ฮาเวิร์ตซ สวมบทเป็นกองหน้าตัวเป้า ส่วนในรายของ คริสเตียน พูลิซิช เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองค่อนข้างแน่ ขณะที่ ฮาคิม ซีเย็ค ได้รับอนุญาตให้พักเพิ่มเติมในช่วงหลังกรำศึกหนักร่วมกับทีมชาติโมร็อคโกจากศึกฟุตบอลโลก 2022 แต่หมดสิทธิ์ใช้งาน อาร์มันโด้ โบรย่า เจอโรคเดี้ยงเล่นงาน

บอร์นมัธ

ผลงาน 5 เกมหลังสุดในศึกพรีเมียร์ลีก

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : แพ้ เซาแธมป์ตัน 0-1 (เหย้า)

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : แพ้ เวสต์แฮม 0-2 (เยือน)

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : แพ้ ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ 2-3 (เหย้า)

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : แพ้ ลีดส์ ยูไนเต็ด 3-4 (เยือน)

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : ชนะ เอฟเวอร์ตัน 3-0 (เหย้า)

คาดว่ากุนซือ แกรี โอนีล จะปรับทัพบางตำแหน่ง เพื่อลุ้นเก็บชัยขยับขึ้นไปอยู่ตรงกลางตารางคะแนน โดยในช่วงก่อนเกมอยู่อันดับ 14 แข่ง 15 นัด มี 16 คะแนน แม้จะมีนักเตะได้รับบาดเจ็บหลายคน แต่ยังใช้งานพวกแข้งหลักได้อีกหลายราย

11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามเป็นตัวจริงตามแผนการเล่นแบบ 4-4-2

มาร์ค ทราเวอร์ส, มาร์กอส เซเนซี่, คริส เมพแฮม, จอร์แดน เซมูร่า, อดัม สมิธ, ลูวิส คุ้ก, เจฟเฟอร์สัน เลอร์ม่า, ฟิลิป บิลลิ่ง, ไรอัน คริสตี้, โดมินิค โซลันกี้, คีฟเฟอร์ มัวร์

ผู้รักษาประตู : พร้อมให้ มาร์ค ทราเวอร์ส ยืนเฝ้าเสาตั้งแต่นาทีแรก เพราะได้รับมอบหมายให้สวมบทเป็นมือหนึ่งไปก่อน เนื่องจาก เนโต้ ต้องพักรักษาอาการบาดเจ็บไปก่อน ส่วนในรายของ วิลล์ เดนนิส เตรียมยืนเป็นตัวสำรองในตำแหน่งค่อนข้างแน่

แนวรับ : ไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงไปจาก มาร์กอส เซเนซี่ ยืนเป็นกองหลังคู่กับ คริส เมพแฮม ส่วนแบ็กซ้ายเป็นหน้าที่ของ จอร์แดน เซมูร่า โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ อดัม สมิธ ในตำแหน่งแบ็กขวา ขณะที่ ไรอัน เฟรเดริกส์ หมดสิทธิ์ลงสนาม เพราะว่ายังไม่หายจากการอาการบาดเจ็บ ด้าน ลอยด์ เคลลี่, แจ็ค สตีเฟ่นส์, แจ็ค สตาซีย์ รวมถึง เจมส์ ฮิลล์ เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองทั้งหมดเลย

แดนกลาง : ส่อได้ เจฟเฟอร์สัน เลอร์ม่า หายป่วยกลับมายืนคุมเกมร่วมกับ ลูวิส คุ้ก ส่วนในรายของ เดวิด บรูกส์ กับ มาร์คัส ทาเวอร์เนียร์ ได้รับบาดเจ็บ จึงต้องพักรักษาโรคเดี้ยงไปก่อน ส่วนปีกซ้ายพร้อมให้ ฟิลิป บิลลิ่ง ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ ไรอัน คริสตี้ ในตำแหน่งปีกขวา ขณะที่ จูเนียร์ สตานิสลาส, เบน เพียร์สัน และ โจ โรธเวลล์ เตรียมนั่งอยู่ที่ข้างสนามไปก่อน

แนวรุก : เตรียมใช้งานคู่กองหน้า นั่นก็คือ โดมินิค โซลันกี้ ยืนล่าตาข่ายคู่กับ คีฟเฟอร์ มัวร์ ส่วนในรายของ ไจดอน แอนโธนี่ รวมถึง ยามาล โลว์ และ ซิริกี้ เดมเบเล่ เตรียมนั่งเป็นตัวสแตนบายตามเดิม

สถิติการพบกันเอง

สำหรับคู่นี้เคยดวลแข้งกันในทุกรายการมาแล้วทั้งหมด 13 เกม ปรากฎว่า เชลซี มีสถิติเหนือกว่า โดยเป็นฝ่ายชนะ 8 เกม เสมอ 1 เกม และแพ้ 4 เกม ส่วนผลการพบกันนัดล่าสุดในศึกพรีเมียร์ลีกเมื่อปี 2020 ปรากฎว่า “สิงโตน้ำเงินคราม” บุกไปเสมอ 2-2 สำหรับผลการพบกันนัดล่าสุดที่สนามแห่งนี้ในศึกพรีเมียร์ลีกเมื่อปี 2019 ปรากฎว่า บอร์นมัธ บุกไปเฉือนชนะ 1-0

สถิติที่เคยพบกัน 5 เกมหลังสุด

คาราบาว คัพ ปี 2018 : เชลซี ชนะ บอร์นมัธ 1-0

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ปี 2019 : บอร์นมัธ ชนะ เชลซี 4-0

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ปี 2019 : เชลซี แพ้ บอร์นมัธ 0-1

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ปี 2020 : บอร์นมัธ เสมอ เชลซี 2-2

ฟุตบอลนัดกระชับมิตร ปี 2021 : บอร์นมัธ แพ้ เชลซี 1-2

ความน่าจะเป็น

เจอปัญหานักเตะได้รับบาดเจ็บหลายคนเลย แต่ เชลซี ยังมีนักเตะฝีเท้าดีให้เลือกใช้งานได้อีกหลายคน และพร้อมมุ่งมั่นเพื่อเก็บชัยในบ้านของตัวเองให้ได้ เพราะทำผลงานในช่วงก่อนพักเบรกฟุตบอลโลก 2022 ได้ไม่ดีเลย ส่วน บอร์นมัธ อยู่ในช่วงฟอร์มแกว่งตอนก่อนพักเบรกเหมือนกัน เพราะว่าเคยพบกับความพ่ายแพ้ถึง 4 เกมติดต่อกันเลยด้วย จึงพร้อมจัดผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนามเพื่อเดินหน้าเก็บชัยกันต่อไป คาดว่า “สิงโตน้ำเงินคราม” น่าจะเรียกฟอร์มเก่งกลับคืนมาได้ และถือความได้เปรียบจากการลงเล่นในถิ่นตัวเองอีกต่างหาก ส่วน บอร์นมัธ เล่นเกมนอกบ้านได้ไม่ค่อยดีนัก ดังนั้น เชลซี จึงน่าจะมีโอกาสเก็บชัยในรังของตัวเองเอาไว้ได้

ผลที่คาด : เชลซี ชนะ บอร์นมัธ 2-1

บทความนี้นับสนุนโดย Siam99 เว็บคาสิโนออนไลน์ที่นึ่งในประเทศไทย

บทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับการวิเคราะห์ฟุตบอล และ EPL

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *