วิเคราะห์ฟุตบอล เนชั่นส์ลีก สเปน VS อิตาลี

วิจารณ์บอลเนชั่นส์ลีก สเปน VS อิตาลี

“อัซซูรี่” อิตาลี น่าจะให้ มาเตโอ เรเตกี ลงไปยืนเป็นหัวหอกนัดดวลแข้งกับ “กระทิงดุ” สเปน พร้อมใช้งาน อัลบาโร่ โมราต้า ยืนค้ำแดนหน้าในศึกฟุตบอลยูฟ่า เนชั่นส์ลีก ไฟนอลส์ รอบรองชนะเลิศ คืนวันที่ 15 มิ.ย.นี้ เพื่อแย่งกันเก็บชัยตบเท้าผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศไปเลย      

ยูฟ่า เนชั่นส์ลีก ไฟนอลส์ รอบรองชนะเลิศ

สเปน VS อิตาลี

สนาม : เดอ กรอลช์ เวสเต้, เมืองเอ็นเชเด้ ประเทศเนเธอร์แลนด์ 

เวลา : 01.45 น.

สเปน

ผลงาน 5 เกมหลังสุด

ฟุตบอลโลก 2022 รอบแรก : เสมอ เยอรมนี 1-1 (สนามกลาง)

ฟุตบอลโลก 2022 รอบแรก :  แพ้ ญี่ปุ่น 1-2 (สนามกลาง)  

ฟุตบอลโลก 2022 รอบ 16 ทีมสุดท้าย : เสมอ โมร็อคโก 0-0 (สนามกลาง) – แพ้ดวลจุดโทษตัดสิน

ยูโร 2024 รอบคัดเลือก : ชนะ นอร์เวย์ 3-0 (เหย้า)

ยูโร 2024 รอบคัดเลือก : แพ้ สกอตแลนด์ 0-2 (เยือน) 

คาดว่ากุนซือ หลุยส์ เดอ ลา ฟวนเต้ จะปรับทัพบางตำแหน่งเพื่อลุ้นเก็บชัยผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศไปเลย แม้จะมีนักเตะได้รับบาดเจ็บจนต้องขอถอนตัวออกไปบ้าง แต่ว่าพวกแข้งหลักยังคงพร้อมออกสตาร์ทเป็นตัวจริงอยู่แล้ว จึงพร้อมจัดผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนามอย่างแน่นอนที่ดีที่สุดลงสนามไปเลย

11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามเป็นตัวจริงตามแผนการเล่นแบบ 4-2-3-1

อูไน ซิมอน, นาโช่ แฟร์นันเดซ, อายเมริก ลาปอร์ก, ฆอร์ดี้ อัลบา, ดานี่ คาร์บาฆัล, โรดรี้, มิเกล เมริโน่, มาร์โก อเซนซิโอ, กาบี, ดานี่ โอลโม่, อัลบาโร่ โมราต้า

ผู้รักษาประตู : พร้อมให้ อูไน ซิมง ลงไปยืนเฝ้าเสาเป็นตัวจริงในฐานะมือหนึ่ง ส่วนในรายของ เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า รวมถึง ดาวิด เรย่า เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองไปก่อน

แนวรับ : น่าจะให้ นาโช่ แฟร์นันเดซ ลงไปยืนเป็นกองหลังคู่กับ อายเมริก ลาปอร์ก ส่วนแบ็กซ้ายน่าจะให้ ฆอร์ดี้ อัลบา ลงไปยืนประจำการ โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ ดานี่ คาร์บาฆัล ในตำแหน่งแบ็กขวา ทำให้ โรบิน เลอ นอร์มานด์, ฆวน เบร์นาท และ เฆซุส นาบาส เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองเพื่อรอโอกาสลงสนามกันต่อไป

แดนกลาง : ไม่มี เปดรี้ ได้รับบาดเจ็บ จึงไม่ถูกเรียกตัวมาติดทีมชุดนี้เพื่อให้พักไปเลย แต่พร้อมให้ โรดรี้ ลงไปเป็นตัวหลักในแผงมิดฟิลด์ร่วมกับ มิเกล เมริโน่ ส่วนในรายของ เซร์คิโอ กานาเลส และ ฟาเบียน รุยซ์ เตรียมนั่งอยู่ที่ข้างสนามได้เลย

แนวรุก : เตรียมได้เห็น อัลบาโร่ โมราต้า ลงไปยืนเป็นกองหน้าตัวเป้า และน่าจะให้ กาบี ขยับจากมิดฟิลด์ขึ้นไปสวมบทเป็นตัวริมเส้นฝั่งซ้าย โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ มาร์โก อเซนซิโอ ในตำแหน่งตัวริมเส้นฝั่งขวา ส่วนในรายของ ดานี่ โอลโม่ น่าจะได้ทำหน้าที่เป็นตัวปั้นเกมในฐานะเพลย์เมกเกอร์ ทำให้ เยเรมี่ ปิโน่, อันซู ฟาติ, โรดริโก้ โมเรโน่ รวมถึง โฆเซลู ไม่น่าจะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงอยู่แล้ว

อิตาลี

ผลงาน 5 เกมหลังสุด

ยูฟ่า เนชั่นส์ลีก : ชนะ ฮังการี 2-0 (เยือน)

นัดกระชับมิตร : ชนะ แอลเบเนีย 3-1 (เยือน)

นัดกระชับมิตร : แพ้ ออสเตรีย 0-2 (เยือน)

ยูโร 2024 รอบคัดเลือก : แพ้ อังกฤษ 1-2 (เหย้า)

ยูโร 2024 รอบคัดเลือก : ชนะ มอลตา 2-0 (เยือน)

คาดว่ากุนซือ โรแบร์โต้ มันชินี่ จะปรับทัพบางตำแหน่งเพื่อลุ้นเก้บชัยผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศไปเลย แต่ไม่น่าจะให้พวกนักเตะของ “งูใหญ่” อินเตอร์ มิลาน ลงสนามเป็นตัวจริง เพราะเพิ่งเหนื่อยล้ามาจากการลงเล่นในนัดชิงยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา จึงเตรียมได้พักไปก่อน ส่วนพวกแข้งหลักรายอื่นๆ ยังคงพร้อมออกสตาร์ทตัวจริงอยู่แล้ว

11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามเป็นตัวจริงตามแผนการเล่นแบบ 4-3-3

จานลุยจิ ดอนนารุมม่า, เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่, ราฟาเอล โตลอย, เลโอนาร์โด้ สปินาซโซล่า, โจวานนี่ ดิ ลอเรนโซ่, มาร์โก แวร์รัตติ, จอร์จินโญ่, ลอเรนโซ่ เปเยกรินี่, เฟเดริโก้ เคียซ่า, จามโคโล่ ราสปาโดรี่, มาเตโอ เรเตกี  

ผู้รักษาประตู : พร้อมให้มือหนึ่ง นั่นก็คือ จานลุยจิ ดอนนารุมม่า ยืนเฝ้าเสาเป็นตัวจริงอยู่แล้ว ส่วนในรายของ อเล็กซ์ เมเร็ต น่าจะได้ทำหน้าที่เป็นมือสองเหนือกว่า กูเยลโม่ วิคาริโอ เตรียมนั่งเป็นตัวสแตนบายอยู่ที่ข้างสนามไปก่อน  

แนวรับ : ไม่น่าจะให้ อเลสซานโดร บาสโตนี่, ฟรานเชสโก้ อาแชร์บี้, มัตเตโอ ดาร์เมียน รวมถึง เฟเดริโก้ ดิมาร์โก ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง เพราะเป็นนักเตะของ อินเตอร์ มิลาน นั่นเอง แต่พร้อมให้ เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่ ยืนเป็นกองหลังคู่กับ ราฟาเอล โตลอย ส่วนแบ็กซ้ายน่าจะให้ เลโอนาร์โด้ สปินาซโซล่าลงไปยืนประจำการ โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ โจวานนี่ ดิ ลอเรนโซ่ ซึ่งน่าจะได้ยืนปักหลักในตำแหน่งแบ็กขวาอยู่แล้ว

แดนกลาง : น่าจะดร็อป นิโกโล่ บาเรลล่า เป็นตัวสำรองเพื่อให้พัก เพราะเป็นอีกหนึ่งนักเตะของ อินเตอร์ มิลาน นั่นเอง แต่พร้อมให้ มาร์โก แวร์รัตติ ยืนเป็นตัวหลักในแผงมิดฟิลด์ และน่าจะให้ จอร์จินโญ่ รวมถึง ลอเรนโซ่ เปเยกรินี่ ลงไปช่วยยืนคุมเกมด้วยเช่นกัน ส่วนในรายของ ไบรอัน คริสตันเต้, นิโกโล่ ซานิโอโล่ และ ดาวิเด้ ฟรัตเตซี่ ไม่น่าจะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงตั้งแต่นาทีแรก 

แนวรุก : เตรียมได้เห็น มาเตโอ เรเตกี สวมบทเป็นกองหน้าตัวเป้าเหนือกว่า ชิโร่ อิมโมบิเล่ ซึ่งน่าจะต้องนั่งเป็นตัวสำรองไปก่อน ส่วน เฟเดริโก้ เคียซ่า เตรียมได้ทำหน้าที่เป็นตัวริมเส้นฝั่งซ้าย โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ จามโคโล่ ราสปาโดรี่ ในตำแหน่งตัวริมเส้นฝั่งขวา ทำให้ วิลฟรีด ญอนโต้ เตรียมนั่งอยู่ที่ข้างสนามได้เลย   

สถิติการพบกันเอง

สำหรับคู่นี้เคยดวลแข้งกันในทุกรายการมาแล้วทั้งหมด 39 เกม ปรากฎว่า สเปน มีสถิติเหนือกว่าเล็กน้อย โดยเป็นฝ่ายชนะ 14 เกม เสมอ 13 เกม และแพ้ 12 เกม ส่วนผลการพบกันนัดล่าสุดในศึกยูฟ่า เนชั่นส์ลีก ไฟนอลส์ รอบรองชนะเลิศ เมื่อปี 2021 ปรากฎว่า “กระทิงดุ” เป็นฝ่ายเฉือนชนะ 2-1

สถิติที่เคยพบกัน 5 เกมหลังสุด

ยูโร 2016 รอบ 16 ทีมสุดท้าย ปี 2016 : อิตาลี ชนะ สเปน 2-0 

ฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก ปี 2016 : อิตาลี เสมอ สเปน 1-1

ฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก ปี 2017 : สเปน ชนะ อิตาลี 3-0

ยูโร 2020 รอบ 8 ทีมสุดท้าย ปี 2021 : อิตาลี เสมอ สเปน 1-1 (อิตาลี ชนะดวลจุดโทษตัดสิน) 

ยูฟ่า เนชั่นส์ลีก ไฟนอลส์ รอบรองชนะเลิศ ปี 2021 : อิตาลี แพ้ สเปน 1-2

ความน่าจะเป็น

แน่นอนว่า อิตาลี หมายมั่นปั้นมือหวังคว้าแชมป์รายการนี้ให้ได้ เพื่อลบล้างความผิดหวังจากการชวดไปโชว์ฝีเท้าในศึกฟุตบอลโลก 2022 นั่นเอง ส่วน สเปน หวังไปให้ถึงตำแหน่งแชมปืด้วยเช่นกัน เพราะจะได้แก้ตัวจากการกระเด็นตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายในศึกฟุตบอลโลก 2022 โดยทั้งสองทีมยังคงอยู่ในช่วงเปลี่ยนถ่ายนักเตะสายเลือดใหม่ แม้ว่า “อัซซูรี่” พร้อมให้นักเตะหน้าใหม่ลงเล่นในบางตำแหน่ง แต่ยังคงพร้อมให้พวกแข้งเก๋าลงไปช่วยประคับประคองด้วย ซึ่งคล้ายๆ กับ “กระทิงดุ” มีตัวเลือกให้ใช้งานได้เพียบเลย และเป็นไปแบบผสมผสานระหว่างพวกหน้าใหม่กับพวกแข้งเก๋าเลยด้วย คาดว่า สเปน น่าจะมีโอกาสเก็บชัยชนะได้มากกว่า  

ผลที่คาด : สเปน ชนะ อิตาลี 2-1

บทความนี้นับสนุนโดย Siam99 เว็บคาสิโนออนไลน์ที่นึ่งในประเทศไทย

บทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับการวิเคราะห์ฟุตบอลเนชั่นส์ลีก

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *