“บาเยิร์น” อย่าประมาท 5 ผู้ท้าชิงแชมป์บุนเดสลีกา
แม้จะครองความเป็น “เบอร์หนึ่ง” ของวงการลูกหนังเยอรมันมาแบบยาวนานถึงหนึ่งทศวรรษเลยทีเดียว นับตั้งแต่เริ่มต้นผูกขาดบัลลังก์แชมป์บุนเดสลีกาเมื่อปี 2013 เรื่อยมาได้ถึง 10 สมัยติดต่อกันแล้วด้วย แต่ “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค จะไม่เจองานง่ายสำหรับการลุ้นคว้าแชมป์ลีกสูงสุดเมืองเบียร์ในช่วงฤดูกาลนี้อย่างแน่นอน แม้จะมีเดิมพันเพื่อลุ้นป้องกันแชมป์ลีกสูงสุดของประเทศเป็นสมัยที่ 11 ติดต่อกัน และยังคงรั้งตำแหน่งจ่าฝูงในช่วงหลังลงเตะไปแล้ว 19 เกมจนถึงตอนต้นเดือนกุมภาพันธ์ แต่ว่ามีคะแนนทิ้งห่าง 5 ทีมคู่แข่งที่ไล่ตามหลังมาไม่มากนัก ทำให้สถานการณ์ลุ้นแชมป์ประจำซีซั่นนี้เป็นไปแบบสนุกเลยทีเดียว เพราะยังคงเปิดกว้างให้กับ 6 ทีมนำบนหัวตารางคะแนนจากการไล่บี้แบบหายใจรดต้นคอกันอยู่แล้วด้วย
ตอนนี้ บาเยิร์น มิวนิค ยังคงรั้งอันดับ 1 อยู่ก็จริง แต่ว่านำหน้าอีก 5 ทีมคู่แข่งที่ไล่ตามหลังเพียงแค่ไม่กี่แต้มเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็น อูนิโอน เบอร์ลิน, โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์, แอร์เบ ไลป์ซิก ไอน์ทรัคท์ แฟรงค์เฟิร์ต รวมถึง ไฟร์บวร์ก ยังถือว่าเกาะกลุ่มลุ้นแชมป์บุนเดสลีกาได้เหมือนกัน เท่ากับว่าผลการแข่งขันในช่วงแต่ละสัปดาห์ของทั้ง 6 ทีมนำในกลุ่มหัวแถวจะมีผลต่อการลุ้นแชมป์ลีกสูงสุดเมืองเบียร์ประจำฤดูกาลนี้ไปแบบเต็มๆ เพราะถ้าทีมไหนไม่สามารถเก็บชัยชนะได้ หรือถึงขั้นพลาดท่าแพ้ก็จะมีโอกาสหลุดจากวงโคจรได้ด้วยเช่นกัน
แน่นอนว่า บาเยิร์น มิวนิค ยังคงเป็นเต็งหนึ่งในฐานะแชมป์เก่าถึง 10 สมัยติดต่อกัน แต่เป็นเพราะมีการเปลี่ยนแปลงเรื่องแนวรุก เพราะตัดสินใจปล่อย โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ดาวยิงตัวเก่งให้ย้ายไปร่วมทัพ บาร์เซโลน่า แม้จะมีการคว้า ซาดิโอ มาเน่ มาจาก ลิเวอร์พูล เพื่อให้เข้ามาช่วยสอยตาข่าย แต่ไม่ได้เป็นผู้เล่นในตำแหน่งกองหน้าตัวเป้าตามตำแหน่งที่สูญเสียไปแบบ 100% จึงต้องมอบหมายให้ เอริค มักซิม ชูโป โมติง กองหน้าตัวสำรองสวมบทนี้ไปก่อน และฝากผลงานยิงประตูได้น่าประทับใจเลยด้วย
หากจะว่าไปแล้วชีวิตค้าแข้งของกองหน้าวัย 33 ปีถือว่าไม่ธรรมดาเหมือนกัน เพราะว่าเคยผ่านจุดตกต่ำที่สุด และได้พุ่งทะยานไปสู่จุดสูงสุดมาแล้วด้วย แถมยังเป็นนักเตะจอมพเนจรที่ได้ย้ายทีมแบบไม่มีค่าตัวมาโดยตลอดเลย โดยเริ่มแจ้งเกิดในอาชีพค้าแข้งกับ ฮัมบูร์ก ในเยอรมนีเมื่อปี 2007 ซึ่งเป็นไปตามถิ่นกำเนิดเลยด้วย เพราะว่าคุณพ่อเป็นชาวแคเมอรูนที่ย้ายมาลงหลักปักฐานในถิ่นเมืองเบียร์ และแต่งงานกับคุณแม่ของเขาที่เป็นชาวเยอรมันนั่นเอง แต่ว่าไม่ประสบความสำเร็จกับทีมต้นสังกัดแรกในชีวิต เพราะว่าเป็นเพียงแค่ตัวสำรองที่แทบจะไม่ได้รับโอกาสให้ลงสนามเลย จึงตัดสินใจย้ายไปค้าแข้งกับ ไมนซ์ ในปี 2011 และได้ย้ายไปร่วมทัพ ชาลเก้ ในปี 2014 พร้อมกับสร้างชื่อจากการยิงประตูได้แบบต่อเนื่องเลย หลังจากนั้นได้มีโอกาสย้ายไปโชว์ฝีเท้าในถิ่นต่างแดนเป็นครั้งแรกในชีวิต เพราะได้ย้ายไปค้าแข้งบนเกาะอังกฤษกับ สโต๊ค ในปี 2017 แต่กลับกระเด็นตกชั้นจากศึกพรีเมียร์ลีกในช่วงหลังจบฤดูกาล 2017/2018
แม้จะดูเหมือนว่าชีวิตต้องเผชิญหน้ากับจุดตกต่ำเสียแล้ว แต่ ชูโป-โมติง กลับมีวาสนาที่ช่วยเกื้อหนุนให้ได้ย้ายไปซบทีมยักษ์ใหญ่ในฝรั่งเศส เพราะลงเอยกับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ในปี 2018 ซึ่งเป็นไปตามคำชักชวนของอดีตนายใหญ่แห่งถิ่นปาร์ค เดส แปร็งซ์ นั่นก็คือ โธมัส ทูเคิ่ล เจ้านายเก่าเมื่อตอนสมัยที่เคยอยู่กับ ไมนซ์ ด้วยกันมาก่อน และแน่นอนว่าต้องไปนั่งเป็นตัวสำรองของพวกดาวเตะระดับ “ซูเปอร์สตาร์” โดยเฉพาะ เนย์มาร์ กับ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ นั่นเอง แต่ ชูโป-โมติง ก็ไม่เคยปริปากบ่นอะไรเลย และพร้อมลงไปทำหน้าที่ล่าตาข่ายในยามที่ได้รับโอกาสให้ลุกจากม้านั่งสำรองเพื่อลงสนามได้ทุกเมื่อด้วย
แม้จะดูเหมือนว่าชีวิตของ ชูโป-โมติง ได้ก้าวเท้าขึ้นไปสู่จุดที่สูงที่สุดเรียบร้อยแล้ว เพราะประสบความสำเร็จจากการกวาดถ้วยแชมป์ในฝรั่งเศสร่วมกับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ได้หลายรายการเลย แต่ว่าโชคชะตาได้ขีดเขียนให้ก้าวเดินไปสู่อีกหนึ่งจุดในระดับสูง เพราะได้หวนกลับคืนสู่เยอรมนเพื่อไปร่วมทัพ บาเยิร์น มิวนิค ในปี 2020 ซึ่งถือว่าเป็นการย้ายทีมที่สร้างความประหลาดใจให้กับแฟนบอลเป็นอย่างมาก แต่เป็นเพราะว่า “เสือใต้” อยากให้ย้ายมานั่งเป็นตัวสำรองในแนวรุกเพื่อเป็นอะไหล่ของ โรเบิร์ต เลวานดอสฟกี้ ในยามฉุกเฉินเท่านั้น และไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับนักเตะที่พร้อมสวมบทเป็น “พระรอง” อยู่แล้วด้วย แต่หลังจากที่ “เลวานดี้” ได้ตัดสินใจขอย้ายไปร่วมทัพ บาร์เซโลน่า ในช่วงก่อนเริ่มฤดูกาลนี้
ทำให้ ยูเลี่ยน นาเกลส์มันน์ กุนซือ บาเยิร์น มิวนิค ต้องปรับเปลี่ยนแผนการเล่นมาเป็นแบบไม่ใช้กองหน้าตัวเป้า เพราะไม่มีการลงทุนซื้อผู้เล่นในตำแหน่งหัวหอกเข้ามาเสริมทัพเพื่อทดแทนกันเลยด้วย นอกเหนือจาก ซาดิโอ มาเน่ ซึ่งถนัดกับการสวมบทเป็นปีกริมเส้นอยู่แล้ว แต่ต้องยอมรับว่าการขาดหายไปของ เลวานดอสฟกี้ ได้สร้างผลกระทบให้กับเรื่องของการยิงประตูอยู่พอสมควร และเคยถึงขั้นฟอร์มรูดจากปัญหาแนวรุกฝืดแบบช็อตไปดื้อๆ จึงไม่พบกับชัยชนะในศึกบุนเดสลีกาถึง 5 เกมติดต่อกันอีกต่างหาก ทำให้ต้องมีการปรับหมากกลับมาใช้แผนการเล่นแบบที่มีกองหน้าตัวเป้าอีกครั้งเพื่อให้ช่วยเก็บบอลในแนวรุกนั่นเอง จึงกลายเป็นโอกาสของ ชูโป-โมติง ที่จะได้ลงสนามเป็นตัวจริงไปแบบเต็มๆ เลย เพราะว่าเป็นผู้เล่นในตำแหน่งหัวหอกที่มีอยู่ภายในทีมเพียงคนเดียวเท่านั้น และมีส่วนช่วยให้แนวรุกของ บาเยิร์น มิวนิค กลับมายิงประตูเอาชนะทีมคู่แข่งได้แบบเป็นกอบกำอีกครั้งหนึ่งด้วย
แต่ “เสือใต้” กลับเกิดอาการสะดุดจากการชวดคว้าชัยในหลายๆ เกม แม้จะไม่ถึงขั้นเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ในช่วงหลังจากที่เพิ่งพบกับความปราชัยไปเพียงแค่นัดเดียวเท่านั้น แต่ว่าลงเอยด้วยผลเสมอเยอะอยู่เหมือนกัน ทำให้อีก 5 ทีมคู่แข่งที่ไล่ตามหลังมาแบบติดๆ มีโอกาสแซงหน้า “เสือใต้” เพื่อขยับขึ้นไปยึดตำแหน่งจ่าฝูงได้ทุกเมื่อ เพราะสามารถเก็บชัยชนะได้แบบต่อเนื่องเลย โดยเฉพาะ อูนิโอน เบอร์ลิน ซึ่งทำผลงานในช่วงซีซั่นนี้ได้ดีเกินคาด แม้จะไม่มีดาวเด่นระดับ “ซูเปอร์สตาร์” เป็นตัวชูโรง แต่มีจุดเด่นในเรื่องของการเล่นด้วย “ทีมเวิร์ก” เป็นหลัก จึงสามารถยกระดับของตัวเองจากที่เคยอยู่แถวๆ กลางตารางคะแนนให้ก้าวเท้าขึ้นมาเกาะกลุ่มลุ้นแชมป์บุนเดสลีกาได้ด้วย ขณะที่ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เคยมีผลงานแบบ 3 วันดี 4 วันไข้ในช่วงครึ่งทางแรกของฤดูกาลนี้ แต่สามารถเรียกฟอร์มเก่งกลับคืนมาได้ในช่วงหลังพักเบรกหนีหนาว เพราะไล่เก็บชัยชนะได้ถึง 4 เกมซ้อน นับตั้งแต่เปิดฉากฟาดแข้งในช่วงครึ่งฤดูกาลหลังเมื่อปลายเดือนก่อน และได้ เซบาสเตียน อัลแลร์ กองหน้าตัวความหวังใหม่ฟื้นตัวจากอาการป่วยมะเร็งอัณฑะกลับมาช่วยยืนล่าตาข่ายได้แล้วอีกต่างหาก จึงกลับมาเกาะกลุ่มลุ้นแชมป์ลีกสูงสุดเมืองเบียร์ได้สำเร็จ
เช่นเดียวกับ แอร์เบ ไลป์ซิก ซึ่งเคยโชว์ฟอร์มแย่ในช่วงออกสตาร์ท จึงต้องเปลี่ยนตัวกุนซือจากการปลด โดมินิโก้ เทเดสโก้ เพื่อให้ มาร์โก โรเซ่ อดีตกุนซือ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เมื่อช่วงฤดูกาลก่อนให้เข้ามารับงานคุมทีมแทน และสามารถพาทีมกลับมาโชว์ฟอร์มแกร่งจากการไร้พ่ายมาแล้วถึง 12 เกมติดต่อกัน ส่วน ไอน์ทรัคท์ แฟรงค์เฟิร์ต เป็นอีกทีมที่น่าจับตามองเหมือนกัน หลังผงาดคว้าแชมป์ยูฟ่า ยูโรปาลีก เมื่อช่วงฤดูกาลก่อนได้แบบพลิกความคาดหมาย และได้ยกระดับขึ้นมาเกาะกลุ่มลุ้นแชมป์จากการไร้พ่ายในศึกบุนเดสลีกามาแล้วถึง 7 เกม ปิดท้ายด้วย ไฟร์บวร์ก ซึ่งเคยโชว์ฟอร์มแรงในช่วงออกสตาร์ทฤดูกาลนี้ แม้ว่าช่วงหลังๆ จะฟอร์มดร็อปลงไป แต่ยังคงเกาะกลุ่มหัวแถวจากการไล่ตามหลัง บาเยิร์น มิวนิค ทีมจ่าฝูงแบบไม่ห่างกันมากนัก
ทำให้ “เสือใต้” ต้องระวัง 5 ทีมที่ไล่ตามหลังเอาไว้ให้ดีๆ เพราะว่าพร้อมเขย่าบัลลังก์ของ บาเยิร์น มิวนิค ให้หล่นจากการเป็นทีมจอมผูกขาดแชมป์บุนเดสลีกามาแบบยาวนานถึงหนึ่งทศวรรษแล้วนั่นเอง
บทความนี้นับสนุนโดย Siam99 เว็บคาสิโนออนไลน์ที่นึ่งในประเทศไทย