บุนเดสลีกา เยอรมนี
ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น VS บาเยิร์น มิวนิค
สนาม : ไบ อารีน่า
เวลา : 23.30 น.
ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น
ผลงาน 5 เกมหลังสุดในศึกบุนเดสลีกา
บุนเดสลีกา เยอรมนี : ชนะ ฮอฟเฟ่นไฮม์ 3-1 (เยือน)
บุนเดสลีกา เยอรมนี : แพ้ ไมนซ์ 2-3 (เยือน)
บุนเดสลีกา เยอรมนี : เสมอ ไฟร์บวร์ก 1-1 (เยือน)
บุนเดสลีกา เยอรมนี : ชนะ แฮร์ธา เบอร์ลิน 4-1 (เหย้า)
บุนเดสลีกา เยอรมนี : ชนะ แวร์เดอร์ เบรเมน 3-2 (เยือน)
คาดว่ากุนซือ ซาบี้ อลอนโซ่ จะปรับทัพบางตำแหน่ง เพื่อลุ้นเก็บชัยทำอันดับขยับขึ้นไปบนหัวตารางคะแนน โดยยังอยู่อันดับ 9 แข่ง 24 นัด มี 34 คะแนน แม้จะมีนักเตะได้รับบาดเจ็บอยู่แล้ว แต่ยังใช้งานพวกแข้งหลักได้อีกหลายคน
11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามเป็นตัวจริงตามแผนการเล่นแบบ 3-4-2-1
ลูคัส ฮราเด็คกี้, ปิเอโร่ ฮินคาปี้, โจนาธาน ทาห์, โอดิลอน คอสซูนู, โรเบิร์ต อันดริช, เอเซเกียล ปาลาซิออส, มิทเชล บัคเกอร์, เฌเรมี่ ฟริมปง, อามีน อัดลี่, มุสซ่า ดิอาบี้, อดัม โฮเซ็ค
ผู้รักษาประตู : ยังคงเป็นหน้าที่ของ ลูคัส ฮราเด็คกี้ พร้อมยืนเฝ้าเสาเป็นตัวจริงเหมือนเดิม แต่ไม่มีมือสอง นั่นก็คือ อังเดร ลุนยอฟ ต้องพักรักษาอาการบาดเจ็บไปก่อน จึงพร้อมให้ พาทริค เพ็นท์ซ นั่งเป็นตัวสำรองอยู่ที่ข้างสนามไปก่อน
แนวรับ : ไม่น่าจะให้ เอ็ดมอนด์ แท็ปโซบา รวมถึง โนอาห์ เอ็มบัมบา ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง เพราะน่าจะใช้ 3 ประสาน นั่นก็คือ ปิเอโร่ ฮินคาปี้, โจนาธาน ทาห์ และ โอดิลอน คอสซูนู ลงไปยืนคุมแเดนหลังร่วมกันทั้งหมดเลย ส่วนในรายของ ดาลีย์ ซิงค์กราเฟ่น รวมถึง ติโมธี โฟซู-เมนซาห์ เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองเหมือนเดิม
แดนกลาง : พร้อมให้ โรเบิร์ต อันดริช ลงไปยืนคุมเกมร่วมกับ เอเซเกียล ปาลาซิออส เพราะหมดสิทธิ์ใช้งาน ชาร์ลส อรานกูอิซ ต้องพักรักษาโรคเดี้ยงไปก่อน ส่วนวิงแบ็กฝั่งซ้ายพร้อมให้ มิทเชล บัคเกอร์ ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในตำแหน่งนี้เหมือนเดิม โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ เฌเรมี่ ฟริมปง ซึ่งพร้อมสวมบทเป็นวิงแบ็กฝั่งขวาด้วยเช่นกัน
แนวรุก : หมดสิทธิ์ใช้งาน พาทริค ชีค ยังไม่หายจากการบาดเจ็บ จึงน่าจะให้ อดัม โฮเซ็ค สวมบทเป็นกองหน้าเหมือนนัดที่แล้ว และน่าจะให้ อามีน อัดลี่ กับ มุสซ่า ดิอาบี้ สวมบทเป็นตัวปั้นเกมในฐานะเพลย์เมกเกอร์ทั้งคู่เลย แต่ยังคงไร้ คาริม เบลลารามี่ เจอโรคเดี้ยงเล่นงาน ส่วนในรายของ คัลลัม ฮัดสัน โอดอย, ซาร์ดาร์ อัซมูน, นาเดียม อามีรี่ รวมถึง ฟลอเรียน เวียร์ตซ เตรียมนั่งอยู่ที่ข้างสนามเหมือนอย่างนัดที่แล้ว
บาเยิร์น มิวนิค
ผลงาน 5 เกมหลังสุดในศึกบุนเดสลีกา
บุนเดสลีกา เยอรมนี : ชนะ โบคุ่ม 3-0 (เหย้า)
บุนเดสลีกา เยอรมนี : แพ้ โบรุสเซีย มึนเชนกลัดบัค 2-3 (เยือน)
บุนเดสลีกา เยอรมนี : ชนะ อูนิโอน เบอร์ลิน 3-0 (เหย้า)
บุนเดสลีกา เยอรมนี : ชนะ สตุ๊ตการ์ท 2-1 (เยือน)
บุนเดสลีกา เยอรมนี : ชนะ เอาส์บวร์ก 5-3 (เหย้า)
คาดว่ากุนซือ ยูเลี่ยน นาเกลส์มันน์ จะปรับทัพบางตำแหน่ง เพื่อลุ้นเก็บชัยนำเป็นจ่าฝูงอยู่บนหัวตารางคะแนนต่อไป และจะได้หนีทีมคู่แข่งที่ไล่ตามหลังมาแบบติดๆ จากการมีคะแนนนำหน้าอยู่ไม่ห่างกันมากนักอีกต่างหาก โดยในช่วงก่อนเกมอยู่อันดับ 1 แข่ง 24 นัด มี 52 คะแนน นำหน้า โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ทีมอันดับ 2 อยู่เพียงแค่ 2 แต้ม จึงพร้อมให้พวกแข้งหลักออกสตาร์ทเป็นตัวจริง เพราะว่าได้พวกแข้งดังหลายเจ็บกลับมาช่วยทีมเกือบหมดแล้ว
11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามเป็นตัวจริงตามแผนการเล่นแบบ 3-4-2-1
ยานน์ ซอมเมอร์, มัทไธจ์ส เดอ ลิกท์, ดาโลท์ อูปาเมกาโน่, แบงฌาแม็ง ปาวาร์, อัลฟองโซ่ เดวิส, เจา คันเซโล่, ยามาล มูเซียล่า, โจชัว คิมมิช, คิงส์ลีย์ โกมอง, โธมัส มุลเลอร์, ซาดิโอ มาเน่
ผู้รักษาประตู : ไม่เปลี่ยนแปลงไปจาก ยานน์ ซอมเมอร์ พร้อมยืนเฝ้าเสาเป็นตัวจริงเหมือนเดิม เพราะได้รับความไว้วางใจให้สวมบทเป็นมือหนึ่งในช่วงที่ มานูเอล นอยเออร์ ต้องพักรักษาตัวจากการอาการบาดเจ็บขาหักต่อไป ส่วนในรายของ สเวน อุลไรซ์ เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองในฐานะมือสองตามปกติ
แนวรับ : พร้อมให้ แบงฌาแม็ง ปาวาร์ ลงไปยืนเป็นกองหลังร่วมกับ มัทไธจ์ส เดอ ลิกท์ และ ดาโลท์ อูปาเมกาโน่ แต่ยังคงหมดสิทธิ์ใช้งาน ลูกาส์ แอร์กน็องเดซ ต้องพักรักษาโรคเดี้ยงต่อไป ขณะที่ บอร์น่า ซาร์, กาเบรียล มารูซิช และ ดาลีย์ บลินด์ ไม่น่าจะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงด้วยเช่นกัน
แดนกลาง : น่าจะให้ ยามาล มูเซียล่า ลงไปยืนคุมเกมร่วมกับ โจชัว คิมมิช ทำให้ เลออน โกเรตซ์ก้า, ไรอัน กราเฟ่นเบิร์ช และ พอล วานเนอร์ เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองไปก่อน ส่วนวิงแบ็กฝั่งซ้ายพร้อมให้ อัลฟองโซ่ เดวิส ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง เพราะเป็นตัวเลือกอันดับแรกเหนือกว่า นุสซาอีร์ มาซราอุย นั่นเอง โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ เจา คันเซโล่ ซึ่งน่าจะได้สวมบทเป็นวิงแบ็กฝั่งขวาในฐานะตัวเลือกเหนือกว่า โจซิป สตานิซิช ด้วยเช่นกัน
แนวรุก : เตรียมวาง ซาดิโอ มาเน่ สวมบทเป็นกองหน้าตัวเป้า เพราะน่าจะให้ เอริค มักซิม ชูโป-โมติง นั่งเป็นตัวสำรองไปก่อน ส่วนในรายของ คิงส์ลีย์ โกมอง น่าจะได้ลงไปทำหน้าที่เป็นเพลย์เมกเกอร์ เช่นเดียวกับ โธมัส มุลเลอร์ พร้อมลงไปยืนเป็นตัวปั้นเกมด้วยเช่นกัน ขณะที่ เลรอย ซาเน่ กับ แซร์จ กนาบรี้ น่าจะนั่งเป็นตัวสแตนบายไปก่อน ไม่ต่างไปจาก มาติส เทล ซึ่งไม่น่าจะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงอยู่แล้ว
สถิติการพบกันเอง
สำหรับคู่นี้เคยดวลแข้งกันในทุกรายการมาแล้วทั้งหมด 92 เกม ปรากฎว่า บาเยิร์น มิวนิค มีสถิติเหนือกว่าเยอะเลย โดยเป็นฝ่ายชนะ 56 เกม เสมอ 17 เกม และแพ้ 19 เกม ส่วนผลการพบกันนัดล่าสุดในศึกบุนเดสลีกาเมื่อปี 2022 ปรากฎว่า “เสือใต้” เปิดบ้านชนะ 4-0 สำหรับผลการพบกันในสนามแห่งนี้นัดล่าสุดเกิดขึ้นในศึกบุนเดสลีกา เมื่อปี 2021 ปรากฎว่า ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น เป็นฝ่ายแพ้คาบ้าน 1-5
สถิติที่เคยพบกัน 5 เกมหลังสุด
บุนเดสลีกา เยอรมนี ปี 2020 : ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น แพ้ บาเยิร์น มิวนิค 1-2
บุนเดสลีกา เยอรมนี ปี 2021 : บาเยิร์น มิวนิค ชนะ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น 2-0
บุนเดสลีกา เยอรมนี ปี 2021 : ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น แพ้ บาเยิร์น มิวนิค 1-5
บุนเดสลีกา เยอรมนี ปี 2022 : บาเยิร์น มิวนิค เสมอ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น 1-1
บุนเดสลีกา เยอรมนี ปี 2022 : บาเยิร์น มิวนิค ชนะ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น 4-0
ความน่าจะเป็น
เพราะว่าได้พวกแข้งดังหายเจ็บกลับมาช่วยทีมเกือบหมดแล้ว ทำให้ บาเยิร์น มิวนิค พร้อมจัดผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนามอย่างแน่นอน และต้องการเก็บชัยเพื่อรั้งตำแหน่งจ่าฝูงต่อไปด้วย ส่วน ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ถือว่าทำผลงานได้ดีขึ้น จึงสามารถขยับขึ้นมาอยู่บนหัวตารางคะแนนได้แล้ว คาดว่า “เสือใต้” มีศักยภาพที่เหนือกว่าอยู่พอสมควร จึงน่าจะบุกไปเก็บชัยชนะได้แบบไม่ยากเย็นนัก
ผลที่คาด : ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น แพ้ บาเยิร์น มิวนิค 1-3
บทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับบุนเดสลีกา
บทความนี้นับสนุนโดย Siam99 เว็บคาสิโนออนไลน์ที่นึ่งในประเทศไทยสมัครตอนนี้รับตั๋ว5ใบทันที