วิเคราะห์ฟุตบอล บุนเดสลีกา บาเยิร์น มิวนิค VS โบคุ่ม

วิจารณ์บอลบุนเดสลีกา บาเยิร์น มิวนิค VS โบคุ่ม 11.2.23

บุนเดสลีกา เยอรมนี

บาเยิร์น มิวนิค VS โบคุ่ม

สนาม : อัลลิอันซ์ อารีน่า

เวลา : 21.30 น.

บาเยิร์น มิวนิค

ผลงาน 5 เกมหลังสุดในศึกบุนเดสลีกา

บุนเดสลีกา เยอรมนี : ชนะ ชาลเก้ 2-0 (เยือน)

บุนเดสลีกา เยอรมนี : เสมอ แอร์เบ ไลป์ซิก 1-1 (เยือน)

บุนเดสลีกา เยอรมนี : เสมอ โคโลญจน์ 1-1 (เหย้า)

บุนเดสลีกา เยอรมนี : เสมอ ไอน์ทรัค แฟรงค์เฟิร์ต 1-1 (เหย้า)

บุนเดสลีกา เยอรมนี : ชนะ โวล์ฟสบวร์ก 4-2 (เยือน)

คาดว่ากุนซือ ยูเลี่ยน นาเกลส์มันน์ จะปรับทัพบางตำแหน่งจากเกมล่าสุดที่บุกไปชนะ โวล์ฟสบวร์ก 4-2 ในศึกบุนเดสลีกา เพื่อลุ้นเก็บชัยนำอยู่บนหัวตารางคะแนนในฐานะจ่าฝูงต่อไป เพราะนำหน้าทีมคู่แข่งที่ไล่ตามหลังอยู่ไม่มากนัก โดยตอนนี้ยังคงอยู่อันดับ 1 แข่ง 19 นัด มี 40 คะแนน นำหน้า อูนิโอน เบอร์ลิน ทีมอันดับ 2 เพียงแค่แต้มเดียวเท่านั้น แม้จะมีนักเตะได้รับบาดเจ็บหลายคน และมีติดโทษแบนด้วย แต่ยังมีผู้เล่นฝีเท้าดีให้เลือกใช้งาน และพร้อมลงไปทำหน้าที่ทดแทนได้อีกหลายราย

11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามเป็นตัวจริงตามแผนการเล่นแบบ 4-1-4-1

ยานน์ ซอมเมอร์, มัทไธจ์ส เดอ ลิกท์, แบงฌาแม็ง ปาวาร์, อัลฟองโซ่ เดวิส, เจา คันเซโล่, เลออน โกเรตซ์ก้า, ยามาล มูเซียล่า, คิงส์ลีย์ โกมอง, เลรอย ซาเน่, โธมัส มุลเลอร์, เอริค มักซิม โชปู-โมติง

ผู้รักษาประตู : พร้อมให้ ยานน์ ซอมเมอร์ ยืนเฝ้าเสาเป็นตัวจริงตามเดิม เพราะยังคงได้สวมบทเป็นมือหนึ่งในช่วงที่ มานูเอล นอยเออร์ ต้องพักรักษาอาการบาดเจ็บขาหักไปก่อน ส่วนในรายของ สเวน อุลไรซ์ ยังคงพร้อมนั่งเป็นตัวสำรองในตำแหน่งนี้เหมือนเช่นเคย

แนวรับ : ยังคงไร้ ลูกาส์ แอร์กน็องเดซ ต้องพักรักษาโรคเดี้ยงต่อไป เช่นเดียวกับ นุสซาอีร์ มาซราอุย ส่วนในรายของ ดาโยต์ อูปาเมกาโน่ ไม่น่าจะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงด้วยเช่นกัน เพราะน่าจะขยับ แบงฌาแม็ง ปาวาร์ จากตำแหน่งแบ็กขวาให้ฮุบเข้ามายืนเป็นกองหลังคู่กับ มัทไธจ์ส เดอ ลิกท์ เหมือนอย่างนัดที่แล้ว ส่วนแบ็กซ้ายยังคงเป็นหน้าที่ของ อัลฟองโซ่ เดวิส ลงไปยืนประจำการตามตำแหน่งถนัด โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ เจา คันเซโล่ แบ็กขวาที่ยืมตัวมาจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งยังคงพร้อมลงเล่นเป็นตัวจริงเหมือนเดิม ขณะที่ บอร์น่า ซาร์, กาเบรียล มารูซิช, โจซิป สตานิซิช และ ดาลีย์ บลินด์ ยังคงต้องรอโอกาสลงสนามเป็นตัวจริงกันต่อไป

แดนกลาง : หมดสิทธิ์ใช้งาน โจชัว คิมมิช ติดโทษแบนจากการโดนใบแดงในนัดที่แล้ว และหมดสิทธิ์ใช้งาน ไรอัน กราเฟ่นเบิร์ช มีอาการบาดเจ็บตรงหัวเข่า จึงน่าจะขยับ ยามาล มูเซียล่า ให้ถอยลงมายืนเป็นมิดฟิลด์ตัวรับคู่กับ เลออน โกเรตซ์ก้า ส่วนในรายของมิดฟิลด์ดาวรุ่ง นั่นก็คือ พอล วานเนอร์ ไม่น่าจะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงอยู่แล้ว 

แนวรุก : น่าจะได้ เอริค มักซิม ชูโป-โมติง ฟิตกลับมายืนเป็นกองหน้าตัวเป้าอีกครั้ง หลังชวดลงสนามนัดก่อนจากอาการปวดท้องนั่นเอง และพร้อมให้ โธมัส มุลเลอร์ สวมบทเป็นเพลย์เมกเกอร์ในฐานะตัวปั้นเกม เนื่องจาก ซาดิโอ มาเน่ ยังคงอยู่ในช่วงฟื้นฟูสภาพร่างกายหลังหายจากโรคเดี้ยงนั่นเอง ส่วนปีกซ้ายยังคงพร้อมให้ คิงส์ลีย์ โกมอง ลงไปยืนประจำการเหมือนเดิม โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ เลรอย ซาเน่ ในตำแหน่งปีกขวา ขณะที่ มาติส เทล และ  แซร์จ กนาบรี้ เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองเพื่อรอโอกาสลงสนามเหมือนเดิม       

โบคุ่ม

ผลงาน 5 เกมหลังสุดในศึกบุนเดสลีกา

บุนเดสลีกา เยอรมนี : ชนะ เอาส์บวร์ก 1-0 (เยือน)

บุนเดสลีกา เยอรมนี : ชนะ แฮร์ธ่า เบอร์ลิน 3-1 (เหย้า)

บุนเดสลีกา เยอรมนี : แพ้ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น 0-2 (เยือน)

บุนเดสลีกา เยอรมนี : แพ้ ไมนซ์ 2-5 (เยือน)

บุนเดสลีกา เยอรมนี : ชนะ ฮอฟเฟ่นไฮม์ 5-2 (เหย้า)

คาดว่ากุนซือ โธมัส เลทช์ จะปรับทัพจากเกมล่าสุดที่เปิดบ้านไล่ต้อน ฮอฟเฟ่นไฮม์ 5-2 ในศึกบุนเดสลีกา เพื่อลุ้นเก็บชัยขยับหนีจากโซนท้ายตารางคะแนน โดยตอนนี้ยังอยู่อันดับ 15 แข่ง 19 นัด มี 19 คะแนน นำหน้า สตุ๊ตการ์ท ทีมอันดับ 16 ในพื้นที่หนีตกชั้นเพียง 3 แต้มเท่านั้น   

11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามเป็นตัวจริงตามแผนการเล่นแบบ 4-3-3

มานูเอล รีมีนน์, เอธาน มาโซวิช, อีวาน ออร์เด็ตส์, ดานิโล่ โซอาเรส, ไซดี้ แยนโก้, เควิน สโตเกอร์, แอนโธนี่ โลซิลล่า, ฟิลิปป์ ฟอร์สเตอร์, คริสโตเฟอร์ อันท์วี่-อัดเยจ์, ทาคูมะ อาซาโนะ, ฟิลิปป์ ฮอฟมันน์

ผู้รักษาประตู : ยังคงพร้อมให้ มานูเอล รีมีนน์ ยืนเฝ้าเสาเป็นมือหนึ่งต่อไป ส่วนในรายของ มาร์โก โยฮันส์สัน เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองในฐานะมือสอง เนื่องจาก มิชาเอล เอสเซอร์ ยังต้องพักรักษาอาการบาดเจ็บไปก่อน   

แนวรับ : เตรียมให้ เอธาน มาโซวิช ยืนเป็นกองหลังคู่กับ อีวาน ออร์เด็ตส์ เหมือนเดิม ส่วนแบ็กซ้ายจะให้ ดานิโล่ โซอาเรส ลงไปยืนประจำการ โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ ไซดี้ แยนโก้ ในตำแหน่งแบ็กขวา ทำให้ คริสเตียน กัมบัว, คอสตาส สตาฟีลิดิส, จอร์ดี้ โอเซอิ-ตูตู้, วาซิลลิออส ลามโปรปูลอส, โมฮาเหม็ด ตอลบ้า และ เคเฟน ชล็อตเตอร์เบ็ค เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองทั้งหมดเลย

แดนกลาง : ไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงไปจาก เควิน สโตเกอร์, แอนโธนี่ โลซิลล่า และ ฟิลิปป์ ฟอร์สเตอร์ ซึ่งยังคงพร้อมลงไปยืนคุมเกมร่วมกันทั้งหมด เพราะเป็น 3 ตัวหลักในแผงมิดฟิลด์นั่นเอง ทำให้ ยาเซ็ค โกรัลสกี้, พาทริค ออสเตอร์ฮาจ รวมถึง ปิแอร์ คุนเด้ เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองอยู่ที่ข้างสนามตามเดิม

แนวรุก : น่าจะได้เห็น ฟิลิปป์ ฮอฟมันน์ ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้าเหมือนอย่างนัดแล้ว และพร้อมให้ ทาคูมะ อาซาโนะ สวมบทเป็นตัวริมเส้นฝั่งขวา โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ คริสโตเฟอร์ อันท์วี่-อัดเยจ์ ในตำแหน่งปีกซ้ายนั่นเอง ส่วนในรายของ เกอร์ริต โฮลท์มันน์, ซิมอน โซลเลอร์ และ โมริตซ์ โบรชินสกี้ ไม่น่าจะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงอยู่แล้ว  

สถิติการพบกันเอง

สำหรับคู่นี้เคยดวลแข้งกันในทุกรายการมาแล้วทั้งหมด 73 เกม ปรากฎว่า บาเยิร์น มิวนิค มีสถิติเหนือกว่าเยอะเลย โดยเป็นฝ่ายชนะ 50 เกม เสมอ 15 เกม และแพ้ 8 เกม ส่วนผลการพบกันนัดล่าสุดในศึกบุนเดสลีกาเมื่อปี 2022 ปรากฎว่า “เสือใต้” บุกไปถล่ม 7-0 สำหรับผลการพบกันในสนามแห่งนี้นัดล่าสุดเกิดขึ้นในศึกบุนเดสลีกาปี 2021 ปรากฎว่า โบคุ่ม บุกไปแพ้ 0-7

สถิติที่เคยพบกัน 5 เกมหลังสุด

เดเอฟเบ โพคาล ปี 2016 : โบคุ่ม แพ้ บาเยิร์น มิวนิค 0-3

เดเอฟเบ โพคาล ปี 2019 : โบคุ่ม แพ้ บาเยิร์น มิวนิค 1-2

บุนเดสลีกา เยอรมนี ปี 2021 : บาเยิร์น มิวนิค ชนะ โบคุ่ม 7-0

บุนเดสลีกา เยอรมนี ปี 2022 : โบคุ่ม ชนะ บาเยิร์น มิวนิค 4-2

บุนเดสลีกา เยอรมนี ปี 2022 : โบคุ่ม แพ้ บาเยิร์น มิวนิค 0-7

ความน่าจะเป็น

เพราะว่าโดนทีมคู่แข่งไล่ตามหลังมาแบบติดๆ ทำให้ บาเยิร์น มิวนิค พร้อมเดินหน้าเก็บชัยเพื่อรักษาบัลลังก์จ่าฝูงเอาไว้ให้ได้ ส่วน โบคุ่ม พร้อมงัดฟอร์มเก่งออกมาโชว์ได้ทุกเมื่อไปตามสถานการณ์ที่ยังต้องหนีการตกชั้น คาดว่า “เสือใต้” ดูเหนือกว่าเยอะ และถือความได้เปรียบในฐานะจ้าบ้าน จึงน่าจะเก็บชัยในถิ่นของตัวเองได้ตามคาด

ผลที่คาด : บาเยิร์น มิวนิค ชนะ โบคุ่ม 3-0

บทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับบุนเดสลีกา

บทความนี้นับสนุนโดย Siam99 เว็บคาสิโนออนไลน์ที่นึ่งในประเทศไทยสมัครตอนนี้รับตั๋ว5ใบทันที

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *