วิเคราะห์ฟุตบอล บุนเดสลีกา บาเยิร์น มิวนิค VS ชาลเก้

วิจารณ์บอลบุนเดสลีกา บาเยิร์น มิวนิค VS ชาลเก้ 13.05.23

“เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค มีกองหลังขาดหายไปหลายคน และเตรียมปรับแนวรุกเพื่อให้ แซร์จ กนาบรี้ ขยับขึ้นไปยืนเป็นกองหน้าตัวเป้านัดต้อนรับ “ราชันสีน้ำเงิน” ชาลเก้ ในศึกฟุตบอลบุนเดสลีกา เยอรมนี คืนวันที่ 13 พ.ค.นี้ เพื่อลุ้นเก็บชัยนำเป็นจ่าฝูงเหนือกว่า “เสือเหลือง” โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ต่อไป  

บุนเดสลีกา เยอรมนี

บาเยิร์น มิวนิค VS ชาลเก้

สนาม : อัลลิอันซ์ อารีน่า

เวลา : 20.30 น.

บาเยิร์น มิวนิค

ผลงาน 5 เกมหลังสุดในศึกบุนเดสลีกา

บุนเดสลีกา เยอรมนี : ชนะ ไฟร์บวร์ก 1-0 (เยือน)

บุนเดสลีกา เยอรมนี : เสมอ ฮอฟเฟนไฮม์ 1-1 (เหย้า)

บุนเดสลีกา เยอรมนี : แพ้ ไมนซ์ 1-3 (เยือน)

บุนเดสลีกา เยอรมนี : ชนะ แฮร์ธา เบอร์ลิน 2-0 (เหย้า)

บุนเดสลีกา เยอรมนี : ชนะ แวร์เดอร์ เบรเมน 2-1 (เยือน)

คาดว่ากุนซือ โธมัส ทูเคิ่ล จะปรับทัพบางตำแหน่ง เพื่อลุ้นเก็บชัยรักษาตำแหน่งจ่าฝูงต่อไป โดยตอนนี้อยู่อันดับ 1 แข่ง 31 นัด มี 65 คะแนน นำหน้า “เสือเหลือง” โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ทีมอันดับ 2 เพียงแต้มเดียวเท่านั้น จึงต้องขับเคี่ยวกันในช่วงเกมที่เหลือตามโปรแกรมกันต่อไปจนถึงที่สุด แม้จะมีนักเตะหายหน้าหายตาไปหลายราย โดยเฉพาะพวกผู้เล่นที่ยังไม่หายเดี้ยง แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อการจัดทีมลงสนามมากนัก เพราะใช้งานพวกแข้งหลักได้อีกหลายคนเลย

11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามเป็นตัวจริงตามแผนการเล่นแบบ 4-2-3-1

ยานน์ ซอมเมอร์, มัทไธจ์ส เดอ ลิกท์, แบงฌาแม็ง ปาวาร์, เจา คันเซโล่, นุสซาอีร์ มาซราอุย, โจชัว คิมมิช, เลออน โกเรซ์ก้า, ยามาล มูเซียล่า, เลรอย ซาเน่, ซาดิโอ มาเน่, แซร์จ กนาบรี้

ผู้รักษาประตู : ไม่เปลี่ยนแปลงไปจาก ยานน์ ซอมเมอร์ พร้อมยืนเฝ้าเสาเป็นมือหนึ่งต่อไป เพราะไร้เงา มานูเอล นอยเออร์ ยังคงต้องพักรักษาตัวจากการอาการขาหักต่อไป ส่วนในรายของมือสอง นั่นก็คือ  สเวน อุลไรซ์ เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองเหมือนอย่างนัดที่แล้ว  

แนวรับ : ขาดหายไปถึง 4 คน นั่นก็คือ ลูกาส์ แอร์กน็องเดซ, ดาโยต์ อูปาเมกาโน่, โจซิป สตานิซิช รวมถึง อัลฟองโซ่ เดวิส ซึ่งต้องพักรักษาอาการบาดเจ็บไปก่อน จึงพร้อมให้ แบงฌาแม็ง ปาวาร์ ต้องขยับจากแบ็กขวามาสวมบทเป็นกองหลังเพื่อยืนคู่กับ มัทไธจ์ส เดอ ลิกท์ เหมือนอย่างนัดก่อน ส่วนในรายของ เจา คันเซโล่ พร้อมลงไปสวมบทเป็นแบ็กซ้าย โดยจะยืนอยู่คนละฝั่งกับ นุสซาอีร์ มาซราอุย ในตำแหน่งแบ็กขวา และเตรียมได้เห็น ดาลีย์ บลินด์, บอร์น่า ซาร์ และ กาเบรียล มารูซิช นั่งเป็นตัวสำรองเหมือนเช่นเคย 

แดนกลาง : เตรียมได้ เลออน โกเรตซ์ก้า พ้นโทษแบนกลับมายืนคุมเกมร่วมกับ โจชัว คิมมิช ทำให้ ไรอัน กราเฟ่นเบิร์ช เตรียมกลับไปนั่งเป็นตัวสำรองอีกครั้ง เช่นเดียวกับเด็กปั้น นั่นก็คือ พอล วานเนอร์ ซึ่งไม่น่าจะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงอยู่แล้ว

แนวรุก : ยังคงไร้ เอริค มักซิม ชูโป-โมติง ต้องพักรักษาอาการบาดเจ็บไปก่อน จึงพร้อมให้ ยามาล มูเซียล่า ลงไปสวมบทเป็นเพลย์เมกเกอร์ในฐานะตัวปั้นเกมเหมือนอย่างนัดที่แล้ว เพราะกลายเป็นตัวเลือกอันดับแรกเหนือกว่า โธมัส มุลเลอร์ ซึ่งเตรียมนั่งเป็นตัวสำรองไปก่อน ส่วนตัวริมเส้นฝั่งขวาน่าจะให้ เลรอย ซาเน่ ได้กลับมาออกสตาร์ทเป็นตัวสำรอง และคาดว่า คิงส์ลีย์ โกมอง น่าจะต้องนั่งเป็นตัวสำรองไปก่อน โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ ซาดิโอ มาเน่ น่าจะขยับไปสวมบทเป็นตัวริมเส้นฝั่งซ้ายเหมือนอย่างนัดก่อน เพื่อเปิดทางให้ แซร์จ กนาบรี้ ได้ขยับจากตัวริมเส้นขึ้นไปสวมบทเป็นกองหน้าตัวเป้าเหมือนอย่างที่ยิงประตูหนึ่งประตูในนัดที่แล้ว ทำให้ มาติส เทล เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองได้เลย          

ชาลเก้

ผลงาน 5 เกมหลังสุดในศึกบุนเดสลีกา

บุนเดสลีกา เยอรมนี : แพ้ ออฟเฟนไฮม์ 0-2 (เยือน)

บุนเดสลีกา เยอรมนี : ชนะ แฮร์ธา เบอร์ลิน 5-2 (เหย้า)

บุนเดสลีกา เยอรมนี : แพ้ ไฟร์บวร์ก 0-4 (เยือน)

บุนเดสลีกา เยอรมนี : ชนะ แวร์เดอร์ เบรเมน 2-1 (เหย้า)

บุนเดสลีกา เยอรมนี : ชนะ ไมนซ์ 3-2 (เยือน)

คาดว่ากุนซือ โธมัส ไรซ์ จะปรับทัพบางตำแหน่ง เพื่อลุ้นเก็บชัยเป็นนัดที่ 3 ติดต่อกัน และจะได้ขยับหนีจากโซนตกชั้นตรงท้ายตารางคะแนนออกไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยตอนนี้ยังคงรั้งอันดับ 15 แข่ง 31 นัด มี 30 คะแนน นำหน้า สตุ๊ตการ์ท ทีมอันดับ 16 ในพื้นที่เพลย์ออฟเลื่อนชั้น-ตกชั้นเพียงแค่ 2 แต้มเท่านั้น แม้จะมีนักเตะได้รับบาดเจ็บหลายคน แต่ว่าพวกแข้งหลักยังอยู่กันครบ จึงพร้อมจัดผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนามอย่างแน่นอน

11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามเป็นตัวจริงตามแผนการเล่นแบบ 4-2-3-1

อเล็กซานเดอร์ ชโวโลว์, มาร์ซิน คามินสกี้, เซปป์ ฟาน เดน เบิร์ก, เฮนนิ่ง มาทริเซียนี่, เชดริก บรุนเนอร์, ทอม เคราสส์, อเล็กซ์ คราล, มาริอุส บุลเตอร์, เคนาน คาราแมน, โรดริโก้ ซาลาซาร์ มาร์ติเนซ, ไซมอน เทรอดด์   

ผู้รักษาประตู : ไม่มีจอมเก๋า นั่นก็คือ ราล์ฟ เฟห์รมันน์ ได้รับบาดเจ็บ รวมถึง จัสติน ฮีเคเรน นายด่านมือสองยังไม่หายเดี้ยง จึงพร้อมให้ อเล็กซานเดอร์ ชโวโลว์ ลงไปยืนเฝ้าเสาเป็นตัวจริงเป็นมือหนึ่งเหมือนเดิม ส่วนในรายของ มิชาเอล ลังเกอร์ เตรียมนั่งเป็นตัวสแตนบายในตำแหน่งนี้ไปก่อน  

แนวรับ : น่าจะให้ มาร์ซิน คามินสกี้ ลงไปยืนเป็นกองหลังคู่กับ เซปป์ ฟาน เดน เบิร์ก เหมือนอย่างนัดที่แล้ว ทำให้ มายะ โยชิดะ ไม่น่าจะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในตำหน่งกองหลัง ส่วนแบ็กซ้ายเตรียมเป็นหน้าที่ของ เฮนนิ่ง มาทริเซียนี่ ลงไปยืนประจำการ โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ เชดริก บรุนเนอร์ ในตำแหน่งแบ็กขวา ซึ่งน่าจะผ่านความฟิตเพื่อกลับมาลงสนามเป็นตัวจริงได้ตามเดิม หลังมีปัญหาบาดเจ็บรบกวนจากนัดที่แล้ว จึงเตรียมได้เห็น โธมัส อูเวยาน, เลโอ ไกรเมิ่ล, ติโมธี โคลอดเซียจเช็ค รวมถึง เยเร่ อูโรเน่น เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองตามเดิม แต่หมดสิทธิ์ใช้งาน โมริตซ์ เยนซ์ ยังไม่หายจากโรคเดี้ยงนั่นเอง 

แดนกลาง : ยังคงไร้ เอแดร์ บาลานต้า ได้รับบาดเจ็บ จึงพร้อมให้ ทอม เคราสส์ กับ อเล็กซ์ คราล ลงไปยืนเป็นมิดฟิลด์ตัวรับคู่กันเหมือนเช่นเคย ทำให้ แดนนี่ ลัตซ่า, นิคลาส เทาเออร์, โดมินิค ดรักซ์เลอร์, โทเบียส โมห์ร และ อันเดรียส อีวาน เตรียมนั่งอยู่ที่ข้างสนามเหมือนอย่างนัดที่แล้ว

แนวรุก : ขาดเพียงแค่ โซอิชิโร่ โคซูกิ ได้รับบาดเจ็บ แต่ไม่ได้เป็นตัวหลักในแดนหน้าอยู่แล้ว จึงพร้อมให้ โรดริโก้ ซาลาซาร์ มาร์ติเนซ สวมบทเป็นเพลย์เมกเกอร์ในฐานะตัวปั้นเกมเหมือนเดิม ส่วนตัวริมเส้นฝั่งซ้ายเตรียมเป็นหน้าที่ของ มาริอุส บุลเตอร์ ลงไปยืนประจำการ โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ เคนาน คาราแมน ในตำแหน่งตัวริมเส้นฝั่งขวา และพร้อมให้ ไซมอน เทรอดด์ ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้าเหมือนเช่นเคย จึงเตรียมได้เห็น ทิม สคาร์เค่, มิชาเอล เฟรย์, เกเก้ ท็อปป์ รวมถึง เซบาสเตียน โพลเตอร์ นั่งเป็นตัวสำรองทั้งหมดเลย       

สถิติการพบกันเอง

สำหรับคู่นี้เคยดวลแข้งกันในทุกรายการมาแล้วทั้งหมด 111 เกม ปรากฎว่า บาเยิร์น มิวนิค มีสถิติเหนือกว่าเยอะเลย โดยเป็นฝ่ายชนะ 64 เกม เสมอ 28 เกม และแพ้ 19 เกม ส่วนผลการพบกันนัดล่าสุดในศึกบุนเดสลีกาเมื่อปี 2022 ปรากฎว่า “เสือใต้” บุกไปชนะ 2-0 สำหรับผลการพบกันในสนามแห่งนี้นัดล่าสุดเกิดขึ้นในศึกบุนเดสลีกาเมื่อปี 2020 ปรากฎว่า ชาบเก้ บุกไปแพ้แบบยับเยินถึง 0-8

สถิติที่เคยพบกัน 5 เกมหลังสุด

บุนเดสลีกา เยอรมนี ปี 2020 : บาเยิร์น มิวนิค ชนะ ชาลเก้ 5-0

บุนเดสลีกา เยอรมนี ปี 2020 : ชาลเก้ แพ้ บาเยิร์น มิวนิค 0-1

บุนเดสลีกา เยอรมนี ปี 2020 : บาเยิร์น มิวนิค ชนะ ชาลเก้ 8-0

เดเอฟเบ โพคาล ปี 2021 : ชาลเก้ แพ้ บาเยิร์น มิวนิค 0-4

บุนเดสลีกา เยอรมนี ปี 2022 : ชาลเก้ แพ้ บาเยิร์น มิวนิค 0-2

ความน่าจะเป็น

แม้จะไม่ได้อยู่ในช่วงที่โชว์ฟอร์มได้ดีที่สุด แต่ บาเยิร์น มิวนิค ยังคงเอาตัวรอดจากการเก็บชัยได้แบบต่อเนื่อง ท่ามกลางปัญหานักเตะผลัดกันได้รับบาดเจ็บหลายคนเลย ส่วน ชาลเก้ เริ่มมีฮึดจากการเก็บชัยเพื่อหนีตกชั้นนั่นเอง แต่เป็นเพราะว่าต้องออกไปเล่นเป็นทีมเยือนนอกบ้าน คาดว่า “เสือใต้” น่าจะเก็บชัยในถิ่นของตัวเองเอาไว้ได้ 

ผลที่คาด : บาเยิร์น มิวนิค ชนะ ชาลเก้ 2-0

บทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับบุนเดสลีกา

บทความนี้นับสนุนโดย Siam99 เว็บคาสิโนออนไลน์ที่นึ่งในประเทศไทยสมัครตอนนี้รับตั๋ว5ใบทันที

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *