บุนเดสลีกา เยอรมนี
โบรุสเซีย มึนเชนกลัดบัค VS บาเยิร์น มิวนิค
สนาม : โบรุสเซีย ปาร์ค
เวลา : 21.30 น.
โบรุสเซีย มึนเชนกลัดบัค
ผลงาน 5 เกมหลังสุดในศึกบุนเดสลีกา
บุนเดสลีกา เยอรมนี : แพ้ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น 2-3 (เหย้า)
บุนเดสลีกา เยอรมนี : แพ้ เอาส์บวร์ก 0-1 (เยือน)
บุนเดสลีกา เยอรมนี : ชนะ ฮอฟเฟนไฮม์ 4-1 (เยือน)
บุนเดสลีกา เยอรมนี : เสมอ ชาลเก้ 0-0 (เหย้า)
บุนเดสลีกา เยอรมนี : แพ้ แฮร์ธา เบอร์ลิน 1-4 (เยือน)
คาดว่ากุนซือ ดาเนียล ฟาร์เค่ จะปรับทัพบางตำแหน่ง เพื่อลุ้นกลับมาคว้าชัยอีกครั้ง หลังสะกดคำว่าชนไม่เป็นมาแล้วถึง 2 เกม โดยตอนนี้ยังอยู่ตรงกลางตารางคะแนนในอันดับ 10 แข่ง 20 นัด มี 26 คะแนน จึงพร้อมให้พวกแข้งหลักลงสนามเป็นตัวจริงเกือบทั้งหมด เพราะไม่มีนักเตะได้รับบาดเจ็บเพิ่มเติมเลยด้วย
11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามเป็นตัวจริงตามแผนการเล่นแบบ 4-2-3-1
โจนาส โอมลิน, นิโก้ เอลเวดี้, โค อิตาคูระ, ลูก้า เน็ตซ์, โจ สคัลลี่, คัวดิโอ โคเน่, คริสตอฟ คราเมอร์, ฮันเนส โวล์ฟ, โจนาส ฮอฟมันน์, ลาร์ส สตินเดิ้ล, มาร์คัส ตูราม
ผู้รักษาประตู : พร้อมให้มือหนึ่ง นั่นก็คือ โจนาส โอมลิน ยืนเฝ้าเสาเป็นตัวจริงเหมือนเดิม ส่วนในรายของ แยน ยาค็อบ โอลชอฟสกี้ เตรียมสวมบทเป็นมือสองเพื่อนั่งเป็นตัวสำรองเหมือนเดิม
แนวรับ : เตรียมให้ นิโก้ เอลเวดี้ กับ โค อิตาคูระ ยืนเป็นกองกลังคู่กันเหมือนเดิม ส่วนแบ็กซ้ายยังคงเป็นหน้าที่ของ ลูก้า เน็ตซ์ โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ โจ สคัลลี่ ในตำแหน่งแบ็กขวานั่นเอง ทำให้ มาร์วิน ฟรีดริช, สเตฟาน ไลเนอร์, โทนี่ แยนท์ชเค่ รวมถึง รามี่ เบนเซไบนี่ เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองทั้งหมดเลย
แดนกลาง : ไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงไปจาก คัวดิโอ โคเน่ กับ คริสตอฟ คราเมอร์ พร้อมยืนเป็นมิดฟิลด์ตัวคุมเกมร่วมกัน ทำให้ ยูเลี่ยน ไวเกิ้ล, นาธาน เอ็นกูมู รวมถึง ฟลอเรียน นอยเฮาส์ ไม่น่าจะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงเหมือนอย่างนัดที่แล้ว
แนวรุก : ส่อยึดชุดเดิมเหมือนอย่างนัดก่อน ไล่ตั้งแต่ ฮันเนส โวล์ฟ สวมบทเป็นปีกซ้าย โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ โจนาส ฮอฟมันน์ ในตำแหน่งปีกขวา และวาง ลาร์ส สตินเดิ้ล สวมบทเป็นเพลย์เมกเกอร์ในฐานะตัวปั้นเกม ส่วน มาร์คัส ตูราม พร้อมยืนเป็นกองหน้าเหมือนเดิม ทำให้ อลาสซาเน่ เปลอา รวมถึง เซเมียร์ เทลาโลวิช ยังคงต้องรอโอกาสลงสนามเป็นตัวจริงต่อไป
บาเยิร์น มิวนิค
ผลงาน 5 เกมหลังสุดในศึกบุนเดสลีกา
บุนเดสลีกา เยอรมนี : เสมอ แอร์เบ ไลป์ซิก 1-1 (เยือน)
บุนเดสลีกา เยอรมนี : เสมอ โคโลญจน์ 1-1 (เหย้า)
บุนเดสลีกา เยอรมนี : เสมอ ไอน์ทรัค แฟรงค์เฟิร์ต 1-1 (เหย้า)
บุนเดสลีกา เยอรมนี : ชนะ โวล์ฟสบวร์ก 4-2 (เยือน)
บุนเดสลีกา เยอรมนี : ชนะ โบคุ่ม 3-0 (เหย้า)
คาดว่ากุนซือ ยูเลี่ยน นาเกลส์มันน์ จะปรับทัพบางตำแหน่ง เพื่อลุ้นเก็บชัยนำเป็นจ่าฝูงอยู่บนหัวตารางคะแนนต่อไป และจะได้หนีทีมคู่แข่งที่ไล่ตามหลังมาแบบติดๆ จากการมีคะแนนนำหน้าอยู่ไม่ห่างกันมากนัก โดยตอนนี้ยังคงอยู่อันดับ 1 แข่ง 20 นัด มี 43 คะแนน นำหน้า อูนิโอน เบอร์ลิน ทีมอันดับ 2 เพียงแค่แต้มเดียวเท่านั้น แม้จะมีนักเตะเจอโรคเดี้ยงอยู่หลายคน แต่ยังมีผู้เล่นฝีเท้าดีให้เลือกใช้งานได้อีกหลายรายเลยด้วย
11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามเป็นตัวจริงตามแผนการเล่นแบบ 4-1-4-1
ยานน์ ซอมเมอร์, มัทไธจ์ส เดอ ลิกท์, แบงฌาแม็ง ปาวาร์, อัลฟองโซ่ เดวิส, เจา คันเซโล่, เลออน โกเรตซ์ก้า, โจชัว คิมมิช, ยามาล มูเซียล่า, คิงส์ลีย์ โกมอง, เลรอย ซาเน่, โธมัส มุลเลอร์
ผู้รักษาประตู : ไม่เปลี่ยนแปลงไปจาก ยานน์ ซอมเมอร์ พร้อมยืนเฝ้าเสาเป็นตัวจริงอยู่แล้ว เพราะยังคงต้องทำหน้าที่เป็นเป็นมือหนึ่งในช่วงที่ มานูเอล นอยเออร์ ต้องพักรักษาอาการบาดเจ็บขาหักไปก่อน และจะได้กลับไปเยือนถิ่นเก่าเป็นครั้งแรกในช่วงย้ายจาก โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค เมื่อตอนก่อนตลาดหน้าหนาวช่วงสิ้นเดือนมกราคมที่ผ่านมาด้วยส่วนในรายของ สเวน อุลไรซ์ ยังคงพร้อมนั่งเป็นตัวสำรองในตำแหน่งนี้ต่อไป
แนวรับ : น่าจะขยับ แบงฌาแม็ง ปาวาร์ จากตำแหน่งแบ็กขวาให้ฮุบเข้ามายืนเป็นกองหลังคู่กับ มัทไธจ์ส เดอ ลิกท์ เหมือนเช่นเคย ทำให้ ดาโยต์ อูปาเมกาโน่ ไม่น่าจะได้สอดแทรกเพื่อออกสตาร์ทเป็นตัวจริง ส่วนแบ็กซ้ายยังคงเป็นหน้าที่ของ อัลฟองโซ่ เดวิส ลงไปยืนประจำการตามตำแหน่งถนัด โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ เจา คันเซโล่ แบ็กขวาที่ยืมตัวมาจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ นั่นเอง แต่ยังคงหมดสิทธิ์ใช้งาน ลูกาส์ แอร์กน็องเดซ เจอโรคเดี้ยงเล่นงาน และไม่มี นุสซาอีร์ มาซราอุย ต้องพักรักษาตัวจากอาการบาดเจ็บด้วยเช่นกัน ขณะที่ บอร์น่า ซาร์, กาเบรียล มารูซิช, โจซิป สตานิซิช และ ดาลีย์ บลินด์ เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองทั้งหมดเลย
แดนกลาง : เตรียมได้ โจชัว คิมมิช พ้นโทษแบนกลับมายืนคุมเกมร่วมกับ เลออน โกเรตซ์ก้า อีกครั้ง ทำให้ พอล วานเนอร์ มิดฟิลด์ดาวรุ่งเตรียมเป็นตัวสแตนบายอยู่ที่ข้างสนามเหมือนเดิม เนื่องจาก ไรอัน กราเฟ่นเบิร์ช ยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บตรงหัวเข่าเสียที
แนวรุก : ส่อดร็อป เอริค มักซิม ชูโป-โมติง เพราะว่าช่วงวหลังๆ ฟอร์มฝืดไปหน่อย และน่าจะขยับ โธมัส มุลเลอร์ ขึ้นไปสวมบทเป็นกองหน้าอีกครั้ง เพื่อเปิดทางให้ ยามาล มูเซียล่า ลงไปสวมบทเป็นเพลย์เมกเกอร์ในฐานะตัวปั้นเกมนั่นเอง ส่วนปีกซ้ายยังคงพร้อมให้ คิงส์ลีย์ โกมอง ลงไปยืนประจำการเหมือนเดิม โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ เลรอย ซาเน่ ในตำแหน่งปีกขวา ขณะที่ มาติส เทล และ แซร์จ กนาบรี้ เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองเพื่อรอโอกาสลงสนามเหมือนเดิม ด้าน ซาดิโอ มาเน่ ยังคงอยู่ในช่วงฟื้นฟูสภาพร่างกายให้กลับมาฟิตสมบูรณ์ เพราะเพิ่งหายจากโรคเดี้ยงได้ไม่นานนัก
สถิติการพบกันเอง
สำหรับคู่นี้เคยดวลแข้งกันในทุกรายการมาแล้วทั้งหมด 114 เกม ปรากฎว่า บาเยิร์น มิวนิค มีสถิติเหนือว่าเยอะเลย โดยเป็นฝ่ายชนะ 54 เกม เสมอ 31 เกม และแพ้ 29 เกม ส่วนผลการพบกันนัดล่าสุดในศึกบุนเดสลีกาเมื่อปี 2022 ปรากฎว่า “เสือใต้” เปิดบ้านเสมอ 1-1 สำหรับผลการพบกันในสนามแห่งนี้นัดล่าสุดเกิดขึ้นในศึกเดเอฟเบ โพคาล เมื่อปี 2021 ปรากฎว่า โบรุสเซีย มึนเชนกลัดบัค เป็นฝ่ายเปิดบ้านไล่ถล่ม 5-0
สถิติที่เคยพบกัน 5 เกมหลังสุด
บุนเดสลีกา เยอรมนี ปี 2021 : บาเยิร์น มิวนิค แพ้ โบรุสเซีย มึนเชนกลัดบัค 0-2
บุนเดสลีกา เยอรมนี ปี 2021 : โบรุสเซีย มึนเชนกลัดบัค เสมอ บาเยิร์น มิวนิค 1-1
เดเอฟเบ โพคาล ปี 2021 : โบรุสเซีย มึนเชนกลัดบัค ชนะ บาเยิร์น มิวนิค 5-0
บุนเดสลีกา เยอรมนี ปี 2022 : บาเยิร์น มิวนิค แพ้ โบรุสเซีย มึนเชนกลัดบัค 1-2
บุนเดสลีกา เยอรมนี ปี 2022 : บาเยิร์น มิวนิค เสมอ โบรุสเซีย มึนเชนกลัดบัค 1-1
ความน่าจะเป็น
เพราะว่าโดนทีมอื่นๆ ไล่ตามหลังมาแบบหายใจรดต้นคอเลย ทำให้ บาเยิร์น มิวนิค ต้องเร่งเครื่องเก็บชัยเพื่อรั้งจ่าฝูงต่อไปเหมือนเดิม ส่วน โบรุสเซีย มึนเชนกลัดบัค โชว์ฟอร์มในช่วงฤดูกาลนี้ได้แบบไม่ค่อยคงเส้นคงวา แม้จะได้ลงเล่นในถิ่นของตัวเอง แต่ไม่น่าจะได้เปรียบทีมเยือนมากนัก คาดว่า “เสือใต้” น่าจะบุกไปเก็บ 3 คะแนนเต็มกลับบ้านมาได้
ผลที่คาด : โบรุสเซีย มึนเชนกลัดบัค แพ้ บาเยิร์น มิวนิค 1-2
บทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับบุนเดสลีกา
บทความนี้นับสนุนโดย Siam99 เว็บคาสิโนออนไลน์ที่นึ่งในประเทศไทยสมัครตอนนี้รับตั๋ว5ใบทันที