บุนเดสลีกา เยอรมนี
แอร์เบ ไลป์ซิก VS บาเยิร์น มิวนิค
สนาม : เรดบูลล์ อารีน่า
เวลา : 02.30 น.
แอร์เบ ไลป์ซิก
ผลงาน 5 เกมหลังสุดในศึกบุนเดสลีกา
บุนเดสลีกา เยอรมนี : เสมอ เอาส์บวร์ก 3-3 (เยือน)
บุนเดสลีกา เยอรมนี : ชนะ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น 2-0 (เหย้า)
บุนเดสลีกา เยอรมนี : ชนะ ฮอฟเฟ่นไฮม์ 3-1 (เยือน)
บุนเดสลีกา เยอรมนี : ชนะ ไฟร์บวร์ก 3-1 (เหย้า)
บุนเดสลีกา เยอรมนี : ชนะ แวร์เดอร์ เบรเมน 2-1 (เยือน)
คาดว่ากุนซือ มาร์โก โรเซ่ จะปรับทัพบางตำแหน่ง เพราะมีนักเตะได้รับบาดเจ็บอยู่หลายคน เพื่อลุ้นเก็บชัยขยับขึ้นไปรั้งตำแหน่งรองจ่าฝูงไปเลย โดยตอนนี้อยู่อันดับ 15 แข่ง 15 นัด มี 28 คะแนน จึงพร้อมเปิดโอกาสให้พวกตัวสำรองฝีเท้าดีได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงหลายคนเลย
11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามเป็นตัวจริงตามแผนการเล่นแบบ 4-4-2
ยานิส บลาสวิช, ยอสโก้ กวาร์ดิโอล, วิลลี่ ออร์บาน, เบนจามิน เฮนริชส์, ลูคัส โคลสเตอร์มันน์, อมาดู ไฮดาร่า, ซาเวอร์ ชลาเกอร์, เอมิล ฟอร์สเบิร์ก, โดมินิค โซบอสซ์ไล, ดานี โอลโม่, อังเดร ซิลวา
ผู้รักษาประตู : ยังคงไร้มือหนึ่ง นั่นก็คือ ปีเตอร์ กาลุคชี่ เจอโรคเดี้ยงเล่นงาน จึงพร้อมให้ ยานิส บลาสวิช นายด่านมือสองลงไปยืนเฝ้าเสาเป็นตัวจริง ส่วนในรายของ ออร์ยาน นีลันด์ นั่งเป็นตัวสำรองไปก่อน
แนวรับ : พร้อมให้ ยอสโก้ กวาร์ดิโอล ลงไปยืนเป็นกองหลังคู่กับ วิลลี่ ออร์บาน ทำให้ โมฮัมเหม็ด ซิมากาน กับ มาร์เซล ฮัลส์เท่นเบิร์ก รวมถึง อับดู ดิยัลโล่ นั่งอยู่ที่ข้างสนามตามเดิม ส่วนแบ็กซ้ายไม่มี ดาวิด เราม์ เจอโรคเดี้ยงเล่นงาน จึงน่าจะให้ เบนจามิน เฮนริชส์ ยืนประจำการในตำแหน่งไปก่อน โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ ลูคัส โคลสเตอร์มันน์ พร้อมลงไปสวมบทเป็นแบ็กขวาในฐานะตัวเลือกอันดับแรกเหนือกว่า ซานุสซี่ บา นั่นเอง
แดนกลาง : เตรียมให้ อมาดู ไฮดาร่า กับ ซาเวอร์ ชลาเกอร์ ยืนเป็นตัวคุมเกมร่วมกัน ส่วนในรายของ คอนราด ไลเมอร์ กับ อูโก้ โนโวอา รวมถึง เควิน คัมเปิ้ล น่าจะต้องนั่งเป็นตัวสำรองต่อไป สำหรับปีกซ้ายน่าจะให้ เอมิล ฟอร์สเบิร์ก ลงไปยืนประจำการเหมือนเดิม โดยจะยืนอย่ฝั่งตรงข้ามกับ โดมินิค โซบอสซ์ไล ในตำแหน่งปีกขวา
แนวรุก : หมดสิทธิ์ใช้งาน ติโม แวร์เนอร์ รวมถึง คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู ยังคงต้องพักรักษาอาการบาดเจ็บต่อไป จึงน่าจะให้ ดานี โอลโม่ สวมบเป็นกองหน้าคู่กับ อังเดร ซิลวา ส่วนในรายของ ยุสซุฟ โพลเซ่น เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองเหมือนเช่นเคย
บาเยิร์น มิวนิค
ผลงาน 5 เกมหลังสุดในศึกบุนเดสลีกา
บุนเดสลีกา เยอรมนี : ชนะ ฮอฟเฟ่นไฮม์ 2-0 (เยือน)
บุนเดสลีกา เยอรมนี : ชนะ ไมนซ์ 6-2 (เหย้า)
บุนเดสลีกา เยอรมนี : ชนะ แฮร์ธา เบอร์ลิน 3-2 (เยือน)
บุนเดสลีกา เยอรมนี : ชนะ แวร์เดอร์ เบรเมน 6-1 (เหย้า)
บุนเดสลีกา เยอรมนี : ชนะ ชาลเก้ 2-0 (เยือน)
คาดว่ากุนซือ ยูเลี่ยน นาเกลส์มันน์ จะปรับทัพบางตำแหน่ง เพื่อลุ้นเก็บชัยรักษาตำแหน่งจ่าฝูงต่อไปแบบยาวๆ เพราะตอนนั้ยังคงรั้งอันดับ 1 แข่ง 15 นัด มี 34 คะแนน นำหน้า ไฟร์บวร์ก ทีมอันดับ 2 อยู่ 4 แต้ม แม้จะมีนักเตะได้รับบาดเจ็บอยู่หลายคนเลย โดยเฉพาะพวกผู้เล่นในแนวรับที่เดี้ยงกันแบบยกแผงเลย แต่ยังมีนักเตะฝีเท้าดีให้เลือกใช้งานได้อีกหลายราย
11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามเป็นตัวจริงตามแผนการเล่นแบบ 4-2-3-1
สเวน อุลไรช์, แบงฌาแม็ง ปาวาร์, ดาโยต์ อูปาเมกาโน่, อัลฟองโซ่ เดวิส, ดาลีย์ บลินด์, โจชัว คิมมิช, มาร์เซล ซาบิทเซอร์, แซร์จ กนาบรี้, เลรอย ซาเน่, ยามาล มูเซียล่า, โธมัส มุลเลอร์
ผู้รักษาประตู : ไม่มี มานูเอล นอยเออร์ นายด่านมือหนึ่ง เพราะต้องพักรักษาตัวจากการอาการบาดเจ็บขาหักนั่นเอง จึงพร้อมมือสอง นั่นก็คือ สเวน อุลไรซ์ ลงไปยืนเฝ้าเสาเป็นมือหนึ่งแทนไปก่อน และพร้อมให้ โจนาธาน เชงค์ นั่งเป็นตัวสำรองในตำแหน่งนี้ไปเลย
แนวรับ : ยังคงไร้ มัทไธจ์ส เดอ ลิกท์, ลูกาส์ แอร์กน็องเดซ, บอร์น่า ซาร์ รวมถึง นุสซาอีร์ มาซราอุย ต้องพักรักษาโรคเดี้ยงไปก่อน จึงน่าจะให้ แบงฌาแม็ง ปาวาร์ ลงไปยืนเป็นกองหลังคู่กับ ดาโยต์ อูปาเมกาโน่ ส่วนแบ็กซ้ายพร้อมให้ อัลฟองโซ่ เดวิส ลงไปยืนประจำการ และเตรียมส่ง ดาลีย์ บลินด์ แนวรับคนใหม่ลงประเดิมสนามในตำแหน่งแบ็กขวาด้วยเช่นกัน ทำให้ กาเบรียล มารูซิช และ โจซิป สตานิซิช เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองไปก่อน
แดนกลาง : พร้อมให้ มาร์เซล ซาบิทเซอร์ ลงไปยืนคุมเกมร่วมกับ โจชัว คิมมิช เนื่องจาก เลออน โกเรตซ์ก้า ยังไม่หายจากโรคเดี้ยงนั่นเอง ส่วนในรายของ ไรอัน กราเฟ่นเบิร์ช รวมถึง พอล วานเนอร์ เตรียมนั่งเป็นตัวสแตนบายเหมือนเดิม
แนวรุก : หมดสิทธิ์ใช้งาน เอริค มักซิม ชูโป-โมติง รวมถึง ซาดิโอ มาเน่ ต้องพักรักษาอาการบาดเจ็บต่อไป จึงน่าจะให้ เลรอย ซาเน่ ลงไปสวมบทเป็นปีกซ้าย โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ แซร์จ กนาบรี้ ในตำแหน่งปีกขวา และน่าจะให้ ยามาล มูเซียล่า สวมบทเป็นตัวปั้นเกมในตำแหน่งเพลย์เมกเกอร์อยู่ด้านหลังของ โธมัส มุลเลอร์ ซึ่งเตรียมถูกขยับขึ้นไปสวมบทเป็นกองหน้าไปเลย ส่วนในรายของ คิงส์ลีย์ โกมอง รวมถึง มาติส เทล เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองเหมือนเช่นเคย
สถิติการพบกันเอง
สำหรับคู่นี้เคยดวลแข้งกันในทุกรายการมาแล้วทั้งหมด 15 เกม ปรากฎว่า แอร์เบ ไลป์ซิก มีสถิติเป็นรองเยอะเลย โดยเป็นฝ่ายชนะ 1 เกม เสมอ 4 เกม และแพ้ 10 เกม ส่วนผลการพบกันนัดล่าสุดในศึกเยอรมัน ซูเปอร์คัพ เมื่อปี 2022 ปรากฎว่า บาเยิร์น มิวนิค บุกไปชนะ 5-3 สำหรับผลการพบกันนัดล่าสุดที่สนามแห่งนี้ในศึกเยอรมัน ซูเปอร์คัพ เมื่อปี 2022 ปรากฎว่า “เสือใต้” บุกไปไล่ต้อน 5-3
สถิติที่เคยพบกัน 5 เกมหลังสุด
บุนเดสลีกา เยอรมนี ปี 2020 : บาเยิร์น มิวนิค เสมอ แอร์เบ ไลป์ซิก 3-3
บุนเดสลีกา เยอรมนี ปี 2021 : แอร์เบ ไลป์ซิก แพ้ บาเยิร์น มิวนิค 0-1
บุนเดสลีกา เยอรมนี ปี 2021 : แอร์เบ ไลป์ซิก แพ้ บาเยิร์น มิวนิค 1-4
บุนเดสลีกา เยอรมนี ปี 2022 : บาเยิร์น มิวนิค ชนะ แอร์เบ ไลป์ซิก 2-0
เยอรมัน ซูเปอร์คัพ ปี 2022 : แอร์เบ ไลป์ซิก แพ้ บาเยิร์น มิวนิค 3-5
ความน่าจะเป็น
ทั้งสองทีมประสบปัญหานักเตะได้รับบาดเจ็บหลายคนเลย โดยเฉพาะ บาเยิร์น มิวนิค ซึ่งมีผู้เล่นในแนวรับเจอโรคเดี้ยงเล่นงานเต็มไปหมด รวมถึงในแนวรุกด้วยเช่นกัน แต่ยังมีขุมกำลังสำคัญนักเตะได้เลือกใช้งานได้อีกหลายราย จึงพร้อมจัดทีมชุดที่ดีที่สุดได้อยู่ ส่วน แอร์เบ ไลป์ซิก ไม่สามารถจัดแนวรุกได้แบบเต็มร้อย แต่ว่าในตำแหน่งอื่นๆ ยังคงใช้งานพวกแข้งหลักได้เกือบทั้งหมด แม้จะต้องออกไปเล่นเป็นทีมเยือน แต่คาดว่า “เสือใต้” น่าจะมีดีพอสำหรับการบุกไปเก็บ 3 คะแนนเต็มกลับบ้านได้สำเร็จ
ผลที่คาด : แอร์เบ ไลป์ซิก แพ้ บาเยิร์น มิวนิค 0-2
บทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับบุนเดสลีกา
บทความนี้นับสนุนโดย Siam99 เว็บคาสิโนออนไลน์ที่นึ่งในประเทศไทยสมัครตอนนี้รับตั๋ว5ใบทันที