“เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค ส่อปรับแนวรับ แต่แนวรุกพร้อมให้ ซาดิโอ มาเน่ สวมบทเป็นกองหน้านัดเยือน “นางนวล” แวร์เดอร์ เบรเมน ในศึกฟุตบอลบุนเดสลีกา เยอรมนี คืนวันที่ 6 พ.ค.นี้ เพื่อลุ้นเก็บชัยรักษาตำแหน่งจ่าฝูงต่อไป
บุนเดสลีกา เยอรมนี
แวร์เดอร์ เบรเมน VS บาเยิร์น มิวนิค
สนาม : เวเซอร์ สตาดิโอน
เวลา : 23.30 น.
แวร์เดอร์ เบรเมน
ผลงาน 5 เกมหลังสุดในศึกบุนเดสลีกา
บุนเดสลีกา เยอรมนี : แพ้ ฮอฟเฟนไฮม์ 1-2 (เหย้า)
บุนเดสลีกา เยอรมนี : เสมอ ไมนซ์ 2-2 (เยือน)
บุนเดสลีกา เยอรมนี : แพ้ ไฟร์บวร์ก 1-2 (เหย้า)
บุนเดสลีกา เยอรมนี : ชนะ แฮร์ธา เบอร์ลิน 4-2 (เยือน)
บุนเดสลีกา เยอรมนี : แพ้ ชาลเก้ 1-2 (เยือน)
คาดว่ากุนซือ โอเล่ แวร์เนอร์ จะปรับทัพบางตำแหน่ง เพื่อลุ้นกลับมาคว้าชัยอีกครั้ง โดยตอนนี้อยู่อันดับ 12 แข่ง 30 นัด มี 35 คะแนน จึงพร้อมจัดผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนามแน่นอน แม้จะมีนักเตะได้รับบาดเจ็บอยู่บ้าง แต่ว่าเป็นพวกหน้าเดิมๆ ที่ต้องพักรักษาโรคเดี้ยงอยู่แล้วนั่นเอง
11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามเป็นตัวจริงตามแผนการเล่นแบบ 3-5-2
ยิรี่ พาฟเลนก้า, นิคลาส สตาร์ก, มาร์โก ฟรีเดิ้ล, มิลอส เวลจ์โควิช, เยนส์ สแท็ค, คริสเตียน โกรสส์, เลโอนาร์โด้ บิทเทนคอร์ท, แอนโธนี่ ยุง, มิทเชลล์ ไวเซอร์, มาร์วิน ดูคช์, มักซิมิเลียน ฟิลิปป์
ผู้รักษาประตู : ไม่เปลี่ยนแปลงไปจาก ยิรี่ พาฟเลนก้า ซึ่งได้รับความไว้วางใจให้สวมบทเป็นมือหนึ่งอยู่แล้ว จึงพร้อมลงสนามไปยืนเฝ้าเสาตั้งแต่นาทีแรกเหมือนเดิม ส่วนในรายของ มิชาเอล เซตเตอเรอร์ พร้อมเป็นมือหนึ่งในฐานะตัวสำรองเพื่อรอโอกาสลงเล่นกันต่อไป
แนวรับ : ขาดเพียงแค่ เฟลิกซ์ อากู ได้รับบาดเจ็บ จึงพร้อมให้ นิคลาส สตาร์ก, มาร์โก ฟรีเดิ้ล และ มิลอส เวลจ์โควิช ลงไปยืนเป็นกองหลังร่วมกันเหมือนเดิม ทำให้ อามอส ปีเปอร์, ลี บุคฮาแนน และ ฟาบิโอ เคียโรเดีย เตรียมนั่งเป็นตัวสแตนบายอยู่ที่ข้างสนามทั้งหมดเลย
แดนกลาง : พร้อมขยับ คริสเตียน โกรสส์ จากตำแหน่งกองหลังขึ้นไปยืนเป็นมิดฟิลด์ตัวรับเหมือนอย่างนัดที่แล้ว เพื่อประสานงานกับ เลโอนาร์โด้ บิทเทนคอร์ท และ เยนส์ สแท็ค ซึ่งเป็นอีก 2 ตัวหลักในแดนกลางด้วยเช่นกัน ส่วนวิงแบ็กฝั่งซ้ายเป็นหน้าที่ของ แอนโธนี่ ยุง ลงไปยืนเป็นประจำเหมือนเดิม โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ มิทเชลล์ ไวเซอร์ ในตำแหน่งวิงแบ็กฝั่งขวา ทำให้ ดิเคนี่ ซาลิฟู, โรมาโน่ ชมิด, นิคลาส ชมิดท์, อิเลีย กรูเยฟ และ ฌอน-มานูเอล เอ็มบูม เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองตามเดิม
แนวรุก : ยังคงไร้ นิคลาส ฟูลล์ครูก กองหน้าตัวเก่งต้องพักรักษาอาการบาดเจ็บเหมือนเช่นเคย ทำให้ มาร์วิน ดูคช์ กับ มักซิมิเลียน ฟิลิปป์ เตรียมยืนเป็นกองหน้าคู่กันเหมือนอย่างนัดที่แล้ว ส่วนในรายของ เอเรน ดินค์ซี่ ไม่น่าจะได้ออกสตาร์ทเป้นตัวจริงอยู่แล้ว
บาเยิร์น มิวนิค
ผลงาน 5 เกมหลังสุดในศึกบุนเดสลีกา
บุนเดสลีกา เยอรมนี : ชนะ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ 4-2 (เหย้า)
บุนเดสลีกา เยอรมนี : ชนะ ไฟร์บวร์ก 1-0 (เยือน)
บุนเดสลีกา เยอรมนี : เสมอ ฮอฟเฟนไฮม์ 1-1 (เหย้า)
บุนเดสลีกา เยอรมนี : แพ้ ไมนซ์ 1-3 (เยือน)
บุนเดสลีกา เยอรมนี : ชนะ แฮร์ธา เบอร์ลิน 2-0 (เหย้า)
คาดว่ากุนซือ โธมัส ทูเคิ่ล จะปรับทัพบางตำแหน่ง เพื่อลุ้นเก็บชัยรักษาตำแหน่งจ่าฝูงต่อไป และจะได้ขยับเข้าใกล้แชมป์ประฤดูกาลนี้ได้ด้วยเลย โดยตอนนี้อยู่อันดับ 1 แข่ง 30 นัด มี 62 คะแนน นำหน้า “เสือเหลือง” โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ทีมอันดับ 2 เพียงแต้มเดียวเท่านั้น แม้จะมีนักเตะขาดหายไปหลายคน แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อการจัดทีมลงสนามมากนัก เพราะใช้งานพวกแข้งหลักได้อีกหลายราย
11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามเป็นตัวจริงตามแผนการเล่นแบบ 4-2-3-1
ยานน์ ซอมเมอร์, มัทไธจ์ส เดอ ลิกท์, แบงฌาแม็ง ปาวาร์, เจา คันเซโล่, นุสซาอีร์ มาซราอุย, โจชัว คิมมิช, เลออน โกเรซ์ก้า, ยามาล มูเซียล่า, คิงส์ลีย์ โกมอง, แซร์จ กนาบรี้, ซาดิโอ มาเน่
ผู้รักษาประตู : เตรียมได้เห็น ยานน์ ซอมเมอร์ ยืนเฝ้าเสาเป็นตัวจริงในฐานะมือหนึ่งเหมือนเดิม ส่วนในรายของ สเวน อุลไรซ์ เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองในฐานะมือสองเหมือนเช่นเคย เพราะหมดสิทธิ์ใช้งาน มานูเอล นอยเออร์ ต้องพักรักษาตัวจากการอาการขาหักต่อไปแบบยาวๆ ไปเลย
แนวรับ : ไม่มี ดาโยต์ อูปาเมกาโน่ ต้องพักรักษาอาการบาดเจ็บไปก่อน เช่นเดียวกับ ลูกาส์ แอร์กน็องเดซ ยังคงอยู่ในช่วงฟื้นฟูสภาพร่างกายให้กลับมาฟิตสมบูรณ์อีกครั้ง เพราะเพิ่งฟื้นตัวจากโรคเดี้ยงตรงบริเวณหัวเข่าได้ไม่นานนัก ทำให้ แบงฌาแม็ง ปาวาร์ ต้องขยับจากแบ็กขวามาสวมบทเป็นกองหลังเพื่อยืนคู่กับ มัทไธจ์ส เดอ ลิกท์ เหมือนอย่างนัดที่แล้ว ส่วนในรายของ เจา คันเซโล่ พร้อมลงไปสวมบทเป็นแบ็กซ้าย เนื่องจาก อัลฟองโซ่ เดวิส ต้องพักรักษาอาการบาดเจ็บไปก่อน โดยจะยืนอยู่คนละฝั่งกับ นุสซาอีร์ มาซราอุย ในตำแหน่งแบ็กขวา ขณะที่ โจซิป สตานิซิช ดาลีย์ บลินด์, บอร์น่า ซาร์ และ กาเบรียล มารูซิช เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองตามเดิม
แดนกลาง : พร้อมให้ โจชัว คิมมิช กับ เลออน โกเรตซ์ก้า ลงไปยืนคุมเกมร่วมกัน เพราะว่าเป็น 2 ตัวหลักในแผงมิดฟิลด์อยู่แล้ว และน่าจะให้ ยามาล มูเซียล่า ลงไปสวมบทเป็นเพลย์เมกเกอร์ในฐานะตัวปั้นเกมเหมือนอย่างนัดก่อน ทำให้ ไรอัน กราเฟ่นเบิร์ช กับ พอล วานเนอร์ เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองอยู่ที่ข้างสนามเหมือนอย่างนัดที่แล้ว
แนวรุก : หมดสิทธิ์ใช้งาน เอริค มักซิม ชูโป-โมติง ต้องพักรักษาอาการบาดเจ็บไปก่อน จึงพร้อมให้ คิงส์ลีย์ โกมอง ลงไปยืนประจำการในตำแหน่งตัวริมเส้นฝั่งซ้าย โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ แซร์จ กนาบรี้ พร้อมลงไปสวมบทเป็นตัวริมเส้นฝั่งขวา และเตรียมได้เห็น ซาดิโอ มาเน่ ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้าเหมือนอย่างนัดที่แล้ว ส่วนในรายของ โธมัส มุลเลอร์ รวมถึง มาติส เทล เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองไปก่อน
สถิติการพบกันเอง
สำหรับคู่นี้เคยดวลแข้งกันในทุกรายการมาแล้วทั้งหมด 117 เกม ปรากฎว่า บาเยิร์น มิวนิค มีสถิติเหนือกว่าเยอะเลย โดยเป็นฝ่ายชนะ 65 เกม เสมอ 25 เกม และแพ้ 27 เกม ส่วนผลการพบกันนัดล่าสุดในศึกบุนเดสลีกาเมื่อปี 2022 ปรากฎว่า “เสือใต้” เปิดบ้านไล่ถล่ม 6-1 สำหรับผลการพบกันในสนามแห่งนี้นัดล่าสุดเกิดขึ้นในศึกบุนเดสลีกาเมื่อปี 2021 ปรากฎว่า แวร์เดอร์ เบรเมน เป็นฝ่ายแพ้คาบ้าน 1-3
สถิติที่เคยพบกัน 5 เกมหลังสุด
บุนเดสลีกา เยอรมนี ปี 2019 : บาเยิร์น มิวนิค ชนะ แวร์เดอร์ เบรเมน 6-1
บุนเดสลีกา เยอรมนี ปี 2020 : แวร์เดอร์ เบรเมน แพ้ บาเยิร์น มิวนิค 0-1
บุนเดสลีกา เยอรมนี ปี 2020 : บาเยิร์น มิวนิค เสมอ แวร์เดอร์ เบรเมน 1-1
บุนเดสลีกา เยอรมนี ปี 2021 : แวร์เดอร์ เบรเมน แพ้ บาเยิร์น มิวนิค 1-3
บุนเดสลีกา เยอรมนี ปี 2022 : บาเยิร์น มิวนิค ชนะ แวร์เดอร์ เบรเมน 6-1
ความน่าจะเป็น
กลับมาเป็นฝ่ายกุมชะตาแชมป์เอาไว้ในมือของตัวเองได้อีกครั้ง เพราะสามารถหวนกลับคืนสู่ตำแหน่งจ่าฝูงได้สำเร็จ ทำให้ บาเยิร์น มิวนิค พร้อมมุ่งมั่นเพื่อเก็บชัยชนะให้ได้ ส่วน แวร์เดอร์ เบรเมน ทำผลงานไม่ค่อยคงเส้นคงวาอยู่แล้ว จึงพร้อมเล่นกันแบบ 3 วันดี 4 วันไข้ คาดว่า “เสือใต้” น่าจะบุกไปเก็บ 3 คะแนนเต็มเอาไว้ได้ แต่น่าจะต้องออกแรงเหนื่อยอยู่พอสมควร
ผลที่คาด : แวร์เดอร์ เบรเมน แพ้ บาเยิร์น มิวนิค 1-2
บทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับบุนเดสลีกา
บทความนี้นับสนุนโดย Siam99 เว็บคาสิโนออนไลน์ที่นึ่งในประเทศไทยสมัครตอนนี้รับตั๋ว5ใบทันที