“ดอร์ทมุนด์” อีกหนึ่งจอมดูดแข้งบุนเดสลีกาเพื่อเขย่าบัลลังก์ “บาเยิร์น”

ดอร์ทมุนด์ อีกหนึ่งจอมดูดแข้งบุนเดสลีกาเพื่อเขย่าบัลลังก์ บาเยิร์น

เหมือนจะแหกโค้งจากการลุ้นแชมป์บุนเดสลีกา เยอรมนี ประจำฤดูกาลนี้ไปตั้งแต่ช่วงปลายปีก่อน เพราะว่าพบกับความพ่ายแพ้ในช่วงครึ่งทางของซีซั่นนี้ไปแล้วถึง 6 เกมเลยทีเดียว แต่ “เสือเหลือง” โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ สามารถเร่งฟอร์มเก่งจนได้หวนกลับคืนสู่เส้นทางลุ้นแชมป์ลีกสูงสุดเมืองเบียร์อีกครั้ง เพราะไล่เก็บชัยชนะในช่วงหลังเข้าสู่ปี 2023 ได้แบบต่อเนื่องเลย และเคยกวาดชัยชนะในศึกบุนเดสลีกาได้ถึง 7 เกมรวดเลยทีเดียว

ทำให้ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ มีคะแนนไล่บี้กับ “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค ซึ่งมีการเปลี่ยนตัวกุนซือมาเป็น โธมัส ทูเคิ่ล อดีตนายใหญ่ “เสือเหลือง” แบบสูสีคูคี่กันเป็นอย่างมากเลยด้วย พร้อมกับแซงหน้าขึ้นไปยึดตำแหน่งจ่าฝูงได้อีกต่างหาก จึงมีโอกาสลุ้นแย่งบัลลังก์แชมป์ลีกสูงสุดของประเทศกลับคืนมาจากทีมคู่ปรับตลอดกาลที่ได้ครองความเป็น “เบอร์หนึ่ง” ของวงการฟุตบอลเยอรมันแบบผูกขาดมานานถึง 10 สมัยติดต่อกันเลยด้วย นับตั้งแต่เมื่อตอนที่ บาเยิร์น มิวนิค แย่งถาดแชมป์มาจาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในยุคของกุนซือ เจอร์เกน คลอปป์ ซึ่งคว้าแชมป์ได้เป็นครั้งล่าสุดเมื่อปี 2012 โน้นเลย   

ในช่วงก่อนเริ่มฤดูกาล 2022/2023 “เสือเหลือง” มีการเปลี่ยนแปลงทีมอยู่พอสมควร โดยเฉพาะเรื่องของกุนซือที่ได้แต่งตั้งคนในของสโมสร นั่นก็คือ เอดิน แทร์ซิช ซึ่งเคยสวมบทเป็นผู้ช่วยผู้จัดการทีม และผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคให้ทำหน้าที่คุมทีมแบบเต็มตัวไปเลย หลังจากที่เคยมอบหมายให้สวมบทเป็นกุนซือขัดตาทัพในช่วงครึ่งหลังของฤดูกาล 2020/2021 และสามารถพาทีมประสบความสำเร็จจากการคว้าแชมป์ฟุตบอลถ้วยเดเอฟเบ โพคาล ได้ด้วย แม้จะมีการปล่อยนักเตะฝีเท้าดีออกไปหลายคนเลย ซึ่งเป็นเรื่องปกติของสโมสรที่ดำเนินแผนการเสริมทัพแบบซื้อมาขายไปอยู่แล้ว โดยเฉพาะการตัดสินใจขาย เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ ดาวยิงตัวเก่งให้ย้ายไปซบ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เพื่อแลกกับเงินก้อนใหญ่นั่นเอง แต่ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ได้ไล่คว้าผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามาเสริมทัพหลายคนด้วยเช่นกัน ซึ่งรวมถึงพวกนักเตะของทีมคู่แข่งในศึกบุนเดสลีกาด้วยกันเอง ทำให้ “เสือเหลือง” สามารถเขย่าบัลลังก์ “เสือใต้” ในเรื่องที่โดนครหาว่าเป็น “จอมดูดนักเตะ” ในศึกบุนเดสลีกาด้วยเช่นกัน

ก่อนหน้านี้ บาเยิร์น มิวนิค ได้รับการขนานนามให้เป็น “จอมดูดแห่งศึกบุนเดสลีกา” มานานแล้ว เพราะมีการลงทุนซื้อนักเตะฝีเท้าดีของทีมคู่แข่งร่วมลีกเดียวกันมาแบบต่อเนื่องตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เพื่อเป็นการตัดกำลังของทีมคู่แข่งร่วมลีกลูกหนังเมืองเบียร์ไปในตัวด้วยเลย แต่ตอนนี้ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ได้ก้าวเท้าขึ้นมาทาบรัศมีในเรื่องดังกล่าว หากดูจากประวัติการซื้อนักเตะในช่วง 5 ฤดูกาลหลังสุด เพราะลงทุนคว้านักเตะฝีเท้าดีมาจากทีมคู่แข่งในศึกบุนเดสลีกามากถึง 14 รายเลยทีเดียว ซึ่งมากกว่า “เสือใต้” ที่ได้ดึงมาร่วมทีมทั้งหมด 9 คน และดูเหมือนว่าจะมีปฏิบัติย้อนศรอีกต่างหาก เพราะว่าก่อนหน้านี้ “เสือเหลือง” จะเป็นฝ่ายสูญเสียนักเตะไปให้กับ “เสือใต้” อยู่เป็นประจำเลย ซึ่งรวมถึง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ อดีตดาวยิงตัวเก่งที่ได้ย้ายข้ามฟากไปร่วมทีมคู่แข่งตัวฉกาจแบบไม่มีค่าตัว แต่ว่า โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ได้มีการดึงนักเตะของ บาเยิร์น มิวนิค ในช่วง 5 ปีหลังสุดเข้ามาเสริมทัพถึง 2 ราย นั่นก็คือ มัตส์ ฮุมเมลส์ ซึ่งได้ดึงกลับมาในช่วงหลังจากที่เคยขายไปให้กับ “เสือใต้” มาก่อน รวมถึง นิคลาส ซูเล่ ซึ่งย้ายมาแบบไม่มีค่าตัวในช่วงหลังหมดสัญญากับทีมคู่ปรับตัวฉกาจนั่นเอง

ทั้งนี้ “เสือเหลือง” ได้นำพวกนักเตะฝีเท้าดีที่ได้ดึงมาจากทีมคู่แข่งในศึกบุนเดสลีกามาผสมผสานกับพวกดาวดังที่มีอยู่แล้ว โดยเฉพาะ มาร์โก รอยส์ ซึ่งยังคงอยู่ปักหลักกับสโมสรแบบไม่คิดย้ายทีมตามรอยเท้าของดาวดังคนอื่นๆ รวมถึง จูด เบลลิงแฮม ดาวเตะเนื้อหอมที่ได้รับความสนใจจากหลายๆ สโมสรอยู่แล้วด้วย ทำให้ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ มีความลงตัวมากขึ้นเรื่อยๆ และโชว์ฟอร์มในช่วงเข้าสู่ปี 2023 ได้แบบน่าประทับใจ จึงมีโอกาสประสบความสำเร็จจากการอยู่บนเส้นทางลุ้นแชมป์บุนเดสลีกาประจำฤดูกาลนี้ ซึ่งยังคงต้องขับเคี่ยวกับ บาเยิร์น มิวนิค กันต่อไป แม้จะถูกกล่าวหาว่าเป็น “จอมดูดแข้งบุนเดสลีกา” ในช่วงหลังๆ แต่จริงๆ แล้ว “เสือเหลือง” เป็นอีกหนึ่งทีมลูกหนังที่โกยเงินค่าตัวจากการขายนักเตะได้แบบเป็นกอบเป็นเป็นกำในช่วงหลังจากที่ได้ปลุกปั้น หรือซื้อมาร่วมทีมในราคาแบบย่อมเยาว์ โดยสามารถไล่เรียงออกมาเป็น 10 อันดับแรกได้ดังต่อไปนี้เลย

เริ่มต้นกันด้วยอันดับ 10 นั่นก็คือ อิลคาย กุนโดกาน กองกลางทีมชาติเยอรมนี โดยลงทุนซื้อมาจาก เนิร์นแบร์ก เมื่อปี 2011 ในราคาเพียง 4 ล้านยูโร และได้ปล่อยให้ย้ายไปซบ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ตั้งแต่ปี 2016 จนถึงปัจจุบันด้วยค่าตัว 27 ล้านยูโร ตามมาด้วยอันดับ 9 นั่นก็คือ อับดุล ดิยัลโล กองหลังทีมชาติเซเนกัล โดยลงทุนซื้อมาจาก ไมนซ์ ในราคา 2017 ด้วยราคาสูงถึง 28 ล้านยูโร แต่ว่าหลังจากนั้นสามารถฟันกำไรได้อยู่ดี เพราะได้ปล่อยให้ย้ายไปซบ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ในปี 2019 ด้วยค่าตัว 32 ล้านยูโร ส่วนในรายของ มัตส์ ฮุมเมลส์ กองหลังชาวเยอรมันอยู่ในอันดับ 8 โดยลงทุนคว้ามาจาก บาเยิร์น มิวนิค เมื่อตอนที่ยังเป็นเด็กปั้นในปี 2009 ด้วยราคาเพียง 4 ล้านยูโร และได้ปล่อยให้ย้ายกลับไปซบ “เสือใต้” เมื่อตอนที่โด่งดังแล้วในปี 2016 ด้วยค่าตัว 35 ล้านยูโร แต่หลังจากนั้นได้ซื้อกลับมาร่วมทีมเมื่อปี 2019 ในราคา 30 ล้านยูโร ด้านอันดับ 7 เป็นของ มาริโอ เกิตเซ่ กองกลางทีมชาติเยอรมนีที่ไม่ได้ลงทุนซื้อมาเลยด้วย เพราะเป็นผลผลิตจากเด็ปั้นในทีมเยาวชนนั่นเอง แต่ได้ปล่อยให้ย้ายไปซบ บาเยิร์น มิวนิค เมื่อปี 2013 ด้วยค่าฉีกสัญญา 37 ล้านยูโร ขณะที่อันดับ 6 เป็นของ เฮนริค มคิทาร์ยาน กองกลางทีมชาติอาร์เมเนีย โดยลงทุนคว้ามาจาก ชักตาร์ โดเน็คสท เมื่อปี 2013 ในราคา 27.5 ล้านยูโร แต่หลังจากนั้นได้ปล่อยให้ย้ายไปซบ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อปี 2016 ในราคา 42 ล้านยูโร

ส่วนอันดับ 5 นั่นก็คือ เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ กองหน้าทีมชาตินอร์เวย์ โดยลงทุนซื้อมาจาก เรดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก ในช่วงต้นปี 2020 ด้วยค่าตัว 20 ล้านยูโร แต่ว่าปล่อยให้ย้ายไปซบ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในปี 2022 ด้วยค่าตัวสูงถึง 60 ล้านยูโร ตามมาด้วยอันดับ 4 นั่นก็คือ ปิแอร์ เอเมริก โอบาเมยอง กองหน้าชาวกาบอง โดยลงทุนคว้ามาจาก แซงต์ เอเตียน เมื่อปี 2013 ในราคา 13 ล้านยูโร แต่ได้ปล่อยให้ย้ายไปซบ อาร์เซนอล ในปี 2018 ด้วยค่าตัวสูงถึง 63.75 ล้านยูโร ขณะที่อันดับ 3 เป็นของ คริสเตียน พูลิซิช ปีกทีมชาติสหรัฐอเมริกาที่ไม่ได้ลงทุนซื้อมาเลยด้วย เพราะเป็นผลผลิตจากเด็ปั้นในทีมเยาวชนนั่นเอง แต่ได้ปล่อยให้ย้ายไปซบ เชลซี ในปี 2019 ด้วยค่าตัว 64 ล้านยูโร ส่วนอันดับ 2 เป็นของ จาดอน ซานโซ่ ปีกทีมชาติอังกฤษ โดยลงทุนคว้ามาจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เมื่อตอนสมัยที่ยังเป็นเพียงแค่เด็กปั้นในปี 2017 ด้วยค่าตัว 8 ล้านยูโร แต่ได้ปล่อยให้ย้ายไปร่วมทัพ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในปี 2021 ด้วยค่าตัว 85 ล้านยูโร และปิดท้ายด้วยอันดับ 1 นั่นก็คือ อุสมาน เดมเบเล่ ปีกทีมชาติฝรั่งเศส โดยลงทุนซื้อมาจาก แรนส์ ในปี 2016 ด้วยค่าตัว 35 ล้านยูโร แต่ได้ปล่อยให้ย้ายไปซบ บาร์เซโลน่า ในปี 2017 ด้วยค่าตัวสูงถึง 140 ล้านยูโรเลยทีเดียว                   

หากจะว่าไปแล้ว บาเยิร์น มิวนิค ไม่ได้เป็นจอมดูดนักเตะในบุนเดสลีกาเพียงแค่ทีมเดียวเท่านั้น เพราะว่า โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ยังคงพร้อมฉกนักเตะฝีเท้าดีมาจากทีมคู่แข่งร่วมลีกเดียวกันเพื่อเขย่าบัลลังก์ของ “เสือใต้” นั่นเอง  

บทความนี้นับสนุนโดย Siam99 เว็บคาสิโนออนไลน์ที่นึ่งในประเทศไทย

บทความเพิ่มเติม

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *