ยูโร 2024 รอบคัดเลือก กลุ่ม บี
ฝรั่งเศส VS เนเธอร์แลนด์
สนาม : สต๊าด เดอ ฟรองซ์
เวลา : 02.45 น.
ฝรั่งเศส
ผลงาน 5 เกมหลังสุด
ฟุตบอลโลก 2022 รอบแรก นัดที่ 3 : แพ้ ตูนิเซีย 0-1 (สนามกลาง)
ฟุตบอลโลก 2022 รอบ 16 ทีมสุดท้าย : ชนะ โปแลนด์ 3-1 (สนามกลาง)
ฟุตบอลโลก 2022 รอบ 8 ทีมสุดท้าย : ชนะ อังกฤษ 2-1 (สนามกลาง)
ฟุตบอลโลก 2022 รอบรองชนะเลิศ : ชนะ โมร็อคโก 2-0 (สนามกลาง)
ฟุตบอลโลก 2022 รอบชิงชนะเลิศ : เสมอ อาร์เจนติน่า 3-3 (สนามกลาง) – แพ้ดวลจุดโทษตัดสิน
คาดว่ากุนซือ “เดเด้” ดิดิเยร์ เดสชองส์ จะปรับทัพบางตำแหน่งในช่วงหลังคว้ารองแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 แม้จะมีนักเตะขาดหายไปด้วยเหตุผลต่างๆ หลายคนเลย แต่ยังใช้งานพวกแข้งหลักได้อีกหลายคน
11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามเป็นตัวจริงตามแผนการเล่นแบบ 4-2-3-1
ไมค์ เมญอง, ดาโยต์ อูปาเมกาโน่, ฌูลส์ กุนเด้, เตโอ แอร์กน็องเดซ, แบ็งฌาแมง ปาวาร์, โอเรเลียง ชูอาเมนี่, อาเดรียง ราบิโอต์, อองตวน กรีซมันน์, คิงส์ลีย์ โกมอง, คีลิยัน เอ็มบัปเป้, โอลิวิเยร์ ชิรูด์
ผู้รักษาประตู : เตรียมได้เห็น ไมค์ เมญอง ลงไปยืนเฝ้าเสาในฐานะมือหนึ่งคนใหม่ เนื่องจาก อูโก้ ยอริส ได้ประกาศเลิกรับใช้บ้านเกิดในช่วงหลังจบศึกฟุตบอลโลก 2022 ไปแล้ว ทำให้ อัลฟงส์ อเรโอลา รวมถึง บริส ซ็องบา เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองอย่างแน่นอน
แนวรับ : หมดสิทธิ์ใช้งาน วิลเลียม ซาลิบา และ เวสลีย์ โฟฟาน่า ได้รับบาดเจ็บจนต้องขอถอนตัวไปแล้ว จึงน่าจะให้ ดาโยต์ อูปาเมกาโน่ ลงไปยืนเป็นกองหลังคู่กับ ฌูลส์ กุนเด้ แต่มีโอกาสได้เห็น อิบราฮิมา โกนาเต้ เป็นตัวสอดแทรกได้เหมือนกัน ส่วนแบ็กซ้ายพร้อมให้ เตโอ แอร์กน็องเดซ ลงไปยืนประจำการ โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ แบ็งฌาแมง ปาวาร์ ในตำแหน่งแบ็กขวา
แดนกลาง : น่าจะให้ โอเรเลียง ชูอาเมนี่ กับ อาเดรียง ราบิโอต์ ลงไปยืนคุมเกมเป็นตัวจริงคู่กับเหมือนอย่างในศึกฟุตบอลโลก 2022 เพราะเป็น 2 แกนหลักในแผงมิดฟิลด์อยู่แล้ว ทำให้ เอดูอาร์โด้ คามาวิงก้า, ยุสซุฟ โฟฟานา, เกเฟรน ตูราม รวมถึง จอร์แดน แวร์ตูต เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองได้เลย
แนวรุก : พร้อมให้ อองตวน กรีซมันน์ สวมบทเป็นเพลย์เมกเกอร์ในฐานะตัวปั้นเกมค่อนข้างแน่ และน่าจะให้ คิงส์ลีย์ โกมอง ลงไปทำหน้าที่เป็นตัวริมเส้นฝั่งขวา โดยจะยืนอยูู่ฝั่งตรงข้ามกับ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ เตรียมสวมปลอกแขนเป็นัปตันทีมคนใหม่ในตำแหน่งตัวริมเส้นฝั่งซ้าย ส่วนในรายของ โอลิวิเยร์ ชิรูด์ พร้อมสวมบทเป็นกองหน้าตัวเป้าด้วยเช่นกัน ทำให้ มาร์คัส ตูราม, ร็องดาล โคโล มูอานี รวมถึง มุสซา ดิยาบี เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองทั้งหมดเลย
เนเธอร์แลนด์
ผลงาน 5 เกมหลังสุด
ฟุตบอลโลก 2022 รอบแรก นัดแรก : ชนะ เซเนกัล 2-0 (สนามกลาง)
ฟุตบอลโลก 2022 รอบแรก นัดที่ 2 : เสมอ เอกวาดอร์ 1-1 (สนามกลาง)
ฟุตบอลโลก 2022 รอบแรก นัดที่ 3 : ชนะ กาตาร์ 2-0 (สนามกลาง)
ฟุตบอลโลก 2022 รอบ 16 ทีมสุดท้าย : ชนะ สหรัฐอเมริกา 3-1 (สนามกลาง)
ฟุตบอลโลก 2022 รอบ 8 ทีมสุดท้าย : เสมอ อาร์เจนติน่า 2-0 (สนามกลาง) – แพ้ดวลจุดโทษตัดสิน
คาดว่ากุนซือ โรนัลด์ คูมัน จะปรับทัพบางตำแหน่งในเกมประเดิมสนามของการหวนกลับมาคุมทัพเป็นรอบที่ 2 แม้จะหมดสิทธิ์ใช้งานนักเตะบางรายที่ขอถอนตัวออกไปเสียแล้ว แต่สามารถใช้งานพวกแข้งหลักได้อีกหลายคน
11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามเป็นตัวจริงตามแผนการเล่นแบบ 4-3-3
มาร์ค เฟลคเค่น, เฟอร์กิล ฟาน ไดค์, มัทไธจ์ส เดอ ลิกท์, นาธาน อาเก้, เดนเซล ดุมฟรีส์, เฟรงกี้ เดอ ยอง, มาร์เท่น เดอ รอน, ดาวี่ คลาสเซ่น, เมมฟิส เดปาย, โคดี้ กัคโป, เวาท์ เวกฮอร์สท
ผู้รักษาประตู : น่าจะให้ มาร์ค เฟลคเค่น ยืนเฝ้าเสาเป็นตัวจริงในช่วงระหว่างที่ยังไม่มีการเลือกมือหนึ่งอย่างเป็นทางการ ทำให้ ยาสเปอร์ ซิลเลสเซ่น รวมถึง บาร์ท แฟร์บรุคเคน เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองไปก่อน
แนวรับ : พร้อมวาง เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ เป็นแกนหลักในฐานะกัปตันทีมอยู่แล้ว และน่าจะให้ มัทไธจ์ส เดอ ลิกท์ ลงไปยืนคู่กัน ส่วนแบ็กซ้ายน่าจะให้ นาธาน อาเก้ ลงไปยืนประจำการ โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ เดนเซล ดุมฟรีส์ ในตำแหน่งแบ็กขวา ทำให้ ดาลี่ย์ บลินด์, สเวน บ็อตมัน, ลุทชาเริล เคียร์เทราด้า, ไทเรลล์ มาลาเซีย และ ยูร์เรียน ทิมเบอร์ เตรียมนั่งเป็นสำรองทั้งหมดเลย
แดนกลาง : ไม่มี เฟรงกี้ เดอ ยอง ได้รับบาดเจ็บจนต้องขอถอนตัวไปแล้ว แม้จะเรียกตัว โจอี้ เฟอร์มัน มิดฟิลด์หน้าเข้ามารับใช้บ้านเกิดเป็นครั้งแรก แต่น่าจะให้นั่งเป็นตัวสำรองไปก่อน โดยพร้อมให้ จอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม กลับมายืนคุมเกมร่วมกับ มาร์เท่น เดอ รอน และ ดาวี่ คลาสเซ่น ส่วนในรายของ สตีเฟ่น เบอร์ไกส์, เคนเน็ธ เทย์เลอร์ และ มัตส์ วีฟเฟอร์ ไม่น่าจะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงอยู่แล้ว
แนวรุก : ส่อใช้ 3 ประสาน โดยพร้อมให้ เวาท์ เวกฮอร์สท สวมบทเป็นกองหน้าตัวเป้า และเตรียมได้เห็น โคดี้ กัคโป สวมบทเป็นตัวริมเส้นฝั่งซ้ายคนละด้านกับ เมมฟิส เดปาย พร้อมยืนปักหลักทางฝั่งขวา ส่วนในรายของ ไบรอัน บร็อบบี้ย์ และ ซาวี่ ซิมอนส์ เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองไปก่อน แต่ไม่มี สตีเฟ่น เบิร์กไวจ์น เจอโรคเดี้ยงเล่นงานจนต้องขอถอนตัวไปแล้ว
สถิติการพบกันเอง
สำหรับคู่นี้เคยดวลแข้งกันในทุกรายการมาแล้วทั้งหมด 28 เกม ปรากฎว่า ฝรั่งเศส มีสถิติเหนือกว่าเพียงเล็กน้อย โดยเป็นฝ่ายชนะ 14 เกม เสมอ 3 เกม และแพ้ 11 เกม ส่วนผลการพบกันนัดล่าสุดในศึกยูฟ่า เนชั่นส์ลีก เมื่อปี 2018 ปรากฎว่า ฝรั่งเศส บุกไปแพ้ 0-2 สำหรับผลการพบกันในสนามแห่งนี้นัดล่าสุดเกิดขึ้นในศึกยูฟ่า เนชั่นส์ลีก เมื่อปี 2018 ปรากฎว่า เนเธอร์แลนด์ บุกไปแพ้ 1-2
สถิติที่เคยพบกัน 5 เกมหลังสุด
ยูฟ่า เนชั่นส์ลีก ปี 2018 : เนเธอร์แลนด์ ชนะ ฝรั่งเศส 2-0
ยูฟ่า เนชั่นส์ลีก ปี 2018 : ฝรั่งเศส ชนะ เนเธอร์แลนด์ 2-1
ฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก ปี 2017 : ฝรั่งเศส ชนะ เนเธอร์แลนด์ 4-0
ฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก ปี 2016 : เนเธอร์แลนด์ แพ้ ฝรั่งเศส 0-1
นัดกระชับมิตร ปี 2016 : เนเธอร์แลนด์ แพ้ ฝรั่งเศส 2-3
ความน่าจะเป็น
ความเปลี่ยนแปลงเรื่องของตัวผู้เล่นบางตำแหน่งในช่วงหลังจบศึกฟุตบอลโลก 2022 เมื่อปลายก่อน แต่ ฝรั่งเศส ยังคงมีนักเตะฝีเท้าดีให้เลือกใช้งานได้อีกหลายคน โดยเฉพาะแนวรุกที่ยังอยู่กันครบเกือบทั้งหมดเลย ส่วน เนเธอร์แลนด์ มีการเปลี่ยนตัวกุนซือ แต่เป็นคนหน้าเก่าที่คุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว จึงไม่น่าจะเสียเวลาในการปรับจูนทีมกันมากนัก แม้ว่าตัวหลักในแดนกลางจะหายไปหลายราย เช่นเดียวกับการขาดหายไปของผู้เล่นในแดนหน้าอีกหายคน แต่จะไม่ส่งผลกระทบต่อการจัดทีมมากนัก คาดว่าทั้งสองทีมน่าจะเล่นกันแบบระมัดระวังในเกมประเดิมสนามของรอบคัดเลือก จึงมีโอกาสลงเอยด้วยผลเสมอแล้วแบ่งกันไปทีมละหนึ่งคะแนนในท้ายที่สุดได้เหมือนกัน
ผลที่คาด : ฝรั่งเศส เสมอ เนเธอร์แลนด์ 1-1
บทความนี้นับสนุนโดย Siam99 เว็บคาสิโนออนไลน์ที่นึ่งในประเทศไทย