“ฟ้าขาว” อาร์เจนติน่า รอเช็กสภาพความฟิตของ อังเคล ดิ มาเรีย รวมถึง เลาตาโร่ มาร์ติเนซ แต่พร้อมให้ ลิโอเนล เมสซี่ ยืนค้ำแนวรุกเพื่อดวลแข้งกับ “อัศวินสีส้ม” เนเธอร์แลนด์ เตรียมขนผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนามในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบ 8 ทีมสุดท้าย คืนวันที่ 9 ธ.ค.นี้

ฟุตบอลโลก 2022 รอบ 8 ทีมสุดท้าย
เนเธอร์แลนด์ VS อาร์เจนติน่า
สนาม : ลูเซล สเตเดี้ยม
เวลา : 02.00 น.
เนเธอร์แลนด์
ผลงาน 5 เกมหลังสุด
ยูฟ่า เนชั่นส์ลีก ลีก เอ กลุ่ม 4 : ชนะ เบลเยี่ยม 1-0 (เหย้า)
ฟุตบอลโลก 2022 รอบแรก นัดแรก กลุ่ม เอ : ชนะ เซเนกัล 2-0 (สนามกลาง)
ฟุตบอลโลก 2022 รอบแรก นัดที่ 2 กลุ่ม เอ : เสมอ เอกวาดอร์ 1-1 (สนามกลาง)
ฟุตบอลโลก 2022 รอบแรก นัดสุดท้าย กลุ่ม เอ : ชนะ กาตาร์ 2-0 (สนามกลาง)
ฟุตบอลโลก 2022 รอบ 16 ทีมสุดท้าย : ชนะ สหรัฐอเมริกา 3-1 (สนามกลาง)
คาดว่ากุนซือ หลุยส์ ฟาน กัล จะปรับทัพจากเกมล่าสุดที่ชนะ สหรัฐอเมริกา 3-1 ในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบ 16 ทีมสุดท้าย เพื่อลุ้นเก็บชัยผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศไปลุ้นคว้าแชมป์โลกเป็นสมัยแรกให้ได้เสียที จึงพร้อมให้พวกแข้งหลักออกสตาร์ทเป็นตัวจริงไปเลย เพราะไม่มีปัญหานักเตะได้รับบาดเจ็บเลยนั่นเอง
11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามเป็นตัวจริงตามแผนการเล่นแบบ 4-3-1-2
อันดรีส์ น็อปเปิร์ท, เฟอร์กิล ฟาน ไดค์, ยูร์เรียน ทิมเบอร์, นาธาน อาเก้, มาร์เท่น เดอ รอน, เฟรงกี้ เดอ ยอง, ดาลีย์ บลินด์, เดนเซล ดัมฟรีส์, ดาวี่ คลาสเซ่น, โคดี้ กัคโป, เมมฟิส เดปาย
ผู้รักษาประตู : ยังคงเป็นหน้าที่ อันดรีส์ น็อปเปิร์ท เตรียมลงไปยืนเฝ้าเสาเป็นตัวจริง เพราะถูกวางตัวให้เป็นมือหนึ่งเหนือกว่า จัสติน บิจ์โลว์ รวมถึง เรมโก้ ปาสเฟียร์ ซึ่งเตรียมนั่งเป็นตัวสำรองเพื่อรอโอกาสลงสนามเหมือนเดิม
แนวรับ : ไม่เปลี่ยนแปลงไปจาก เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ พร้อมสวมปลอดแขนเป็นกัปตันทีมเพื่อยืนร่วมกับ ยูร์เรียน ทิมเบอร์ และ นาธาน อาเก้ ทำให้ มัทไธจ์ส เดอ ลิกต์ และ สเตฟาน เดอ ไฟร์จ เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองในตำแหน่งกองหลังต่อไป ส่วนแบ็กซ้ายน่าจะให้ ดาลีย์ บลินด์ เป็นตัวเลือกอันดับแรกเหนือกว่า ไทเรลล์ มาลาเซีย โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ เดนเซล ดัมฟรีส์ ในตำแหน่งแบ็กขวา และมี เฌเรมี่ ปริมปง นั่งเป็นตัวสำรองเหมือนเช่นเคย
แดนกลาง : พร้อมให้ เฟรงกี้ เดอ ยอง กับ มาร์เท่น เดอ รอน ยืนคุมเกมคู่กันเหมือนอย่างนัดก่อน ส่วนในรายของ เทิน คอปไมเนอร์ส, สตีเฟ่น เบอร์ไกส์, เคนเนธ เทย์เลอร์ รวมถึง ซาบี้ ซิมงส์ ไม่น่าจะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง เพราะถูกจับวางให้นั่งเป็นตัวจริงอยู่ที่ข้างสนามนั่นเอง
แนวรุก : เตรียมมอบหมายให้ ดาวี่ คลาสเซ่น สวมบทเป็นเพลย์เมกเกอร์ในฐานะตัวปั้นเกม ส่วนคู่กองหน้าไม่เปลี่ยนแปลงไปจาก เมมฟิส เดปาย กับ โคดี้ กัคโป ซึ่งนำเป็นดาวซัลโวของทีมจากการยิงไปแล้ว 3 ประตู ทำให้ วูต เวกฮอร์สท, โนอา ลัง, ลุค เดอ ยอง, สตีเฟ่น เบิร์กไวน์ รวมถึง วินเซนต์ แยนส์เซ่น ต้องนั่งสแตนบายอยู่ที่ข้างสนามเหมือนอย่างนัดที่แล้ว
อาร์เจนติน่า
ผลงาน 5 เกมหลังสุด
ฟุตบอลนัดกระชับมิตร : ชนะ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 5-0 (เหย้า)
ฟุตบอลโลก 2022 รอบแรก นัดแรก กลุ่ม ซี : แพ้ ซาอุดิอาระเบีย 1-2 (สนามกลาง)
ฟุตบอลโลก 2022 รอบแรก นัดที่ 2 กลุ่ม ซี : ชนะ เม็กซิโก 2-0 (สนามกลาง)
ฟุตบอลโลก 2022 รอบแรก นัดสุดท้าย กลุ่ม ซี : ชนะ โปแลนด์ 2-0 (สนามกลาง)
ฟุตบอลโลก 2022 รอบแรก รอบ 16 สุดท้าย : ชนะ ออสเตรเลีย 2-1 (สนามกลาง)
คาดว่ากุนซือ ลิโอเนล สคาโลนี่ จะปรับทัพจากเกมล่าสุดที่เฉือนชนะ ออสเตรเลีย 2-1 ในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบ 16 ทีมสุดท้าย เพื่อลุ้นเก็บชัยผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ และจะได้ต่อยอดไปสู่การลุ้นคว้าแชมป์โลกเป็นสมัยที่ 3 แม้จะมีนักเตะได้รับบาดเจ็บอยู่บ้าง แต่ไม่ส่งกระทบต่อการจัดทีมลงสนาม เพราะยังใช้งานพวกแข้งหลักได้อีกหลายคนเลย
11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามเป็นตัวจริงตามแผนการเล่นแบบ 4-3-2-1
เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ, นิโกลัส โอตาเมนดี้, คริสเตียน โรเมโร่, มาร์กอส อคูญ่า, นาฮูเอล โมลิน่า, เลอันโดร ปาเรเดส, เอ็นโซ แฟร์นันเดซ, อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์, อังเคล ดิ มาเรีย, ลิโอเนล เมสซี่, ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ
ผู้รักษาประตู : ยังคงเป็นหน้าที่ของ เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ ยืนเฝ้าเสาเป็นตัวจริงตามเดิม เพราะถูกวางตัวให้สวมบทเป็นมือหนึ่งนั่นเอง ส่วนในรายของ เจโรนิโม รุลลี่ รวมถึง ฟรังโก้ อาร์มานี่ เตรียมนั่งสแตนบายในฐานะตัวสำรองเหมือนเช่นเคย
แนวรับ : ไม่เปลี่ยนแปลงไปจาก นิโกลัส โอตาเมนดี้ พร้อมยืนเป็นกองหลังคู่กับ คริสเตียน โรเมโร่ ส่วนแบ็กซ้ายน่าจะให้ มาร์กอส อคูญ่า ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงตามเดิม โดยจะยืนฝั่งตรงข้ามกับ นาฮูเอล โมลิน่า ซึ่งน่าจะเป็นตัวเลือกแรกในตำแหน่งแบ็กขวาเหนือกว่า กอนซาโล่ มอนเทียล ทำให้ ลิซานโดร มาร์ติเนซ, นิโกลัส ทาเกลียฟิโก้, เกอร์มัน เปซเซลล่า และ ฮวน ฟอยธ์ เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองเหมือนอย่างนัดที่แล้ว
แดนกลาง : ส่อไร้ โรดริโก้ เดอ ปอล มีอาการบาดเจ็บรบกวน เช่นเดียวกับ ปาปู โกเมซ จึงน่าจะให้ เลอันโดร ปาเรเดส ลงไปยืนคุมเกมร่วมกับ เอ็นโซ แฟร์นันเดซ, อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ส่วนในรายของ กีโด้ โรดริเกซ รวมถึง เอเซเกล ปาลาซิออส ไม่น่าจะได้ลงสนามตั้งแต่นาทีแรกอยู่แล้ว เพราะถูกจับวางให้เป็นตัวสแตนบายนั่นเอง
แนวรุก : รอเช็กสภาพความฟิตของ อังเคล ดิ มาเรีย แต่คาดว่าจะกลับมายืนประจำการในตำแหน่งปีกขวา เพื่อยืนคนละฝั่งกับ ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ ซึ่งพร้อมลงไปยืนทำเกมบุกทางฝั่งซ้าย เพื่อประสานงานกับ ลิโอเนล เมสซี่ พร้อมยืนเป็นกองหน้าตัวเป้าไปเลย เนื่องจาก เลาตาโร่ มาร์ติเนซ มีปัญหาเรื่องสภาพความฟิต ส่วนในรายของ อังเคล คอร์เรอา, ติอาโก้ อัลมาด้า รวมถึง เปาโล ดีบาล่า เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองต่อไป
สถิติการพบกันเอง
สำหรับคู่นี้เคยดวลแข้งกันในทุกรายการมาแล้วทั้งหมด 7 เกม ปรากฎว่า เนเธอร์แลนด์ มีสถิติเหนือกว่าเล็กน้อย โดยเป็นฝ่ายชนะ 3 เกม เสมอ 2 เกม และแพ้ 2 เกม ส่วนผลการพบกันนัดล่าสุดในศึกฟุตบอลโลก 2014 รอบรองชนะเลิศ เมื่อ 8 ปีก่อน ปรากฎว่า “ฟ้าขาว” เป็นฝ่ายชนะช่วงดวลจุดโทษตัดสิน 4-2 หลังเสมอจนถึงช่วงต่อเวลาครบ 120 นาที 0-0
สถิติที่เคยพบกัน 5 เกมหลังสุด
ฟุตบอลโลก 1998 รอบ 8 ทีมสุดท้าย : เนเธอร์แลนด์ ชนะ อาร์เจนติน่า 2-1
ฟุตบอลนัดกระชับมิตร ปี 1999 : เนเธอร์แลนด์ เสมอ อาร์เจนติน่า 1-1
ฟุตบอลนัดกระชับมิตร ปี 2003 : เนเธอร์แลนด์ ชนะ อาร์เจนติน่า 1-0
ฟุตบอลโลก 2006 รอบแรก : เนเธอร์แลนด์ เสมอ อาร์เจนติน่า 0-0
ฟุตบอลโลก 2014 รอบรองชนะเลิศ : เนเธอร์แลนด์ เสมอ อาร์เจนติน่า 0-0
ความน่าจะเป็น
ดูเหมือนว่าจะยิ่งเล่นยิ่งมั่นใจขึ้นเรื่อยๆ สำหรับ เนเธอร์แลนด์ ซึ่งใช้งานพวกแข้งหลักได้ทั้งหมดเลย และตามหาทีมชุดที่ลงตัวที่สุดได้แล้วด้วย ส่วน อาร์เจนติน่า มีปัญหานักเตะบางรายเจอโรคเดี้ยง แต่ยังพร้อมพึ่งพาความสามารถของ ลิโอเนล เมสซี่ ให้เป็นคนแบกทีมเหมือนอย่างที่คุ้นเคยกันอยู่แล้ว คาดว่า “อัศวินสีส้ม” น่าจะเป็นฝ่ายครองเกมได้มากกว่า แต่ “ฟ้าขาว” มีความครบเครื่องในเรื่องของตัวพลิกแพลงเกมที่มีอยู่ตรงข้างสนามหลายคนเลย จึงเชื่อว่า อาร์เจนติน่า มีโอกาสเฉือนชนะได้แบบหวุดหวิด
ผลที่คาด : เนเธอร์แลนด์ แพ้ อาร์เจนติน่า 1-2
บทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับฟุตบอลโลก 2022
บทความนี้นับสนุนโดย Siam99 เว็บคาสิโนออนไลน์ที่นึ่งในประเทศไทย