“ขุนค้อน” เวสต์แฮม พร้อมจัดทัพใหญ่เผชิญหน้ากับ “ม่วงมหากาฬ” ฟิออเรนติน่า ในศึกยูฟ่า ยูโรปา คอนเฟเรนซ์ลีก รอบชิงชนะเลิศ คืนวันที่ 7 มิ.ย.นี้
ยูฟ่า ยูโรปา คอนเฟเรนซ์ลีก รอบชิงชนะเลิศ
ฟิออเรนติน่า VS เวสต์แฮม
สนาม : ฟอร์ทูน่า อารีน่า, กรุงปราก ประเทศสาธารณรัฐเช็ก
เวลา : 02.00 น.
ฟิออเรนติน่า
เส้นทางสู่รอบชิงชนะเลิศ
รอบคัดเลือก รอบเพลย์ออฟ
นัดแรก : ชนะ ทเวนเต้ 2-1 (เหย้า)
นัดที่ 2 : เสมอ ทเวนเต้ 0-0 (เยือน)
(รวมผล 2 นัด ฟิออเรนติน่า ชนะ 2-1)
รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอ
นัดแรก : เสมอ อาร์เอฟเอส 1-1 (เหย้า)
นัดที่ 2 : แพ้ อิสตันบูล บาซัคเซเฮียร์ 0-3 (เยือน)
นัดที่ 3 : ชนะ ฮาร์ท 3-0 (เยือน)
นัดที่ 4 : ชนะ ฮาร์ท 5-1 (เหย้า)
นัดที่ 5 : ชนะ อิสตันบูล บาซัคเซเฮียร์ 2-1 (เหย้า)
นัดที่ 6 : ชนะ อาร์เอฟเอส 3-0 (เยือน)
(ฟิออเรนติน่า ผ่านเข้ารอบในฐานะรองแชมป์กลุ่ม)
รอบน็อคเอาท์ เพลย์ออฟ
นัดแรก : ชนะ บราก้า 4-0 (เยือน)
นัดที่ 2 : ชนะ บราก้า 3-2 (เหย้า)
(รวมผล 2 นัด ฟิออเรนติน่า ชนะ 7-2)
รอบ 16 ทีมสุดท้าย
นัดแรก : ชนะ ชิวาสสปอร์ 1-0 (เหย้า)
นัดที่ 2 : ชนะ ชิวาสสปอร์ 4-1 (เยือน)
(รวมผล 2 นัด ฟิออเรนติน่า ชนะ 5-1)
รอบ 8 ทีมสุดท้าย
นัดแรก : ชนะ เลช พอชนัน 4-1 (เยือน)
นัดที่ 2 : แพ้ เลช พอชนัน 2-3 (เหย้า)
(รวมผล 2 นัด ฟิออเรนติน่า ชนะ 6-4)
รอบรองชนะเลิศ
นัดแรก : แพ้ บาเซิ่ล 1-2 (เหย้า)
นัดที่ 2 : ชนะ บาเซิ่ล 2-1 (เยือน) – ชนะช่วงต่อเวลาพิเศษ 3-1
(รวมผล 2 นัด ฟิออเรนติน่า ชนะ 4-3)
คาดว่ากุนซือ วินเชนโซ่ อิตาเลียโน่ จะปรับทัพบางตำแหน่ง เพื่อลุ้นกลับมาคว้าแชมป์ฟุตบอลสโมสรยุโรปอีกครั้ง หลังจากที่เคยได้แชมป์คัพ วินเนอร์ส คัพ (ยุบการแข่งขันไปแล้ว) เมื่อปี 1961 โน้นเลย จึฃพร้อมจัดผผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนามแน่นอน เพราะใช้งานพวกแข้งหลักได้ทั้งหมดเลย
11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามเป็นตัวจริงตามแผนการเล่นแบบ 4-2-3-1
ปิเอโตร แทร์รัคเซียโน่, นิโกล่า มิลินโควิช, ลูคัส มาร์ติเนซ, คริสเตียโน่ บิรากี้, โดโด้, เกตาโน่ คาสโตรวิลลี่, โซฟียาน อัมราบัต, จามโคโม โบนาเวนตูร่า, โจนาธาน อิโคเน่, นิโกลาส์ กอนซาเลซ, อาเธอร์ คาบราล
ผู้รักษาประตู : พร้อมให้ ปิเอโตร แทร์รัคเซียโน่ ยืนเฝ้าเสาเป็นมือหนึ่งอยู่แล้ว ส่วนในรายของ อเล็กซ์ คอร์ดาซ เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองในฐานะมือสองเหมือนเช่นเคย
แนวรับ : เตรียมได้เห็น นิโกล่า มิลินโควิช ยืนเป็นกองหลังคู่กับ ลูคัส มาร์ติเนซ ส่วนแบ็กซ้ายพร้อมให้ คริสเตียโน่ บิรากี้ ลงไปยืนประจำการเหมือนเดิม โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ โดโด้ ในตำแหน่งแบ็กขวา ทำให้ อิกอร์, อเล็กซ่า แทร์ซิช, ลูก้า รานิเอรี่, ลอเรนโซ่ เวนูติ และ ลูคัส คูอาร์ต้า เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองอยู่ที่ข้างสนามต่อไป
แดนกลาง : ไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงไปจาก โซฟียาน อัมราบัต เตรียมยืนคุมเกมร่วมกับ เกตาโน่ คาสโตรวิลลี่ ส่วนในรายของ อัลเฟรด ดันแคน, อันโตนิน บารัค, อเลสซานโดร เบียงโก้ รวมถึง โจซิป เบรกาโล่ ไม่น่าจะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงอยู่แล้ว
แนวรุก : ยังคงเป็นหน้าที่ของ จามโคโม โบนาเวนตูร่า เตรียมสวมบทเป็นเพลย์เมกเกอร์ในฐานะตัวปั้นเกม ส่วนตัวริมเส้นฝั่งซ้ายเป็นหน้าที่ของ โจนาธาน อิโคเน่ ลงไปยืนประจำการ โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ นิโกลาส์ กอนซาเลซ ในตำแหน่งตัวริมเส้นฝั่งขวา และพร้อมให้ อาเธอร์ คาบราล สวมบทเป็นกองหน้าตัวเป้า ทำให้ ลูก้า โยวิช, ริคาร์โด้ ซาโปนาร่า, รวมถึง ริคคาร์โด้ ซอตติล เตรียมเป็นตัวสแตนบายตามเดิม
เวสต์แฮม
เส้นทางสู่รอบชิงชนะเลิศ
รอบคัดเลือก รอบเพลย์ออฟ
นัดแรก : ชนะ วีบอร์ก 3-1 (เหย้า)
นัดที่ 2 : ชนะ วีบอร์ก 3-0 (เยือน)
(รวมผล 2 นัด เวสต์แฮม ชนะ 6-1)
รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม บี
นัดแรก : ชนะ สเตอัว บูคาเรสต์ 3-1 (เหย้า)
นัดที่ 2 : ชนะ ซิลเคบอร์ก 3-2 (เยือน)
นัดที่ 3 : ชนะ อันเดอร์เลชท์ 1-0 (เยือน)
นัดที่ 4 : ชนะ อันเดอร์เลชท์ 2-1 (เหย้า)
นัดที่ 5 : ชนะ ซิลเคบอร์ก 1-0 (เหย้า)
นัดที่ 6 : ชนะ สเตอัว บูคาเรสต์ 3-0 (เยือน)
(เวสต์แฮม ผ่านเข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่ม จึงไม่ต้องเล่นรอบน็อคเอาท์ เพลย์ออฟ)
รอบ 16 ทีมสุดท้าย
นัดแรก : ชนะ ลาร์นาก้า 2-0 (เยือน)
นัดที่ 2 : ชนะ ลาร์นาก้า 4-0 (เหย้า)
(รวมผล 2 นัด เวสต์แฮม ชนะ 6-0)
รอบ 8 ทีมสุดท้าย
นัดแรก : เสมอ เกนท์ 1-1 (เยือน)
นัดที่ 2 : ชนะ เกนท์ 4-1 (เหย้า)
(รวมผล 2 นัด เวสต์แฮม ชนะ 5-2)
รอบรองชนะเลิศ
นัดแรก : ชนะ อัล์คมาร์ 2-1 (เหย้า)
นัดที่ 2 : ชนะ อัล์คมาร์ 1-0 (เยือน)
(รวมผล 2 นัด เวสต์แฮม ชนะ 3-1)
คาดว่ากุนซือ เดวิด มอยส์ จะปรับทัพบางตำแหน่ง เพื่อลุ้นกลับมาคว้าแชมป์ฟุตบอลสโมสรยุโรปอีกครั้ง หลังจากที่เคยได้แชมป์คัพ วินเนอร์ส คัพ (ยุบการแข่งขันไปแล้ว) เมื่อปี 1965 โน้นเลย และไม่มีปัญหาแข้งหลักได้รับบาดเจ็บ จึงพร้อมจัดผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนามไปเลย
11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามเป็นตัวจริงตามแผนการเล่นแบบ 4-2-3-1
อัลฟงส์ อาเรโอล่า, เคิร์ท ซูม่า, นาเยฟ อาการ์ด, อารอน แครสส์เวลล์, วลาดิเมียร์ คูฟาล, โทมัส ซูเซ็ค, ดีแคลน ไรซ์, ยาร์ร็อด โบเว่น, ปาโบล ฟอร์นาลส์, ลูคัส ปาเกต้า, มิคาอิล อันโตนิโอ
ผู้รักษาประตู : เตรียมได้เห็น อัลฟงส์ อาเรโอล่า ลงไปยืนเฝ้าเสาตั้งแต่นาทีแรก เพราะได้รับโอกาสให้ลงเล่นเป็นตัวจริงในรายการนี้นั่นเอง ทำให้มือหนึ่ง นั่นก็คือ ลูคัส ฟาเบียนสกี้ เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองไปก่อน
แนวรับ : พร้อมให้ เคิร์ท ซูม่า ยืนเป็นกองหลังคู่กับ นาเยฟ อาการ์ด ส่วนแบ็กซ้ายเป็นหน้าที่ของ อารอน แครสส์เวลล์ ลงไปยืนประจำการ โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ วลาดิเมียร์ คูฟาล ในตำแหน่งแบ็กขวา ทำให้ อังเจโล่ อ็อกบอกน่า, เอแมร์ซอน พัลมิเอรี่, ธีโล่ เคห์เรร์ รวมถึง เบน จอห์นสัน เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองเหมือนเช่นเคย
แดนกลาง : พร้อมให้ 2 มิดฟิลด์ตัวหลัก นั่นก็คือ ดีแคลน ไรซ์ กับ โทมัส ซูเซ็ค ลงไปยืนคุมเกมร่วมกันเหมือนเดิม ส่วนในรายของ มานูเอล ลานซินี่, ฟลินน์ ดาวน์ส รวมถึง มักซ์เวล คอร์เน็ต ไม่น่าจะได้ออกสตาร์ทตัวจริงอยู่แล้ว
แนวรุก : ยังคงไร้ จานลูก้า สคามัคก้า ต้องพักรักษาโรคเดี้ยงไปก่อน จึงพร้อมให้ มิคาอิล อันโตนิโอ ลงไปยืนเป็นกองหน้า เพราะเป็นตัวเลือกแรกเหนือกว่า แดนนี่ อิงค์ส เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองไปก่อน ส่วนปีกซ้ายเตรียมได้เห็น ยาร์ร็อด โบเว่น ลงไปยืนประจำการ โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ ปาโบล ฟอร์นาลส์ ในตำแหน่งปีกขวา ขณะที่ ลูคัส ปาเกต้า พร้อมลงไปสวมบทเป็นเพลย์เมกเกอร์ในฐานะตัวปั้นเกม ทำให้ ซาอิด เบนราห์ม่า เตรียมนั่งเป็นตัวสแตนบายอยู่ที่ข้างสนามได้เลย
สถิติการพบกันเอง
สำหรับคู่นี้ไม่เคยดวลแข้งกันในทุกรายการมาก่อนเลย
ความน่าจะเป็น
เพราะว่ามีเดิมพันเป็นตั๋วไปเล่นในศึกยูฟ่า ยูโรปาลีก ช่วงฤดูกาลหน้าตามโควตาของทีมแชมป์รายการนี้นั่นเอง ทำให้ทั้งสองทีมพร้อมเล่นกันแบบเต็มที่อย่างแน่นอน แต่ดูแล้ว เวสต์แฮม น่าจะมีทีเด็ดทีขาดที่เหนือกว่า ฟิออเรนติน่า อยู่พอสมควร คาดว่า “ขุนค้อน” น่าจะเป็นฝ่ายเฉือนชนะ และคว้าแชมป์ไปครองได้สำเร็จ
ผลที่คาด : ฟิออเรนติน่า แพ้ เวสต์แฮม 1-2
บทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับหมวดหมู่อื่นๆ
บทความนี้นับสนุนโดย Siam99 เว็บคาสิโนออนไลน์ที่นึ่งในประเทศไทยสมัครตอนนี้รับตั๋ว5ใบทันที