“กระทิงแดง” แอร์เบ ไลป์ซิก พร้อมให้ คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู ดาวซัลโวบุนเดสลีกาลงไปยืนล่าตาข่ายนัดดวลแข้งกับ “อินทรีแดงดำ” ไอน์ทรัคท์ แฟรงค์เฟิร์ต ในศึกฟุตบอลเดเอฟเบ โพคาล รอบชิงชนะเลิศ คืนวันที่ 3 มิ.ย.นี้ เพื่อลุ้นป้องกันแชมป์รายการนี้เป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกัน
เดเอฟเบ โพคาล รอบชิงชนะเลิศ
แอร์เบ ไลป์ซิก VS ไอน์ทรัคท์ แฟรงค์เฟิร์ต
สนาม : โอลิมปิก สตาดิโอน
เวลา : 01.00 น.
แอร์เบ ไลป์ซิก
เส้นทางสู่รอบชิงชนะเลิศ
รอบแรก : ชนะ อ็อตเท่นเซ่น 8-0 (เยือน)
รอบ 2 : ชนะ ฮัมบูร์ก 4-0 (เหย้า)
รอบ 16 ทีมสุดท้าย : ชนะ ฮอฟเฟนไฮม์ 3-1 (เหย้า)
รอบ 8 ทีมสุดท้าย : ชนะ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ 2-0 (เหย้า)
รอบรองชนะเลิศ : ชนะ ไฟร์บวร์ก 5-1 (เยือน)
คาดว่ากุนซือ มาร์โก โรเซ่ จะปรับทัพบางตำแหน่ง เพื่อลุ้นป้องกันแชมป์รายการนี้เป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกัน เพราะยังคงเป็นแชมป์เก่าจากเมื่อฤดูกาลที่แล้ว จึงพร้อมให้พวกแข้งหลักออกสตาร์ทเป็นตัวจริงทั้งหมดเลย เพราะไม่มีนักเตะได้รับบาดเจ็บเพิ่มเติม
11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามเป็นตัวจริงตามแผนการเล่นแบบ 4-4-2
ยานิส บลาสวิช, ยอสโก้ กวาร์ดิโอล, วิลลี่ ออร์บาน, มาร์เซล ฮัลส์เท่นเบิร์ก, เบนจามิน เฮนริชส์, คอนราด ไลเมอร์, อมาดู ไฮดาร่า, เอมิล ฟอร์สเบิร์ก, ดานี่ โอลโม่, คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู, ติโม แวร์เนอร์
ผู้รักษาประตู : น่าจะให้ ยานิส บลาสวิช กลับมายืนเฝ้าเสาเป็นตัวจริง เนื่องจาก ปีเตอร์ กาลุคซี่ นายทวารมือหนึ่งยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บ และน่าจะให้ ออร์ยาน นีลันด์ กลับไปนั่งเป็นตัวสำรองในฐานะมือสองเหมือนเดิม
แนวรับ : พร้อมให้ ยอสโก้ กวาร์ดิโอล ยืนเป็นกองหลังคู่กับ วิลลี่ ออร์บาน ส่วนแบ็กซ้ายน่าจะให้ มาร์เซล ฮัลส์เท่นเบิร์ก ลงไปยืนประจำการ โดยจะยืนอยู่คนละฝั่งกับ เบนจามิน เฮนริชส์ ในตำแหน่งแบ็กขวา ทำให้ ดาวิด เราม์, ซานุสซี่ บา, ลูคัส โคลสเตอร์มันน์, อับดู ดิยัลโล่ รวมถึง โมฮาเหม็ด ซิมากาน เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองทั้งหมดเลย
แดนกลาง : ไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงไปจาก คอนราด ไลเมอร์ น่าจะได้ลงไปยืนคุมเกมร่วมกับ อมาดู ไฮดาร่า ส่วนปีกซ้ายพร้อมให้ เอมิล ฟอร์สเบิร์ก ลงไปยืนประจำการ โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ ดานี่ โอลโม่ ในตำแหน่งปีกขวา ทำให้ โดมินิค โซบอสซ์ไล, ซาเวอร์ ชลาเกอร์, คาเด้น คลาร์ก และ เควิน คัมเพิ่ล เตรียมเป็นตัวสแตนบายอยู่ที่ข้างสนามเหมือนเช่นเคย
แนวรุก : เตรียมได้เห็น ติโม แวร์เนอร์ ลงไปยืนเป็นกองหน้าคู่กับ คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู ซึ่งเป็นเจ้าของตำแหน่งดาวซัลโวบุนเดสลีกาประจำฤดูกาล 2022/2023 ด้วยจำนวน 16 ประตู ส่วนในรายของ อังเดร ซิลวา และ ยุสซุฟ โฟลเซ่น เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองอยู่ข้างสนาม เพราะไม่น่าจะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงอยู่แล้ว
ไอน์ทรัคท์ แฟรงค์เฟิร์ต
เส้นทางสู่รอบชิงชนะเลิศ
รอบแรก : ชนะ มักเดเบิร์ก 4-0 (เยือน)
รอบ 2 : ชนะ คิกเกอร์ สตุ๊ตการ์ท 2-0 (เยือน)
รอบ 16 ทีมสุดท้าย : ชนะ ดาร์มสตั๊ดท์ 4-2 (เหย้า)
รอบ 8 ทีมสุดท้าย : ชนะ อูนิโอน เบอร์ลิน 2-0 (เหย้า)
รอบรองชนะเลิศ : ชนะ สตุ๊ตการ์ท 3-2 (เยือน)
คาดว่ากุนซือ โอลิเวอร์ กลาสเนอร์ จะปรับทัพบางตำแหน่ง เพื่อลุ้นคว้าแชมป์รายการนี้เป็นการส่งลา เพราะจะก้าวเท้าลงจากตำแหน่งในช่วงหลังจบดูกาลนี้อยู่แล้วนั่นเอง และจะได้สิทธิ์ไปโชว์ฝีเท้าในศึกยูฟ่า ยูโรปาลีก ช่วงฤดูกาลหน้าอีกต่างหาก จึงพร้อมจัดผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนามอย่างแน่นอน เพราะไม่มีแข้งหลักได้รับบาดเจ็บนั่นเอง
11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามเป็นตัวจริงตามแผนการเล่นแบบ 3-4-2-1
เควิน ทรัปป์, ตูต้า, อีแวน เอ็นดิคก้า, มาโกโตะ ฮาเซเบะ, อังส์การ์ คเนาฟฟ์, คริสโตเฟอร์ เลนซ์, ไดจิ คามาดะ, ฌิบิริล โชว์, มาริโอ เกิตเซ่, เจสเปอร์ ลินด์สตรอม, รองดัล โคโล่ มูอานี่
ผู้รักษาประตู : เตรียมได้เห็นมือหนึ่ง นั่นก็คือ เควิน ทรัปป์ ลงไปยืนเฝ้าเสาเป็นตัวจริงตั้งแต่นาทีแรกเหมือนเดิม ส่วนในรายของ ดิอันท์ รามาจ เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองในฐานะมือสองเหมือนเช่นเคย
แนวรับ : ไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงไปจาก มาโกโตะ ฮาเซเบะ พร้อมเป็นแกนหลักในแดนหลังเพื่อประสานงานกับ ตูต้า และ อีแวน เอ็นดิคก้า ซึ่งน่าจะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงด้วยเช่นกัน ทำให้ เฮอร์วอจ์ สโมลซิช, อัลมานี่ ตูเร่, ติโมธี่ ชานด์เลอร์, ออเรลิโอ บูต้า, ฟิลิปป์ มักซ์, ดาริโอ เกบูหร์ และ แยน ชโรเดอร์ ไม่น่าจะได้ออกสตาร์เป็นตัวจริงอยู่แล้ว
แดนกลาง : ยังคงไร้ เซบาสเตียน โรเด้ ต้องพักรักษาอาการบาดเจ็บไปก่อน แต่ว่าไม่ได้เป็นตัวหลักในแผงมิดฟิลด์อยู่แล้ว จึงพร้อมให้ ฌิบิริล โชว์ ลงไปยืนคุมเกมร่วมกับ ไดจิ คามาดะ ซึ่งเตรียมลงสนามรับใช้สโมสรเป็นนัดสุดท้าย เพราะจะย้ายทีมในช่วงหลังหมดสัญญาตอนจบฤดูกาลนี้แล้วนั่นเอง ส่วนวิงแบ็กฝั่งซ้ายพร้อมให้ อังส์การ์ คเนาฟฟ์ ลงไปยืนประจำการ โดยจะยืนอยู่คนละฝั่งกับ คริสโตเฟอร์ เลนซ์ ในตำแหน่งวิงแบ็กฝั่งขวา ทำให้ คริสติยัน ยาคิช, มาร์เซล เวนิก, ปักซ์เท่น อารอนสัน และ เมห์ดี้ ลูเน่ นั่งเป็นตัวสำรองอยู่ที่ข้างสนามทั้งหมดเลย
แนวรุก : พร้อมให้ มาริโอ เกิตเซ่ ลงไปยืนเป็นตัวริมเส้นฝั่งขวา โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ เจสเปอร์ ลินด์สตรอม ในตำแหน่งตัวริมเส้นฝั่งซ้าย และเตรียมได้เห็น รองดัล โคโล่ มูอานี่ สวมบทเป็นกองหน้าตัวเป้าเหมือนเดิม ส่วนในรายของ ราฟาเอล ซานโต๊ส บอร์เร่, ฟาไรด์ อาลิดู รวมถึง นาโช่ แฟร์รี่ เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองทั้งหมดเลย แต่หมดสิทธิ์ใช้งาน ลูคัส อลาริโอ ยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บ
สถิติการพบกันเอง
สำหรับคู่นี้เคยดวลแข้งกันในทุกรายการมาแล้วทั้งหมด 15 เกม ปรากฎว่า แอร์เบ ไลป์ซิก มีสถิติไม่ได้เป็นรอง โดยเป็นฝ่ายชนะ 4 เกม เสมอ 7 เกม และแพ้ 4 เกม ส่วนผลการพบกันนัดล่าสุดในศึกบุนเดสลีกาเมื่อปี 2023 ปรากฎว่า ไอน์ทรัคท์ แฟรงค์เฟิร์ต บุกไปชนะ 2-1 สำหรับผลการพบกันในรายการนี้นัดล่าสุดเกิดขึ้นในเมื่อปี 2020 ปรากฎว่า “อินทรีแดงดำ” เปิดบ้านชนะ 3-1
สถิติที่เคยพบกัน 5 เกมหลังสุด
บุนเดสลีกา เยอรมนี ปี 2021 : แอร์เบ ไลป์ซิก เสมอ ไอน์ทรัคท์ แฟรงค์เฟิร์ต 1-1
บุนเดสลีกา เยอรมนี ปี 2021 : ไอน์ทรัคท์ แฟรงค์เฟิร์ต เสมอ แอร์เบ ไลป์ซิก 1-1
บุนเดสลีกา เยอรมนี ปี 2022 : แอร์เบ ไลป์ซิก เสมอ ไอน์ทรัคท์ แฟรงค์เฟิร์ต 0-0
บุนเดสลีกา เยอรมนี ปี 2022 : ไอน์ทรัคท์ แฟรงค์เฟิร์ต ชนะ แอร์เบ ไลป์ซิก 4-0
บุนเดสลีกา เยอรมนี ปี 2023 : แอร์เบ ไลป์ซิก ชนะ ไอน์ทรัคท์ แฟรงค์เฟิร์ต 2-1
ความน่าจะเป็น
เพราะเป็นแชมป์เก่าจากเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ทำให้ แอร์เบ ไลป์ซิก พร้อมจัดผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนามอย่างแน่นอน เพื่อลุ้นป้องกันแชมป์เดเอฟเบ โพคาล เป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกันไปเลย จึงเตรียมได้เห็นพวกแข้งหลักออกสตาร์ทเป็นตัวจริงแบบยกทีม เช่นเดียวกับ ไอน์ทรัคท์ แฟรงค์เฟิร์ต ซึ่งหวังคว้าแชมป์เพื่อคว้าตั๋วไปโชว์ฝีเท้าในศึกยูฟ่า ยูโรปาลีก และเป็นการส่งท้ายให้กับกุนซือ โอลิเวอร์ กลาสเนอร์ รวมถึง ไดจิ คามาดะ ซึ่งจะย้ายทีมในช่วงหลังจบซีซั่นนี้นั่นเอง คาดว่า “กระทิงแดง” น่าจะทำผลงานได้ดี แต่ “อินทรีแดงดำ” เป็นทีมที่มักจะเล่นในเกมนัดสำคัญได้ดีมากๆ จึงน่าจะมีโอกาสเก็บชัยเพื่อคว้าแชมป์ได้มากกว่า
ผลที่คาด : แอร์เบ ไลป์ซิก แพ้ ไอน์ทรัคท์ แฟรงค์เฟิร์ต 1-2
บทความนี้นับสนุนโดย Siam99 เว็บคาสิโนออนไลน์ที่นึ่งในประเทศไทย