ยูโร 2024 รอบคัดเลือก กลุ่ม ซี นัดที่ 2
อังกฤษ VS ยูเครน
สนาม : เวมบลีย์ สเตเดี้ยม
เวลา : 23.00 น.
อังกฤษ
ผลงาน 5 เกมหลังสุด
ฟุตบอลโลก 2022 รอบแรก นัดที่ 2 : เสมอ สหรัฐอเมริกา 0-0 (สนามกลาง)
ฟุตบอลโลก 2022 รอบแรก นัดสุดท้าย : ชนะ เวลส์ 3-0 (สนามกลาง)
ฟุตบอลโลก 2022 รอบ 16 ทีมสุดท้าย : ชนะ เซเนกัล 3-0 (สนามกลาง)
ฟุตบอลโลก 2022 รอบ 8 ทีมสุดท้าย : แพ้ ฝรั่งเศส 1-2 (สนามกลาง)
ยูโร 2024 รอบคัดเลือก กลุ่ม ซี นัดแรก : ชนะ อิตาลี 2-1 (เยือน)
คาดว่ากุนซือ แกเรธ เซาธ์เกต จะปรับทัพบางตำแหน่ง เพื่อโรเตชั่นนักเตะให้พวกแข้งสายเลือดใหม่ลงสนามบ้าง แต่ว่าพวกแข้งหลักยังคงพร้อมออกสตาร์ทเป็นตัวจริงด้วยเช่นกัน
11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามเป็นตัวจริงตามแผนการเล่นแบบ 4-3-3
จอร์แดน พิคฟอร์ด, จอห์น สโตนส์, แฮร์รี แม็คไกวร์, เบน ชิลเวลล์, ไคล์ วอล์คเกอร์, จูด เบลลิงแฮม, ดีแคลน ไรซ์, เจมส์ แมดดิสัน, แจ็ค กรีลิช, ฟิล โฟเด้น, แฮร์รี เคน
ผู้รักษาประตู : พร้อมให้ จอร์แดน พิคฟอร์ด ลงไปยืนเฝ้าเสาเหมือนเดิม เพราะสวมบทเป็นมือหนึ่งอยูแล้ว ทำให้ อารอน แรมสเดล รวมถึง เฟรเซอร์ ฟอร์สเตอร์ เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองอยู่ที่ข้างสนามทั้งคู่เลย
แนวรับ : ส่อให้ จอห์น สโตนส์ ลงไปยืนเป็นกองหลังคู่กับ แฮร์รี แม็คไกวร์ ส่วนแบ็กซ้ายน่าจะดร็อป ลุค ชอว์ เพื่อให้ เบน ชิลเวลล์ ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง เช่นเดียวกับแบ็กขวาน่าจะได้เห็น ไคล์ วอล์คเกอร์ ลงไปเป็นตัวจริงเหนือกว่า คีแรน ทริปเปียร์ แต่อาจจะได้เห็น รีซ เจมส์ เป็นตัวสอดแทรกได้เหมือนกัน ขณะที่ เอริค ไดเออร์ รวมถึง มาร์ค เกฮี ไม่น่าจะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงอยู่แล้ว
แดนกลาง : เตรียมใช้งาน จูด เบลลิงแฮม กับ ดีแคลน ไรซ์ เป็น 2 แกนหลักในแผงมิดฟิลด์เหมือนเดิม และน่าจะให้ เจมส์ แมดดิสัน ลงไปเล่นเป็นตัวจริงด้วยเช่นกัน ส่วนในรายของ คอเนอร์ กัลลาเกอร์, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, เจมส์ แมดดิสัน และ คัลวิน ฟิลลิปส์ เตรียมนั่งอยู่ที่ข้างสนามต่อไป
แนวรุก : ไม่เปลี่ยนแปลงไปจาก แฮร์รี่ เคน พร้อมสวมบทเป็นกองหน้าตัวเป้าเหมือนเดิม ส่วนปีกซ้ายน่าจะให้ แจ็ค กรีลิช ลงไปยืนประจำการ เพื่อให้ บูกาโย ซากา โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ ฟิล โฟเด้น ในตำแหน่งปีกขวาเหมือนเดิม ทำให้ อีวาน โทนีย์ ยังคงต้องรอโอกาสลงสนามเหมือนอย่างนัดก่อน
ยูเครน
ผลงาน 5 เกมหลังสุด
ยูฟ่า เนชั่นส์ลีก ลีก บี กลุ่ม 1 : ชนะ อาร์เมเนีย 3-0 (เหย้า)
ยูฟ่า เนชั่นส์ลีก ลีก บี กลุ่ม 1 : เสมอ ไอร์แลนด์ 1-1 (เหย้า)
ยูฟ่า เนชั่นส์ลีก ลีก บี กลุ่ม 1 : แพ้ สก็อตแลนด์ 0-3 (เยือน)
ยูฟ่า เนชั่นส์ลีก ลีก บี กลุ่ม 1 : ชนะ อาร์เมเนีย 0-5 (เยือน)
ยูฟ่า เนชั่นส์ลีก ลีก บี กลุ่ม 1 : เสมอ สก็อตแลนด์ 0-0 (เหย้า)
คาดว่า รัสลาน โรตาน กุนซือขัดตาทัพจะปรับทัพบางตำแหน่ง หลังร้างราจากการลงเล่นเกมระดับชาติมานานกว่าครึ่งปีแล้ว เพราะยังคงอยู่ในช่วงภาวะสงครามกับรัสเซียนั่นเอง จึงพร้อมให้พวกแข้งหลักออกสตาร์ทเป็นตัวจริงหลายคนเลย
11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามเป็นตัวจริงตามแผนการเล่นแบบ 3-4-3
อังเดร ลูนิน, มีโคล่า มัตวีเยนโก้, อิลิย่า ซาบาร์นี่, ทาราส สเตปาเนนโก้, วิตาลี่ มิโคเลนโก้, เซอร์เก ซีดอร์ชุค, โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้, ราสลัน มาลินอฟสกี้, อังเดร ยาร์โมเลนโก้, มิไคโล มูดริก, อาร์เต็ม ดอฟบิค
ผู้รักษาประตู : ไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงไปจาก อังเดร ลูนิน ซึ่งได้รับมอบหมายให้สวมบทเป็นมือหนึ่ง ส่วนในรายของ อนาโตลี ทรูบิน และ มีคิต้า เชฟเชนโก้ เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองอยู่ที่ข้างสนามได้เลย
แนวรับ : พร้อมขยับ ทาราส สเตปาเนนโก้ จากตำแหน่งมิดฟิลด์ให้ถอยลงไปยืนเป็นกองหลังเหมือนอย่างในหลายๆ นัดที่ผ่านมา เพื่อให้ยืนร่วมกับ มีโคล่า มัตวีเยนโก้ และ อิลิย่า ซาบาร์นี่ ส่วนในรายของ โอเล็กซานเดอร์ คาราวาเยฟ, เดนิส โปปอฟ, โอเล็กซานเดอร์ สวาตอฟ, เดนิส มิโรชนิเชนโก้, เอดูอาร์ด ซาราปิ และ เอดูอาร์ด โซบอล เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองไปก่อน
แดนกลาง : น่าจะขยับ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ จากตำแหน่งแบ็กซ้ายให้ฮุบเข้ามาสวมบทเป็นมิดฟิลด์ เพราะสามารถยืนเล่นในตำแหน่งนีได้อยู่แล้วเพื่อคุมเกมร่วมกับ ราสลัน มาลินอฟสกี้ ส่วนวิงแบ็กฝั่งซ้ายพร้อมให้ วิตาลี่ มิโคเลนโก้ ลงไปยืนประจำการ โดยจะยืนคนละฝั่งกับ เซอร์เก ซีดอร์ชุค ในตำแหน่งวิงแบ็กฝั่งขวา จึงเตรียมได้เห็น เยฟเฮน โคนอปลิยานก้า, วิคตอร์ ซีฮานคอฟ, วิตาลี่ บูยาล์สกี้, โอเล็กซานเดอร์ ปิคาลโยนอค, เฮโรเก ซูดาคอฟ รวมถึง อาร์เต็ม บอนดาเนโก้ อยู่ที่ข้างสนามไปก่อน
แนวรุก : พร้อมใช้ 3 ประสาน นั่นก็คือ อาร์เต็ม ดอฟบิค สวมบทเป็นกองหน้าตัวเป้า ส่วนตัวริมเส้นฝั่งซ้ายเป็นหน้าที่ของ มิไคโล มูดริก ลงไปยืนประจำการ โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ อังเดร ยาร์โมเลนโก้ ในตำแหน่งตัวริมเส้นฝั่งขวา และพร้อมสวมปลอกแขนเป็นกัปตันทีมเหมือนเดิมเลยด้วย
สถิติการพบกันเอง
สำหรับคู่นี้เคยดวลแข้งกันในทุกรายการมาแล้วทั้งหมด 8 เกม ปรากฎว่า อังกฤษ มีสถิติเหนือกว่าเยอะเลย โดยเป็นฝ่ายชนะ 5 เกม เสมอ 2 เกม และแพ้ 1 เกม ส่วนผลการพบกันนัดล่าสุดในศึกยูโร 2020 รอบ 8 ทีมสุดท้าย เมื่อปี 2021 ปรากฎว่า “สิงโตคำราม” เป็นฝ่ายชนะ 4-0 สำหรับผลการพบกันในสนามแห่งนี้นัดล่าสุดเกิดขึ้นในศึกยูโร 2020 รอบ 8 ทีมสุดท้าย เมื่อปี 2021 ปรากฎว่า ยูเครน เป็นฝ่ายแพ้ 0-4
สถิติที่เคยพบกัน 5 เกมหลังสุด
ฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือก ปี 2009 : ยูเครน ชนะ อังกฤษ 1-0
ยูโร 2012 รอบแรก : อังกฤษ ชนะ ยูเครน 1-0
ฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือก ปี 2012 : อังกฤษ เสมอ ยูเครน 1-1
ฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือก ปี 2013 : ยูเครน เสมอ อังกฤษ 0-0
ยูโร 2020 รอบ 8 ทีมสุดท้าย ปี 2021 : ยูเครน แพ้ อังกฤษ 0-4
ความน่าจะเป็น
หากดูจากสภาพทีมโดยรวมแล้วจะเห็นได้ว่า อังกฤษ มีความพร้อมมากกว่าฝั่งทีมเยือนเยอะเลย เพราะยังคงมีนักเตะฝีเท้าดีให้เลือกใช้งานได้หลายคน ซึ่งรวมถึง แฮร์รี่ เคน ในฐานะดาวยิงเบอร์หนึ่งนั่นเอง จึงพร้อมโรเตชั่นนักเตะบางตำแหน่งเพื่อให้พวกแข้งหลักได้พักบ้าง และเป็นการเปิดโอกาสให้พวกแข้งสำรองลงสนามไปด้วยเลย ส่วน ยูเครน ไม่ได้ลงเล่นเกมระดับชาติมาเกือบครึ่งปีแล้ว เพราะติดปัญหาเรื่องของการเมืองระหว่างประเทศ ซึ่งยังไม่มีทีท่าว่าจะคลี่คลายลงเสียที และยังอยู่ในช่วงตามหากุนซือคนใหม่กันต่อไป จึงต้องมอบหมายให้กุนซือขัดตาทัพช่วยดูแลทีมไปก่อน แต่มีการเรียกตัวผู้เล่นฝีเท้าดีที่ค้าแข้งอยู่ในต่างแดนให้กลับมารับใช้บ้านเกิดหลายคนเลยด้วย โดยเฉพะพวกนักเตะที่โชว์ฝีเท้าอยู่ในถิ่นเมืองผู้ดีอยู่แล้ว นำทัพโดย โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ รวมถึง มิไคโล่ มูดริก เป็นต้น คาดว่า “สิงโตคำราม” ถือความได้เปรียบในฐานะเจ้าถิ่นที่ได้ลงเล่นบนสังเวียนแข้งของตัวเองอยู่แล้ว จึงพร้อมลุยเข้าใส่ทีมเยือนที่ร้างราจากเกมระดับชาติไปนานหลายเดือนแล้ว ทำให้ 3 คะแนนเต็มมีโอกาสตกอยู่ในมือของ อังกฤษ ได้สูงมากๆ เลย
ผลที่คาด : อังกฤษ ชนะ ยูเครน 2-0
บทความนี้นับสนุนโดย Siam99 เว็บคาสิโนออนไลน์ที่นึ่งในประเทศไทย