ยูโร 2024 รอบคัดเลือก กลุ่ม บี
ไอร์แลนด์ VS ฝรั่งเศส
สนาม : อาวีว่า สเตเดี้ยม
เวลา : 02.45 น.
ไอร์แลนด์
ผลงาน 5 เกมหลังสุด
ยูฟ่า เนชั่นส์ลีก ลีก บี กลุ่ม 1 : แพ้ สก็อตแลนด์ 1-2 (เยือน)
ยูฟ่า เนชั่นส์ลีก ลีก บี กลุ่ม 1 : ชนะ อาร์เมเนีย 3-2 (เหย้า)
นัดกระชับมิตร : แพ้ นอร์เวย์ 1-2 (เยือน)
นัดกระชับมิตร : ชนะ มอลตา 1-0 (เยือน)
นัดกระชับมิตร : ชนะ ลัตเวีย 3-2 (เหย้า)
คาดว่ากุนซือ สตีเฟ่น เคนนี่ จะปรับทัพบางตำแหน่ง โดยยังคงพร้อมให้พวกแข้งหลักออกสตาร์ทเป็นตัวจริงเหมือนเดิม แต่อาจจะให้พวกนักเตะสายเลือดใหม่ลงเล่นตั้งแตต่นาทีแรกด้วยเช่นกัน
11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามเป็นตัวจริงตามแผนการเล่นแบบ 3-5-2
กาวิน บาซูนู, ซีมุส โคลแมน, จอห์น เอแกน, นาธาน คอลลินส์, แมตต์ โดเฮอร์ตี้, เจมส์ แม็คคลีน, อลัน บราวน์, เจฟฟ์ เฮนดริก, จอช คัลเลน, ทรอย ปาร์รอตต์, ชีโดซี่ อ็อกเบน
ผู้รักษาประตู : เตรียมได้เห็น กาวิน บาซูนู ลงไปยืนเฝ้าเสาเป็นตัวจริงตั้งแต่นาทีแรก เพราะถูกวางตัวให้สวมบทเป็นมือหนึ่งอยู่แล้ว ส่วนในรายของ คีวิน เคลเลเฮอร์ รวมถึง มาร์ค ทราเวอร์ส เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองอยู่ที่ข้างสนามไปก่อน
แนวรับ : ไม่ได้เรียกพวกแข้งเก๋าอย่าง ร็อบบี้ บราดี้ รวมถึง เชน ดัฟฟี่ เข้ามาติดทีมชุดนี้แต่อย่างใด จึงส่อขยับ ซีมุส โคลแมน จากตำแหน่งแบ็กขวาให้ฮุบเข้ามาสวมบทเป็นกองหลังในยามลงสนามรับใช้บ้านเกิด และได้สวมปลอกแขนเป็นกัปตันทีมอยู่แล้วด้วย จึงพร้อมลงไปยืนร่วมกับ จอห์น เอแกน และ นาธาน คอลลินส์ ทำให้ คัลลัม โอดาวด้า, ดารา โอเชีย และ แอนดรูว์ โอโมบามิเดเล่ เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองทั้งหมดเลย
แดนกลาง : พร้อมให้ เจฟฟ์ เฮนดริก มิดฟิลด์มากประสบการณ์ลงไปยืนคุมเกมร่วมกับ อลัน บราวน์ และ จอช คัลเลน ส่วนวิงแบ็กฝั่งซ้ายน่าจะให้ เจมส์ แม็คคลีน ลงไปยืนตำแหน่ง โดยจะยืนคนละฝั่งกับ แมตต์ โดเฮอร์ตี้ ในตำแหน่งวิงแบ็กฝั่งขวานั่นเอง ทำให้ เจสัน ไนท์, เจย์สัน โมลัมบี้, มาร์ค ไซเคส และ วิลล์ สมอลล์โบน เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองเพื่อรอโอกาสลงสนามกันต่อไป
แนวรุก : ส่อให้กองหน้าดาวรุ่ง นั่นก็คือ ทรอย ปาร์รอตต์ ลงไปสวมบททเป็นกองหน้าคู่กับ ชีโดซี่ อ็อกเบน ส่วนในรายของ อดัม ไอดาห์, ไมเคิล โอบาเฟมี่, วิลล์ คีน, เอวาน เฟอร์กูสัน และ มิคกี้ จอห์นสตัน เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองตามเดิม
ฝรั่งเศส
ผลงาน 5 เกมหลังสุด
ฟุตบอลโลก 2022 รอบ 16 ทีมสุดท้าย : ชนะ โปแลนด์ 3-1 (สนามกลาง)
ฟุตบอลโลก 2022 รอบ 8 ทีมสุดท้าย : ชนะ อังกฤษ 2-1 (สนามกลาง)
ฟุตบอลโลก 2022 รอบรองชนะเลิศ : ชนะ โมร็อคโก 2-0 (สนามกลาง)
ฟุตบอลโลก 2022 รอบชิงชนะเลิศ : เสมอ อาร์เจนติน่า 3-3 (สนามกลาง) – แพ้ดวลจุดโทษตัดสิน
ยูโร 2024 รอบคัดเลือก กลุ่ม บี นัดแรก : ชนะ เนเธอร์แลนด์ 4-0 (เหย้า)
คาดว่ากุนซือ “เดเด้” ดิดิเยร์ เดสชองส์ จะปรับทัพบางตำแหน่ง เพื่อโรเตชั่นนักเตะให้พวกตัวสำรองได้ลงสนามบ้าง และเป็นการพวกแข้งหลักที่กรำศึกหนักมาจากเกมระดับสโมสรให้ได้พักบ้างไปด้วยเลย
11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามเป็นตัวจริงตามแผนการเล่นแบบ 4-2-3-1
ไมค์ เมญอง, ดาโยต์ อูปาเมกาโน่, อิบราฮิมา โกนาเต้, เตโอ แอร์กน็องเดซ, ฌูลส์ กุนเด้, เอดูอาร์โด้ คามาวิงก้า, ยุสซุฟ โฟฟาน่า, อองตวน กรีซมันน์, มาร์คัส ตูราม, คีลิยัน เอ็มบัปเป้, ร็องดาล โคโล มูอานี
ผู้รักษาประตู : ไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงไปจาก ไมค์ เมญอง ซึ่งถือวางตัวให้เป็นมือหนึ่งคนใหม่ในช่วงหลังจบศึกฟุตบอลโลก 2022 นั่นเอง ส่วนในรายของ อัลฟงส์ อเรโอลา รวมถึง บริส ซ็องบา เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองเพื่อรอโอกาสลงไปยืนเฝ้าสากันต่อไป
แนวรับ : ส่อให้ อิบราฮิมา โกนาเต้ ลุกจากม้านั่งสำรองเพื่อลงไปยืนเป็นกองหลังคู่กับ ดาโยต์ อูปาเมกาโน่ ส่วนแบ็กซ้ายพร้อมให้ เตโอ แอร์กน็องเดซ ลงไปยืนประจำการ โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ ฌูลส์ กุนเด้ ในตำแหน่งแบ็กขวา เพราะน่าจะพัก แบ็งฌาแมง ปาวาร์ เอาไว้ที่ข้างสนาม ทำให้ อักเซล ดิซาซี่ รวมถึง ฌอง-แคลร์ โตดิโบ เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองตามเดิม
แดนกลาง : เป็นจุดที่น่าจะมีการปรับเปลี่ยนเหมือนกัน เพราะน่าจะให้ เอดูอาร์โด้ คามาวิงก้า กับ ยุสซุฟ โฟฟาน่า ลงไปยืนคุมเกมร่วมกัน เพื่อให้ 2 ตัวหลักในแผงมิดฟิลด์ นั่นก็คือ โอเรเลียง ชูอาเมนี่ กับ อาเดรียง ราบิโอต์ ได้นั่งพักอยู่ที่ข้างสนาม ส่วนในรายของ เกเฟรน ตูราม รวมถึง จอร์แดน แวร์ตูต มีโอกาสเป็นตัวสอดแทรกได้เหมือนกัน
แนวรุก : เตรียมได้เห็น คีลิยัน เอ็มบัปเป้ กัปตันทีมคนใหม่ลงไปสวมบทเป็นตัวริมเส้นฝั่งซ้าย ดยจะยืนอยูู่ฝั่งตรงข้ามกับ มาร์คัส ตูราม ซึ่งน่าจะได้ลงไปทำหน้าที่เป็นตัวริมเส้นฝั่งขวา ส่วนในรายของ อองตวน กรีซมันน์ ยังคงพร้อมทำหน้าที่เป็นเพลย์เมกเกอร์ในฐานะตัวปั้นเกมค่อนข้างแน่ แต่กองหน้าตัวเป้าส่อพัก โอลิวิเยร์ ชิรูด์ เพื่อให้ ร็องดาล โคโล มูอานี ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงบ้าง ทำให้ คิงส์ลีย์ โกมอง รวมถึง มุสซา ดิยาบี เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองไปก่อน
สถิติการพบกันเอง
สำหรับคู่นี้เคยดวลแข้งกันในทุกรายการมาแล้วทั้งหมด 18 เกม ปรากฎว่า ฝรั่งเศส มีสถิติเหนือกว่าอยู่พอสมควร โดยเป็นฝ่ายชนะ 9 เกม เสมอ 5 เกม และแพ้ 4 เกม ส่วนผลการพบกันนัดล่าสุดในศึกฟุตลอลนัดกระชับมิตร เมื่อปี 2018 ปรากฎว่า “ตราไก่” เปิดบ้านชนะ 2-0 สำหรับผลการพบกันในสนามแห่งนี้นัดล่าสุดเกิดขึ้นในศึกฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือก เมื่อปี 2009 ปรากฎว่า ไอร์แลนด์ เป็นฝ่ายแพ้คาบ้าน 0-1
สถิติที่เคยพบกัน 5 เกมหลังสุด
ฟุตบอลโลก 2006 รอบคัดเลือก ปี 2005 : ไอร์แลนด์ แพ้ ฝรั่งเศส 0-1
ฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือก ปี 2009 : ไอร์แลนด์ แพ้ ฝรั่งเศส 0-1
ฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือก ปี 2009 : ฝรั่งเศส เสมอ ไอร์แลนด์ 1-1
ยูโร 2016 รอบ 16 ทีมสุดท้าย ปี 2016 : ฝรั่งเศส ชนะ ไอร์แลนด์ 2-1
นัดกระชับมิตร ปี 2018 : ฝรั่งเศส ชนะ ไอร์แลนด์ 2-0
ความน่าจะเป็น
ไม่น่าจะจัดผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนาม เนื่องจาก ฝรั่งเศส มีผู้เล่นฝีเท้าดีให้เลือกใช้งานได้อีกหลายคน จึงพร้อมโรเตชั่นนักเตะเพื่อเปิดโอกาสให้พวกแข้งสำรองลงสนามในบางตำแหน่ง แต่ว่าแนวรุกยังคงพร้อมจัดเต็ม จึงน่าจะได้เห็น 2 ตัวหลัก นั่นก็คือ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ รวมถึง อองตวน กรีซมันน์ ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงเหมือนเดิม ส่วน ไอร์แลนด์ ยังไม่มีทีท่าว่าจะฟื้นคืนชีพได้เสียที เพราะมีนักเตะฝีเท้าดีให้เลือกใช้งานได้มากนัก โดยส่วนใหญ่ค้าแข้งอยู่กับทีมลูกหนังระดับเล็กๆ ในลีกรองของอังกฤษทั้งนั้นเลยด้วย ซึ่งตรงกันข้ามกับทีมเยือนที่มีนักเตะเล่นให้กับสโมสรใหญ่ๆ ในลีกลูกหนังระดับชั้นนำของทวีปยุโรปทั้งนั้นเลย แม้จะต้องยกพลบุกไปเล่นนอกบ้าน แต่ถ้าดูจากสภาพทีมโดยรวมจะเห็นได้ว่า “ตราไก่” มีศักยภาพเหนือกว่าเยอะเลย ส่วนเจ้าบ้านยังคงต้องใช้งานพวกผู้เล่นหน้าเดิมๆ ที่มีฝีเท้าเป็นรองต่อไปเหมือนเช่นเคย คาดว่าชัยชนะน่าจะตกเป็นของทีมเยือนไปเลย
ผลที่คาด : ไอร์แลนด์ แพ้ ฝรั่งเศส 0-2
บทความนี้นับสนุนโดย Siam99 เว็บคาสิโนออนไลน์ที่นึ่งในประเทศไทย