“ฝอยทอง” โปรตุเกส ส่อให้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ยืนค้ำเป็นกองหน้านัดต้อนรับ บอสเนีย ในศึกฟุตบอลยูโร 2024 รอบคัดเลือก กลุ่ม เจ คืนวันที่ 17 มิ.ย.นี้ เพื่อลุ้นเก็บชัยเป็นนัดที่ 3 ติดต่อกัน และจะได้รั้งจ่าฝูงกลุ่มนี้แบบยาวๆ ไปเลย
ยูโร 2024 รอบคัดเลือก กลุ่ม เจ
โปรตุเกส VS บอสเนีย
สนาม : เอสตาดิโอ ดา ลุซ, กรุงลิสบอน ประเทศโปรตุเกส
เวลา : 01.45 น.
โปรตุเกส
ผลงาน 5 เกมหลังสุด
ฟุตบอลโลก 2022 รอบแรก นัดสุดท้าย กลุ่ม เอช : แพ้ เกาหลีใต้ 1-2 (สนามกลาง)
ฟุตบอลโลก 2022 รอบ 16 ทีมสุดท้าย : ชนะ สวิตเซอร์แลนด์ 6-1 (สนามกลาง)
ฟุตบอลโลก 2022 รอบ 8 ทีมสุดท้าย : แพ้ โมร็อคโก 0-1 (สนามกลาง)
ยูโร 2024 รอบคัดเลือก : ชนะ ลิกเท่นสไตน์ 4-0 (เหย้า)
ยูโร 2024 รอบคัดเลือก : ชนะ ลัมเซมเบิร์ก 6-0 (เยือน)
คาดว่ากุนซือ โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ จะปรับทัพบางตำแหน่ง เพื่อลุ้นเก็บชัยเป็นนัดที่ 3 ติดต่อกัน และจะได้นำโด่งเป็นจ่าฝูงของกลุ่มนี้ต่อไป หลังคว้าชัยมาแล้ว 2 เกมรวด มี 6 คะแนน และมีแนวรุกสุดเฉียบคมจากการยิงไปแล้วถึง 10 ประตู แถมแนวรับยังไม่เสียประตูแม้แต่ลูกเดียวเลยด้วย จึงพร้อมให้พวกแข้งหลักลงสนามหลายคนเลย แต่ไม่น่าจะให้นักเตะของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ลงสนาม เพราะน่าจะได้พักในช่วงหลังเสร็จสิ้นภาระกิจคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก นั่นเอง
11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามเป็นตัวจริงตามแผนการเล่นแบบ 4-3-3
ดิโอโก้ คอสต้า, ดานิโล่ เปไรร่า, เปเป้, ราฟาเอล เกร์เรโร่, เจา คันเซโล่, เจา พัลฮินญ่า, รูเบน เนเวส, บรูโน่ แฟร์นันเดส, เจา เฟลิกซ์, ดิโอโก้ โจต้า, คริสเตียโน่ โรนัลโด้
ผู้รักษาประตู : ไม่เปลี่ยนแปลงไปจาก ดิโอโก้ คอสต้า ซึ่งพร้อมลงไปยืนเฝ้าเสาเป็นตัวจริงตามเดิม เพราะได้รับความไว้วางใจให้สวมบทเป็นมือหนึ่งอยู่แล้ว ส่วนในรายของ รุย ปาทริซิโอ รวมถึง โชเซ่ ซา เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองให้ตำแหน่งนี้ต่อไป
แนวรับ : เตรียมดร็อป รูเบน ดิอาส ให้ได้พัก เพราะเป็นหนึ่งในนัเตะของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชุดคว้าแชมป์เจ้าสโมสรยุโรปนั่นเอง จึงน่าจะให้ ดานิโล่ เปไรร่า ลงไปยืนเป็นกองหลังคู่กับ เปเป้ ส่วนแบ็กซ้ายยังคงเป็นหน้าที่ของ ราฟาเอล เกร์เรโร่ โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ เจา คันเซโล่ ในตำแหน่งแบ็กขวา ทำให้ ดิโอโก้ ดาโลต์, อันโตนิโอ ซิลวา กอนซาโล่ อนาซิโอ, เนลสัน เซเมโด้ และ โตติ เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองได้เลย แต่บางรายมีโอกาสสอดแทรกเพื่อลงสนามเป็นตัวจริงได้เหมือนกัน
แดนกลาง : น่าจะให้ เจา พัลฮินญ่า ลงไปยืนคุมเกมร่วมกับ รูเบน เนเวส รวมถึง บรูโน่ แฟร์นันเดส ซึ่งเป็นแกนหลักในแผงมิดฟิลด์อยู่แล้ว ส่วนในรายของ วิตินญ่า, โอตาวิโอ และ เรนาโต้ ซานเชส เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองทั้งหมดเลย
แนวรุก : พร้อมให้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ สวมปลอกแขนเป็นกัปตันทีมในตำแหน่งกองหน้าตัวเป้า และน่าจะให้ เจา เฟลิกซ์ ลงไปทำหน้าที่เป็นตัวริมเส้นฝั่งซ้าย โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ ดิโอโก้ โจต้า ในตำแหน่งตัวริมเส้นฝั่งขวา ส่วนในรายของ แบร์นาร์โด้ ซิลวา เป็นหนึ่งในนัเตะของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชุดคว้าแชมป์เจ้าสโมสรยุโรป จึงเตรียมได้พักด้วยเช่นกัน ทำให้ ราฟาเอล เลเอา, กอนซาโล่ รามอส และ ริคาร์โด้ ฮอร์ต้า เตรียมเป็นตัวสแตนบายอยู่ที่ข้างสนามทั้งหมด
บอสเนีย
ผลงาน 5 เกมหลังสุด
ยูฟ่า เนชั่นส์ลีก ลีก บี : ชนะ ฟินแลนด์ 3-2 (เหย้า)
ยูฟ่า เนชั่นส์ลีก ลีก บี : ชนะ มอนเตเนโกร 1-0 (เหย้า)
ยูฟ่า เนชั่นส์ลีก ลีก บี : แพ้ โรมาเนีย 1-4 (เยือน)
ยูโร 2024 รอบคัดเลือก : ชนะ ไอซ์แลนด์ 3-0 (เหย้า)
ยูโร 2024 รอบคัดเลือก : แพ้ สโลวะเกีย 0-2 (เยือน)
คาดว่ากุนซือ ฟารุค ฮัดซิเบกิช จะปรับทัพบางตำแหน่ง เพื่อลุ้นกลับมาคว้าชัยอีกครั้ง โดยตอนนี้ยังคงรั้งอันดับ 3 ของกลุ่ม แข่ง 2 นัด มี 3 คะแนน ตามหลัง สโลวะเกีย ทีมอันดับ 2 เพียงแต้มเดียว และไล่ตาม โปรตุเกส ทีมจ่าฝูงอยู่ 2 แต้ม จึงพร้อมให้พวกแข้งหลักออกสตาร์ทเป็นตัวจริงเหมือนเดิม
11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามเป็นตัวจริงตามแผนการเล่นแบบ 3-5-2
อิบราฮิม เซฮิช, ซินิซ่า ซานิคานิน, อาเนล อาห์เม็ดฮอดซิช, เฮอร์โวจ์ มิลิเซวิช, อามาร์ เดดิช, ยูซุฟ กาซิเบโกวิช, มิราเลม ปานิช, อาเมียร์ ฮัดซิอาห์เมโตวิช, กอจ์โก้ ซิมิรอต, สเมล พรีเวลยัค, เอดิน เชโก้
ผู้รักษาประตู : พร้อมให้มือหนึ่ง นั่นก็คือ อิบราฮิม เซฮิช ยืนเฝ้าเสาเป็นตัวจริงไปเลย ส่วนในรายของ เคนาน ปิริช เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองในฐานะมือสองต่อไป
แนวรับ : น่าจะใช้งาน 3 ประสาน ประกอบไปด้วย ซินิซ่า ซานิคานิน, อาเนล อาห์เม็ดฮอดซิช และ เฮอร์โวจ์ มิลิเซวิช ซึ่งเป็นแกนหลักในแดนหลังอยู่แล้ว ส่วนในรายของ เซอัด โคลาซินัค และ อาเดรียน บาริซิช เตรียมนั่งเป็นตัวรสำองไปก่อน
แดนกลาง : เตรียมได้เห็น มิราเลม ปานิช ลงไปยืนคุมเกมในฐานะตัวหลักในแผงมิดฟิลด์เหมือนเช่นเคย และน่าจะให้ อาเมียร์ ฮัดซิอาห์เมโตวิช และ กอจ์โก้ ซิมิรอต ลงไปประสานงานด้วยกัน ส่วนวิงแบ็กฝั่งซ้ายเตรียมเป็นหน้าที่ของ อามาร์ เดดิช ลงไปยืนประจำการ โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ ยูซุฟ กาซิเบโกวิช ในตำแหน่งวิงแบ็กฝั่งขวา ทำให้ มิโรสลาฟ สเตวาโนวิช, ซานจิน เปอร์ซิช, ลูก้า เมนาโล่, เบนจามิน ทาฮิโรวิช และ ดาล วาเรซาโนวิช เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองอยู่ที่ข้างสนามเหมือนเดิม
แนวรุก : ส่อให้ เอดิน เชโก้ นั่งเป็นกองหน้าในฐานะกัปตันทีม แม้จะเพิ่งพบกับความผิดหวังจากนัดชิงยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในช่วงหลังจากที่ทีมต้นสังกัด นั่นก็คือ อินเตอร์ มิลาน เข้าป้ายเพียงรองแชมป์เท่านั้น และน่าจะให้ สเมล พรีเวลยัค ลงไปยืนล่าตาข่ายคู่กัน ส่วนในรายของ เคนาน โคโดร, เนมันย่า บิบิย่า และ ซาอิด ฮามูลิช ไม่น่าจะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงอยู่แล้ว
สถิติการพบกันเอง
สำหรับคู่นี้เคยดวลแข้งกันในทุกรายการมาแล้วทั้งหมด 4 เกม ปรากฎว่า โปรตุเกส มีสถิติเหนือกว่า เพราะไม่เคยแพ้แม้แต่นัดเดียว โดยเป็นฝ่ายชนะ 3 เกม และเสมอ 1 เกม ส่วนผลการพบกันนัดล่าสุดในศึกยูโร 2012 รอบคัดเลือก เมื่อปี 2011 ปรากฎว่า โปรตุเกส เปิดบ้านไล่ถล่ม 6-2
สถิติที่เคยพบกัน 5 เกมหลังสุด
ฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือก ปี 2009 : โปรตุเกส ชนะ บอสเนีย 1-0
ฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือก ปี 2009 : โปรตุเกส แพ้ โปรตุเกส 0-1
ยูโร 2012 รอบคัดเลือก ปี 2011 : บอสเนีย เสมอ โปรตุเกส 0-0
ยูโร 2012 รอบคัดเลือก ปี 2011 : โปรตุเกส ชนะ บอสเนีย 6-2
ความน่าจะเป็น
แม้จะมีการปรับเปลี่ยนทีมในช่วงหลังจบศึกฟุตบอลโลก 2022 เมื่อปลายปีก่อน โดยเฉพาะเรื่องของกุนซือที่เปลี่ยนมาเป็น โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ นั่นเอง แต่ดูเหมือนว่า โปรตุเกส จะสามารถตั้งลำได้แล้วจากการเก็บชัยในเกมรอบคัดเลือกทั้ง 2 นัดรกได้แบบสวยงาม และพร้อมให้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เป็นแกนหลักในแนวรุกต่อไป แม้ว่าตอนนี้จะมีอายุมากถึง 37 ปีแล้วก็ตาม ส่วน บอสเนีย ยังคงใช้ทีมแบบผสมระหว่างพวกแข้งหลัก และนักเตะสายเลือดใหม่ จึงยังดูไม่ค่อยลงตัวเสียเท่าไรนัก คาดว่า “ฝอยทอง” ซึ่งถือความได้เปรียบในฐานะเจ้าบ้านอยู่แล้ว และมีความครบเครื่องมากกว่าเยอะเลย จึงน่าจะเป็นฝ่ายเก็บชัยในถิ่นของตัวเองเอาไว้ได้ตามเป้า
ผลที่คาด : โปรตุเกส ชนะ บอสเนีย 2-0
บทความนี้นับสนุนโดย Siam99 เว็บคาสิโนออนไลน์ที่นึ่งในประเทศไทย