ลาลีกา สเปน
บาร์เซโลน่า VS เรอัล มาดริด
สนาม : คัมป์ นู
เวลา : 03.00 น.
บาร์เซโลน่า
ผลงาน 5 เกมหลังสุดในศึกลาลีกา
ลาลีกา สเปน : ชนะ บียาร์เรอัล 1-0 (เยือน)
ลาลีกา สเปน : ชนะ กาดิช 2-0 (เหย้า)
ลาลีกา สเปน : แพ้ อัลเมเรีย 0-1 (เยือน)
ลาลีกา สเปน : ชนะ บาเลนเซีย 1-0 (เหย้า)
ลาลีกา สเปน : ชนะ แอธเลติก บิลเบา 1-0 (เยือน)
คาดว่ากุนซือ ชาบี เอร์นันเดซ จะปรับทัพบางตำแหน่ง เพื่อลุ้นคว้าชัยนำเป็นจ่าฝูงต่อไปแบบยาวๆ โดยตอนนี้ยังคงรั้งอันดับ 1 แข่ง 25 นัด มี 65 คะแนน นำหน้า เรอัล มาดริด ทีมอันดับ 2 อยู่ถึง 9 แต้มเลยทีเดียว แม้จะหมดสิทธิ์ใช้งานนักเตะบางคน เพราะเจอโรคเดี้ยงเล่นงาน แต่ว่าได้แข้งดังบางคนกลับมาลงสนามได้อีกครั้ง
11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามเป็นตัวจริงตามแผนการเล่นแบบ 4-3-3
มาร์ค-อังเดร แทร์ สเตเก้น, อันเดรียส คริสเตียนเซ่น, ฌูลส์ คุนเด้, อเลฮานโดร บัลเด้, เซร์กี้ โรแบร์โต้, เซร์คิโอ บุสเกสต์, กาบี, เฟรงกี้ เดอ ยอง, ราฟินญ่า, เฟร์ราน ตอร์เรส, โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้
ผู้รักษาประตู : เตรียมได้เห็น มาร์ค-อังเดร แทร์ สเตเก้น ยืนเฝ้าเสาเป็นตัวจริงเหมือนอย่างนัดที่แล้ว เพราะยังคงผูกขาดตำแหน่งมือหนึ่งเอาไว้เหมือนเดิม ส่วนในรายของ อินากี้ เปน่า เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองในฐานะมือสองอยู่แล้ว
แนวรับ : ได้ โรนัลด์ อเราโฆ พ้นโทษแบนกลับมาช่วยทีมได้อีกครั้ง แต่น่าจะต้องนั่งเป็นตัวสำรองไปก่อน เพราะน่าจะให้ ฌูลส์ คุนเด้ ลงไปยืนเป็นกองหลังคู่กับ อันเดรียส คริสเตนเซ่น เหมือนอย่างนัดที่แล้ว ส่วนแบ็กซ้ายเตรียมให้ อเลฮานโดร บัลเด้ ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง เพราะเป็นตัวเลือกอันดับแรกเหนือกว่า ฆอร์ดี้ อัลบา รวมถึง มาร์กอส อลอนโซ่ โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ เซร์กี้ โรแบร์โต้ ซึ่งพร้อมสวมบทเป็นแบ็กขวาเหมือนในนัดก่อน
แดนกลาง : รอเช็กสภาพความฟิตของ เปดรี้ เพิ่งหายจากอาการบาดเจ็บ แต่น่าจะต้องนั่งเป็นตัวสำรองไปก่อนเพื่อให้ กาบี, เฟรงกี้ เดอ ยอง รวมถึง เซร์คิโอ บุสเกตส์ เตรียมลงไปยืนคุมเกมในแผงมิดฟิลด์ทั้งหมดเลย ทำให้ ฟรองค์ เคสซี่ เตรียมเป็นตัวสแตนบายอยู่ที่ข้างสนาม เช่นเดียวกับ อัลบาโร่ ซานซ์, อังเคล อาลาร์กอน รวมถึง ปาโบล ตอร์เร่ ซึ่งเป็น 3 ดาวรุ่งจากทีมเยาวชนที่ยังคงต้องรออกสตาร์ทเป็นตัวจริงกันต่อไป
แนวรุก : หมดสิทธิ์ใช้งาน อุสมาน เดมเบเล่ ยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บ และไม่น่าจะให้ อันซู ฟาติ ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงด้วยเช่นกัน แต่พร้อมให้ เฟร์ราน ตอร์เรส ลงไปยืนประจำการในตำแหน่งปีกซ้าย โดยจะยืนคนละฝั่งกับ ราฟินญ่า ซึ่งพร้อมสวมบทเป็นปีกขวาอยู่แล้ว ส่วนในรายของ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ พร้อมออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในตำแหน่งกอหน้าตัวเป้าอย่างแน่นอน
เรอัล มาดริด
ผลงาน 5 เกมหลังสุดในศึกลาลีกา
ลาลีกา สเปน : ชนะ เอลเช่ 4-0 (เหย้า)
ลาลีกา สเปน : ชนะ โอซาซูน่า 2-0 (เยือน)
ลาลีกา สเปน : เสมอ แอตเลติโก มาดริด 1-1 (เหย้า)
ลาลีกา สเปน : เสมอ เรอัล เบติส 0-0 (เยือน)
ลาลีกา สเปน : ชนะ เอสปันญอล 3-1 (เหย้า)
คาดว่ากุนซือ คาร์โล อันเชลอตติ จะปรับทัพบางตำแหน่ง เพื่อลุ้นเก็บชัยขยับเข้าไปหาทีมจ่าฝูงให้ใกล้ขึ้นมาอีก โดยตอนนี้รั้งอันดับ 2 แข่ง 25 นัด มี 56 คะแนน จึงไล่ตามหลัง บาร์เซโลน่า ทีมอันดับ 1 ห่างถึง 9 แต้มเลยทีเดียว จึงพร้อมให้พวกแข้งหลักออกสตาร์ทเป็นตัวจริงเกือบทั้งหมด เพราะไม่มีนักเตะได้รับบาดเจ็บเพิ่มเติม
11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามเป็นตัวจริงตามแผนการเล่นแบบ 4-3-3
ธีโบต์ กูร์ตัวส์, อันโตนิโอ รูดิเกอร์, เอแดร์ มิลิเทา, ดานี่ คาร์บาฆัล เอดูอาร์โด้ คามาวิงก้า, ลูก้า โมดริช, โทนี่ โครส, โอเรเลียง ชูอาเมนี่, เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้, วินิซิอุส จูเนียร์, คาริม เบนเซม่า
ผู้รักษาประตู : ไม่เปลี่ยนแปลงไปจาก ธีโบต์ กูร์ตัวส์ พร้อมยืนเฝ้าเสาในฐานะมือหนึ่งตั้งแต่นาทีแรกต่อไป ส่วนในรายของมือสอง นั่นก็คือ อังเดร ลูนิน เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองอยู่ที่ข้างสนามเหมือนเดิม
แนวรับ : ขาดเพียงแค่ ดาวิด อลาบา ยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บ แต่พร้อมให้ อันโตนิโอ รูดิเกอร์ ลงไปยืนเป็นกองหลังคู่กับ เอแดร์ มิลิเทา อยู่แล้ว ส่วนในรายของ เอดูอาร์โด้ คามาวิงก้า พร้อมขยับจากตำแหน่งมิดฟิลด์ไปสวมบทเป็นแบ็กซ้าย โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ ดานี่ คาร์บาฆัล ในตำแหน่งแบ็กขวา ขณะที่ อัลบาโร่ โอดริโอโซล่า, นาโช แฟร์นันเดซ, ลูคัส บาซเกซ และ เฆซุส บาเยโฆ่ นั่งเป็นตัวสแตนบายเหมือนเช่นเคย ด้าน แฟร์ลองด์ เมนดี้ ยังอยู่ในช่วงฟื้นฟูสภาพร่างกายให้กลับมาฟิตสมบูรณ์อีกครั้ง
แดนกลาง : พร้อมใช้งาน 3 แกนหลัก นั่นก็คือ ลูก้า โมดริช, โทนี่ โครส และ โอเรเลียง ชูอาเมนี่ เพราะเป็น 3 แกนหลักในแผงมิดฟิลด์อยู่แล้ว ทำให้ ดานี่ เซบายอส, มาริโอ มาร์ติน รวมถึง เซร์คิโอ อาร์ริบาส เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองอยู่ที่ข้างสนามทั้งหมดเลย
แนวรุก : น่าจะให้ เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้ ขยับจากตำแหน่งมิดฟิลด์ขึ้นไปสวมบทเป็นปีกขวาเหมือนอย่างที่เคยเห็นกันอยู่เป็นประจำ โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ วินิซิอุส จูเนียร์ ในตำแหน่งปีกซ้าย และพร้อมวาง คาริม เบนเซม่า ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้าเหมือนเเดิม ส่วนในรายของ โรดรีโก้ โกเอส, มาร์โก อเซนซิโอ, มาเรียโน่ ดิอาซ รวมถึง เอแด็ง อาซาร์ เตรียมเป็นตัวสแตนบายต่อไป
สถิติการพบกันเอง
สำหรับคู่นี้เคยดวลแข้งกันในทุกรายการมาแล้วทั้งหมด 82 เกม ปรากฎว่า บาร์เซโลน่า มีสถิติเหนือกว่าอยู่พอสมควร โดยเป็นฝ่ายชนะ 36 เกม เสมอ 20 เกม และแพ้ 26 เกม ส่วนผลการพบกันนัดล่าสุดในศึกโคปา เดล เรย์ เมื่อปี 2023 ปรากฎว่า “เจ้าบุญทุ่ม” บุกไปชนะ 1-0 สำหรับผลการพบกันในสนามแห่งนี้นัดล่าสุดเกิดขึ้นในศึกลาลีกาเมื่อปี 2021 ปรากฎว่า เรอัล มาดริด บุกไปชนะ 2-1
สถิติที่เคยพบกัน 5 เกมหลังสุด
ลาลีกา สเปน ปี 2022 : เรอัล มาดริด แพ้ บาร์เซโลน่า 0-4
นัดกระชับมิตร ปี 2022 : เรอัล มาดริด แพ้ บาร์เซโลน่า 0-1
ลาลีกา สเปน ปี 2023 : เรอัล มาดริด ชนะ บาร์เซโลน่า 3-1
ซูเปอร์ โคปา เดอ เอสปันญ่า ปี 2023 : เรอัล มาดริด แพ้ บาร์เซโลน่า 1-3
โคปา เดล เรย์ ปี 2023 : เรอัล มาดริด แพ้ บาร์เซโลน่า 0-1
ความน่าจะเป็น
แม้จะมีนักเตะสลับสับเปลี่ยนกันหายหน้าหายตาไปแบบต่อเนื่อง แต่ บาร์เซโลน่า ยังสามารถจัดทีมชุดที่ลงตัวที่สุดลงสนามได้เหมือนเดิม เพราะว่าพวกแกนหลักยังคงพร้อมออกสตาร์ทเป็นตัวจริงนั่นเอง ส่วน เรอัล มาดริด ทำผลงานไม่คงเส้นคงวาเสียเท่าไรนัก จึงเป็นฝ่ายไล่ตามหลังบนหัวตารางคะแนนลาลีกาอยู่หลายแต้มเลย คาดว่า “เจ้าบุญทุ่ม” น่าจะเป็นฝ่ายเก็บชัยได้แบบหวุดหวิด
ผลที่คาด : บาร์เซโลน่า ชนะ เรอัล มาดริด 2-1
บทความนี้นับสนุนโดย Siam99 เว็บคาสิโนออนไลน์ที่นึ่งในประเทศไทย