“ตราไก่” ฝรั่งเศส พร้อมให้นักเตะสำรองลงสนาม แต่จะได้เห็น คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ลงไปยืนเป็นแนวรุกนัดเยือน ยิบรอลตาร์ ในศึกฟุตบอลยูโร 2024 รอบคัดเลือก กลุ่ม บี คืนวันที่ 15 มิ.ย.นี้ เพื่อลุ้นเก็บชัยนำโด่งเป็นจ่าฝูงต่อไป
ยูโร 2024 รอบคัดเลือก กลุ่ม บี
ยิบรอลตาร์ VS ฝรั่งเศส
สนาม : เอสตาดิโอ อัลการ์ฟ, เมืองอัลการ์ฟ ประเทศโปรตุเกส
เวลา : 01.45 น.
ยิบรอลตาร์
ผลงาน 5 เกมหลังสุด
ยูฟ่า เนชั่นส์ลีก รอบคัดเลือก : แพ้ จอร์เจีย 1-2 (เหย้า)
นัดกระชับมิตร : ชนะ ลิกเทนสไตน์ 2-0 (เหย้า)
นัดกระชับมิตร : ชนะ อันดอร์ร่า 1-0 (เหย้า)
ยูโร 2024 รอบคัดเลือก กลุ่ม บี : แพ้ กรีซ 0-3 (เหย้า)
ยูโร 2024 รอบคัดเลือก กลุ่ม บี : แพ้ เนเธอร์แลนด์ 0-3 (เยือน)
คาดว่ากุนซือ ฮูลิโอ รีบาส จะปรับทัพบางตำแหน่งเพื่อลุ้นเก็บชัยเป็นนัดแรกให้ได้เสียที หลังพบกับความพ่ายแพ้มาแล้วถึง 2 เกมซ้อน โดยตอนนี้ยังคงรั้งบ๊วยอันดับ 5 ไม่มีแม้แต่คะแนนเดียว และยิงประตูไม่ได้แม้แต่ลูกเดียวเลยด้วย จึงพร้อมให้พวกแข้งหลักลงสนามทั้งหมดเลย
11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามเป็นตัวจริงตามแผนการเล่นแบบ 5-4-1
ไดล์ โคลอิ้ง, แบร์นาร์โด้ โลเปส, เจย์ซ มาสคาเรนฮาส-โอลิเวโร่, รอย ชิโปลิน่า, อีธาน บริตโต้, แจ็ค เซอร์เกนท์, เคียน โรแนน, โมฮาเม็ด บาเดอร์, แอนโธนี่ เฮอร์นันเดซ, นิโกลาส์ โปโซ่, เจมี่ คุมเบส
ผู้รักษาประตู : ไม่เปลี่ยนแปลงไปจาก ไดล์ โคลอิ้ง พร้อมยืนเฝ้าเสาเป็นมือหนึ่งเหมือนเดิม ส่วนในรายของ เบรดลี่ย์ แบนด้า และ เจย์แลน แฮนคินส์ ไม่น่าจะได้ลงสนามเป็นตัวจริงเหมือนเช่นเคย
แนวรับ : พร้อมให้ แบร์นาร์โด้ โลเปส, เจย์ซ มาสคาเรนฮาส-โอลิเวโร่ และ รอย ชิโปลิน่า ลงไปยืนเป็นกองหลังร่วมกัน ส่วนแบ็กซ้ายเตรียมเป็นหน้าที่ของ อีธาน บริตโต้ ลงไปยืนประจำการ โดยจะยืนคนละฝั่งกับ แจ็ค เซอร์เกนท์ ในตำแหน่งแบ็กขวา ทำให้ โจเซฟ ชิโปลิน่า, สกอตต์ ไวส์แมน, ลูอี้ แอนเนสเล่ย์, ไอเมน มูเอลฮี, อีธาน โจลลี่ย์, อีธาน ซานโต๊ส และ ไนล์ส ฮาร์ทแมน เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองทั้งหมดเลย
แดนกลาง : ไร้เงาของ เลียม วอล์คเกอร์ ติดโทษแบน จึงพร้อมให้ เคียน โรแนน กับ โมฮาเม็ด บาเดอร์ ลงไปยืนคุมเกมร่วมกัน และน่าจะให้ โมฮาเม็ด บาเดอร์ ลงไปสวมบทเป็นปีกซ้าย โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ แอนโธนี่ เฮอร์นันเดซ ในตำแหน่งปีกขวา ส่วนในรายของ อายูบ เอล ฮิมิดี้ และ สกอตตื บัลลันไทน์ เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองไปก่อน
แนวรุก : เตรียมได้เห็น เจมี่ คุมเบส ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้าเหมือนกัน ส่วนในรายของ ลี คาสเซียโร่, ไตย์ เดอ บาร์ และ ดีแลน พีค็อค ไม่น่าจะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงอยู่แล้ว
ฝรั่งเศส
ผลงาน 5 เกมหลังสุด
ฝรั่งเศส
ผลงาน 5 เกมหลังสุด
ฟุตบอลโลก 2022 รอบ 8 ทีมสุดท้าย : ชนะ อังกฤษ 2-1 (สนามกลาง)
ฟุตบอลโลก 2022 รอบรองชนะเลิศ : ชนะ โมร็อคโก 2-0 (สนามกลาง)
ฟุตบอลโลก 2022 รอบชิงชนะเลิศ : เสมอ อาร์เจนติน่า 3-3 (สนามกลาง) – แพ้ดวลจุดโทษตัดสิน
ยูโร 2024 รอบคัดเลือก กลุ่ม บี : ชนะ เนเธอร์แลนด์ 4-0 (เหย้า)
ยูโร 2024 รอบคัดเลือก กลุ่ม บี : ชนะ ไอร์แลนด์ 1-0 (เยือน)
คาดว่ากุนซือ “เดเด้” ดิดิเยร์ เดสชองส์ จะปรับทัพบางตำแหน่งเพื่อลุ้นเก็บชัยนำโด่งเป็นจ่าฝุงต่อไป โดยตอนนั้นยังคงรั้งอันดับ 1 ของกลุ่มจากการเก็บชัยมาแล้ว 2 นัดรวด มี 6 คะแนนเต็ม และยังไม่เสียประตูแม้แต่ลูกเดียว โดยยังคงนำหน้าอันดับ 2 ร่วมกัน นั่นก็คือ กรีซ กับ เนเธอร์แลนด์ อยู่ 3 แต้ม จึงพร้อมให้พวกแข้งหลักลงสนามหลายคน แต่พร้อมให้พวกนักเตะสำรองได้ลงไปเล่นด้วย
11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามเป็นตัวจริงตามแผนการเล่นแบบ 4-2-3-1
ไมค์ เมญอง, ดาโยต์ อูปาเมกาโน่, อิบราฮิมา โกนาเต้, แบ็งฌาแมง ปาวาร์, ฌูลส์ กุนเด้, เอดูอาร์โด้ คามาวิงก้า, ยุสซุฟ โฟฟาน่า, อองตวน กรีซมันน์, อุสมาน เดมเบเล่, คีลิยัน เอ็มบัปเป้, โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์
ผู้รักษาประตู : พร้อมให้มือหนึ่ง นั่นก็คือ ไมค์ เมญอง ยืนเฝ้าเสาเป็นตัวจริงตั้งแต่นาทีแรกเหมือนเดิม ส่วนในรายของ อัลฟงส์ อเรโอลา รวมถึง บริส ซ็องบา เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองอยู่ข้างสนามทั้งคู่เลย
แนวรับ : น่าจะให้ อิบราฮิมา โกนาเต้ ลงไปยืนเป็นกองหลังคู่กับ ดาโยต์ อูปาเมกาโน่ ส่วนแบ็กซ้ายพร้อมให้ แบ็งฌาแมง ปาวาร์ ลงไปยืนประจำการ โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ ฌูลส์ กุนเด้ ในตำแหน่งแบ็กขวา ทำให้ เตโอ แอร์กน็องเดซ, อักเซล ดิซาซี่, แฟร์ลองด์ เมนดี้ และ เวสลีย์ โฟฟาน่า เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองเพื่อรอโอกาสลงสยนามกันต่อไป
แดนกลาง : เรียกตัวผู้ดเล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์มารับใช้ชาติไม่มากนัก แต่น่าจะให้ เอดูอาร์โด้ คามาวิงก้า กับ ยุสซุฟ โฟฟาน่า ลงไปยืนคุมเกมร่วมกัน และน่าจะให้ โอเรเลียง ชูอาเมนี่ รวมถึง อาเดรียง ราบิโอต์ นั่งเป็นตัวสำรองไปก่อน
แนวรุก : ไม่เปลี่ยนแปลงไปจาก คีลิยัน เอ็มบัปเป้ พร้อมสวมบทเป็นตัวริมเส้นทางฝั่งซ้ายอยู่แล้ว โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ อุสมาน เดมเบเล่ ซึ่งน่าจะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในตำแหน่งตัวริมเส้นฝั่งขวา ส่วนในรายของ อองตวน กรีซมันน์ ยังคงพร้อมทำหน้าที่เป็นเพลย์เมกเกอร์ในฐานะตัวปั้นเกมเพื่อประสานงานกับ โอลิวิเยร์ ชิรูด์ เตรียมได้กลับมายืนเป็นกองหน้าตัวเป้าอีกครั้ง ทำให้ คิงส์ลีย์ โกมอง, มาร์คัส ตูราม, คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู รวมถึง ร็องดาล โคโล มูอานี ไม่น่าจะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง
สถิติการพบกันเอง
สำหรับคู่นี้ไม่เคยดวลแข้งกันมาก่อนเลยแม้แต่นัดเดียว
ความน่าจะเป็น
แม้จะเรียกพวกดาวดังเข้ามารับใช้บ้านเกิดหลายคนเลย แต่คาดว่า ฝรั่งเศส ไม่น่าจะจัดผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนามอย่างแน่นอน เพราะว่าน่าจะให้พวกนักเตะสำรองได้ลงสนามด้วยเช่นกัน โดยตั้งเป้าหวังคว้าชัยเพื่อนำโด่งเป็นจ่าฝูงต่อไปแบบยาวๆ จึงน่าจะได้เห็นพวกแข้งดังลงไปยืนในแนวรุกหลายคนเลย โดยเฉพาะ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ซึ่งพร้อมลงไปยืนเป็นตัวรุกริมเส้น และน่าจะอาศัยความเก๋าของ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ สำหรับการช่วยยิงประตูด้วย ส่วน ยิบรอลตาร์ แม้จะได้สิทธิ์เป็นเจ้าบ้าน แต่เลือกที่จะมาเล่นในต่างแดนที่ประเทศโปรตุเกส จึงไม่ได้ถือความได้เปรียบจากการลงเล่นในถิ่นของตัวเอง และได้ขึ้นชื่อเป็น “ทีมสมันน้อย” ของวงการลูกหนังโลกอยู่แล้วด้วย เพราะว่าพบกับความพ่ายแพ้ให้กับทีมใหญ่ๆ ตลอดเลย แถมยังเป็นความปราชัยแบบเสียประตูหลายลูกเลยด้วยอีกต่างหาก นอกจากนี้ยังมีปัญหาเรื่องเกมรุกที่ยิงประตูแทบจะไม่ได้เลยด้วย ซึ่งตรงกันข้ามกับทีมเยือนที่มีแนวรุกระดับพระกาฬทั้งหมดเลย จึงพร้อมเดินหน้าเพื่อสอยตาข่ายอย่างแน่นอน คาดว่า ยิบรอลตาร์ ไม่น่าจะต้านทานเอาไว้ได้อยู่แล้ว เพราะว่ามีแนวรับที่ไม่ได้เหนียวแน่นอะไรเลย ดังนั้น “ตราไก่” ในฐานะทีมเยือนน่าจะโอกาสบุกไปเก็บชัยชนะได้แบบสูงมากๆ แต่ขึ้นอยู่กันว่าแนวรุกจะมีความเฉียบคมมากแค่ไหน เพื่อจะได้ยิงประตูในนัดนี้ให้ได้มากที่สุด และจะได้ตุนได้เปรียบในเรื่องของผลต่างประตูได้เสียเอาไว้ด้วย ซึ่งคาดว่าน่าจะสอยตาข่ายได้ไม่ต่ำกว่า 4 ประตูเป็นอย่างน้อยที่สุด
ผลที่คาด : ยิบรอลตาร์ แพ้ ฝรั่งเศส 0-4
บทความนี้นับสนุนโดย Siam99 เว็บคาสิโนออนไลน์ที่นึ่งในประเทศไทย