วิเคราะห์ฟุตบอล เนชั่นส์ลีก มอลตา VS อังกฤษ

วิจารณ์บอลคัดยูโร มอลตา VS อังกฤษ

“สิงโตคำราม” อังกฤษ ส่อดร็อปพวกนักเตะของ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เพราะเพิ่งเหนื่อยล้ามาการคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก แต่พร้อมให้ แฮร์รี่ เคน ยืนล่าตาข่ายนัดเยือน มอลตา ในศึกฟุตบอลยูโร 2024 รอบคัดเลือก กลุ่ม ซี คืนวันที่ 15 มิ.ย.นี้ เพื่อลุ้นเก็บชัยนำโด่งเป็นจ่าฝูงของกลุ่มต่อไป  

ยูโร 2024 รอบคัดเลือก กลุ่ม ซี

มอลตา VS อังกฤษ

สนาม : เนชั่นแนล สเตเดี้ยม, เมืองทา คาลี ประเทศมอลตา

เวลา : 01.45 น.

มอลตา

ผลงาน 5 เกมหลังสุด

นัดกระชับมิตร : เสมอ กรีซ 2-2 (เหย้า)

นัดกระชับมิตร : แพ้ ไอร์แลนด์ 0-1 (เหย้า)

ยูโร 2024 รอบคัดเลือก กลุ่ม ซี : แพ้ มาซิโดเนียเหนือ 1-2 (เยือน) 

ยูโร 2024 รอบคัดเลือก กลุ่ม ซี : แพ้ อิตาลี 0-2 (เหย้า)

นัดกระชับมิตร : ชนะ ลักเซมเบิร์ก 1-0 (เยือน)

คาดว่ากุนซือ มิคาเล่ มาร์โคลินี่ จะปรับทัพบางตำแหน่ง เพื่อลุ้นเก็บชัยเป็นนัดแรกให้ได้เสียที โดยตอนนี้ยังคงรั้งบ๊วยของกลุ่มในอันดับ 5 ไม่มีแม้แต่คะนนเดียวจากการแพ้รวดทั้ง 2 เกม จึงพร้อมจัดผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนามไปเลย เพรราะใช้งานพวกแข้งหลักได้แบบเต็มสูบตามเท่าที่มีอยู่นั่นเอง  

11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามเป็นตัวจริงตามแผนการเล่นแบบ 3-5-2

เฮนรี่ โบเนโญ่, สตีฟ บอร์ก, เฟอร์ดินันโด้ อาบัป, ไคน์ อัตตาร์ด, นิโกไล มุสแคท, แมทธิว กิลเลาเมียร์, ยานคัม ยานนิค, ฮวน คอร์บาลาน, โจเซฟ เอ็มบอง, โจดี้ โจนส์, อเล็กซานเดอร์ ซาตาเลียโน่

ผู้รักษาประตู : พร้อมให้ เฮนรี่ โบเนโญ่ ยืนเฝ้าเสาเป็นตัวจริงในฐานะมือหนึ่งเหมือนเดิม ส่วนในรายของ มัทธีอัส เดโบโน่ เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองตามหน้าที่ของมือสองอยู่แล้ว 

แนวรับ : เตรียมได้เห็น สตีฟ บอร์ก สวมปลอกแขนเป็นกันปตันทีมเพื่อลงไปยืนคุมแดนหลังร่วมกับ เฟอร์ดินันโด้ อาบัป และ ไคน์ อัตตาร์ด ทำให้ แซ็ค มุสแคท, เคิร์ท ชอว์ รวมถึง คาร์ล มิคัลเลฟ เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองได้เลย  

แดนกลาง : ไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงไปจาก 3 ประสาน นั่นก็คือ นิโกไล มุสแคท, แมทธิว กิลเลาเมียร์ และ ยานคัม ยานนิค ซึ่งพร้อมลงไปยืนประจำการอยู่แล้ว เพราะเป็น 3 ตัวหลักในแผงมิดฟิลด์นั่นเอง ส่วนวิงแบ็กฝั่งซ้ายเป็นหน้าที่ของ ฮวน คอร์บาลาน ลงไปยืนประจำการ โดยจะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ โจเซฟ เอ็มบอง ในตำแหน่งวิงแบ็กฝั่งขวา ทำให้ สตีฟ ปิซานี่, บียอร์น คริสเตนเซ่น, ไรอัน คาเมนซูลี่, เจ็ค เกรช และ อดัม โอเวอรืเอ็น ไม่น่าจะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวอยู่แล้ว 

แนวรุก : ยังคงพร้อมใช้งาน โจดี้ โจนส์ กับ อเล็กซานเดอร์ ซาตาเลียโน่ ให้จับคู่เป็นกองหน้าเพื่อยืนล่าตาข่ายร่วมกัน ส่วนในรายของ ลุค มอนเตเบลโล่, ไคเรียน เอ็นโวโก้, เจอร์เก้น เดกาเบรียเล่ และ ฌอน ดิแมช เตรียมนั่งอยู่ที่ข้างสนามตามเดิม

อังกฤษ

ผลงาน 5 เกมหลังสุด 

ฟุตบอลโลก 2022 รอบแรก นัดสุดท้าย : ชนะ เวลส์ 3-0 (สนามกลาง) 

ฟุตบอลโลก 2022 รอบ 16 ทีมสุดท้าย : ชนะ เซเนกัล 3-0 (สนามกลาง) 

ฟุตบอลโลก 2022 รอบ 8 ทีมสุดท้าย : แพ้ ฝรั่งเศส 1-2 (สนามกลาง)

ยูโร 2024 รอบคัดเลือก กลุ่ม ซี : ชนะ อิตาลี 2-1 (เยือน)

ยูโร 2024 รอบคัดเลือก กลุ่ม ซี : ชนะ ยูเครน 2-0 (เหย้า)

คาดว่ากุนซือ แกเรธ เซาธ์เกต จะปรับทัพบางตำแหน่ง เพื่อลุ้นเก็บชัยนำเป็นจ่าฝูงกลุ่มนี้ต่อไป โดยตอนนี้ยังคงรั้งตำแหน่งจ่าฝูงจากการเก็บชัย 2 นัดรวด มี 6 คะแนนเต็ม แต่ไม่ได้จะให้พวกนักเตะของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง เพราะเพิ่งเสร็จสิ้นภาระกิจจากการคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่่ผ่านมา ส่วนพวกแข้งหลักรายอื่นๆ ยังคงพร้อมให้เลือกใช้งานได้ทั้งหมด 

11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามเป็นตัวจริงตามแผนการเล่นแบบ 4-3-3

จอร์แดน พิคฟอร์ด, ไทรอน มิงค์ส, แฮร์รี่ แม็คไกวร์, ลุค ชอว์, คีแรน ทริปเปียร์, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ดีแคลน ไรซ์, คอนอร์ กัลลาเกอร์, มาร์คัส แรชฟอร์ด, บูกาโย่ ซาก้า, แฮร์รี เคน 

ผู้รักษาประตู : พร้อมให้ จอร์แดน พิคฟอร์ด ลงไปยืนเฝ้าเสาเหมือนเดิม เพราะสวมบทเป็นมือหนึ่งอยู่แล้ว ทำให้ อารอน แรมสเดล รวมถึง  แซม จอห์นสโตน เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองอยู่ที่ข้างสนามตามเดิม

แนวรับ : ส่อดร็อป จอห์น สโตนส์ ให้พักในช่วงหลังคว้าแชมป์เจ้าสโมสรยุโรป จึงน่าจะให้ ไทรอน มิงค์ส ลงไปยืนเป็นกองหลังคู่กับ แฮร์รี แม็คไกวร์ ส่วนแบ็กซ้ายพร้อมให้ ลุค ชอว์ ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง เช่นเดียวกับแบ็กขวาน่าจะได้เห็น คีแรน ทริปเปียร์ ลงไปเป็นตัวจริงเหนือกว่า ไคล์ วอล์คเกอร์ ซึ่งน่าจะได้พักเหมือนกัน ทำให้ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ กับ มาร์ค เกฮี เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองได้เลย  

แดนกลาง : ไม่มี จูด เบลลิงแฮม ได้รับบาดเจ็บ จึงน่าจะให้ คอนอร์ กัลลาเกอร์ ลงไปยืนคุมเกมร่วมกับ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และ ดีแคลน ไรซ์ ส่วนในรายของ คัลวิน ฟิลลิปส์ และ เอเบเรชี่ เอเซ่ ไม่น่าจะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง 

แนวรุก : เตรียมได้เห็น แฮร์รี่ เคน พร้อมสวมบทเป็นกองหน้าตัวเป้าเหมือนเดิม ส่วนตัวริมเส้นฝั่งซ้ายน่าจะให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด ลงไปยืนประจำการ โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ บูกาโย่ ซาก้า ในตำแหน่งตัวริมเส้นขวา เพราะน่าจะดร็อป ฟิล โฟเด้น กับ แจ็ค กรีลิช เป็นตัวสำรองเพื่อให้พักด้วยเช่นกัน ทำให้ คัลลัม วิลสัน กับ เจมส์ แมดดิสัน เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองไปก่อน    

สถิติการพบกันเอง

สำหรับคู่นี้เคยดวลแข้งกันในทุกรายการมาแล้วทั้งหมด 5 เกม ปรากฎว่า อังกฤษ มีสถิติเหนือกว่าเยอะเลย เพราะเป็นฝ่ายเก็บชัยชนะได้ทั้งหมด ส่วนผลการพบกันนัดล่าสุดในศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก เมื่อปี 2017 ปรากฎว่า “สิงโตคำราม” บุกไปชนะ 4-0

สถิติที่เคยพบกัน 5 เกมหลังสุด

ยูโร 1972 รอบคัดเลือก ปี 1971 : มอลตา แพ้ อังกฤษ 0-4

ยูโร 1972 รอบคัดเลือก ปี 1971 : อังกฤษ ชนะ มอลตา 2-0

นัดกระชับมิตร ปี 2000 : มอลตา แพ้ อังกฤษ 1-2

ฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก ปี 2016 : อังกฤษ ชนะ มอลตา 5-0

ฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก ปี 2017 : มอลตา แพ้ อังกฤษ 0-1

ความน่าจะเป็น

ไม่ได้จัดทีมชุดใหญ่ลงสนามอย่างแน่นอน สำหรับ อังกฤษ เพราะไม่น่าจะให้พวกนักเตะของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงในช่วงหลังผงาดยึดบัลลังก์ “เจ้าสโมสรยุโรป” นั่นเอง เพื่อให้ได้พักในช่วงหลังเสร็จสิ้นการกรำศึกหนักมาหมาดๆ นั่นเอง แต่ยังมีนักเตะฝีเท้าดีให้เลือกใช้งานได้อีกเพียบเลย แม้ว่าแดนกลางจะไร้ จูด เบลลิงแฮม ไม้ได้ถูกเรียกตัวมารับใช้บ้านเกิด เพราะมีปัญหาบาดเจ็บนั่นเอง แต่ยังคงมี ดีแคลน ไรซ์ พร้อมลงไปช่วยยืนคุมเกมในแผงมิดฟิลด์เหมือนเดิม ส่วนแนวรุกพร้อมจัดเต็มอยู่แล้ว จึงเตรียมได้เห็น 3 ประสาน นั่นก็คือ มาร์คัส แรชฟอร์ด, บูกาโย่ ซาก้า และ แฮร์รี เคน ได้ลงไปยืนล่าตาข่ายกันแบบพร้อมหน้าพร้อมใจทั้งหมดเลย เพื่อลุ้นเก็บชัยเป็นนัดที่ 3 ติดต่อกัน และจะได้รั้งตำแหน่งจ่าฝ๔งของกลุ่มนี้ต่อไปแบบยาวๆ เลยด้วย ส่วน มอลตา ถือความได้เปรียบจากการลงเล่นในถิ่นของตัวเองก็จริง แต่ไม่ได้เหนือกว่าทีมเยือนเลย เพราะได้ขึ้นชื่อว่าเป็น “ทีมสมันน้อย” ของวงการลูกหนังโลกมานานแล้ว และมีศักยภาพของนักเตะที่ไม่สูงมากนัก โดยส่วนใหญ่เป็นพวกผู้เล่นระดับสมัคครเล่นทั้งนั้นเลยด้วย จึงต้องพบกับความปราชัยมาแล้วถึง 2 เกมซ้อน คาดว่า “สิงโตคำราม” เตรียมลูบปากจากการลงเตะในนัดนี้ได้เลย เพราะว่าน่าจะเป็นฝ่ายคว้าชัยได้แบบสบายเกือก แต่อยู่ที่ว่าจะยิงประตูได้มากน้อยเพียงใดเท่านั้นเอง ซึ่งคาดว่าไม่น่าจะต่ำกว่า 3 ลูกเป็นอย่างน้อยที่สุด          

ผลที่คาด : มอลตา แพ้ อังกฤษ 0-3

บทความนี้นับสนุนโดย Siam99 เว็บคาสิโนออนไลน์ที่นึ่งในประเทศไทย

บทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับการวิเคราะห์ฟุตบอลเนชั่นส์ลีก

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *