“หงส์แดง” พร้อมจัดเต็มแนวรุกเตรียมได้ ดาร์วิน นูนเญซ ลงไปยืนเป็นกองหน้านัดต้อนรับ “สิงห์ผงาด” แอสตัน วิลล่า ในศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันที่ 20 พ.ค.นี้ เพื่อลุ้นเก็บชัยตามล่าพื้นที่ “ท็อปโฟร์” ใน 4 อันดับแรกต่อไป
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ลิเวอร์พูล VS แอสตัน วิลล่า
สนาม : แอนฟิลด์
เวลา : 21.00 น.
ลิเวอร์พูล
ผลงาน 5 เกมหลังสุดในศึกพรีเมียร์ลีก
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : ชนะ เวสต์แฮม 2-1 (เยือน)
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : ชนะ ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ 4-3 (เหย้า)
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : ชนะ ฟูแล่ม 1-0 (เหย้า)
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : ชนะ เบรนท์ฟอร์ด 1-0 (เหย้า)
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : ชนะ เลสเตอร์ 3-0 (เยือน)
คาดว่ากุนซือ เจอร์เกน คลอปป์ จะปรับทัพบางตำแหน่ง เพื่อลุ้นคว้าชัยตามล่าพื้นที่ “ท็อปโฟร์” ใน 4 อันดับแรกต่อไป โดยตอนนี้อยู่อันดับ 5 แข่ง 36 นัด มี 6 คะแนน แม้จะมีนักเตะเจอโรคเดี้ยงอยู่หลายราย แต่ว่าเป็นพวกหน้าเดิมๆ ที่ต้องพักรักษาอาการบาดเจ็บอยู่แล้ว ส่วนพวกแข้งหลักยังคงพร้อมออกสตาร์ทเป็นตัวจริงได้เกือบทั้งหมดเลย
11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามเป็นตัวจริงตามแผนการเล่นแบบ 4-2-3-1
อลิสซอน เบ็คเกอร์, เฟอร์กิล ฟาน ไดค์, อิบราฮิม่า โกนาเต้, แอนดี้ โรเบิร์ตสัน, เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ฟาบินโญ่, ดิโอโก้ โจต้า, โมฮาเหม็ด ซาล่าห์, โคดี้ กัคโป, ดาร์วิน นูนเญซ
ผู้รักษาประตู : เตรียมให้มือหนึ่ง นั่นก็คือ อลิสซอน เบ็คเกอร์ ลงไปยืนเฝ้าเสาตั้งแต่นาทีแรกเหมือนเดิม ส่วนในรายของ ควีวิน เคลเลเฮอร์ เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองในฐานะมือสองเหมือนอย่างนัดที่แล้ว
แนวรับ : พร้อมให้ อิบราฮิม่า โกนาเต้ ลงไปยืนเป็นกองหลังคู่กับ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ ส่วนแบ็กซ้ายพร้อมให้ แอนดี้ โรเบิร์ตสัน ลงไปยืนประจำการ โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ในตำแหน่งแบ็กขวา ทำให้ คอสตาส ซิมิคาส, โจ โกเมซ, เจมส์ มิลเนอร์ และ นาธาเนียล ฟิลลิปส์ ต้องนั่งเป็นตัวสแตนบายอยู่ที่ข้างสนาม แต่ยังคงไร้ คัลวิน แรมซีย์ ต้องพักรักษาอาการบาดเจ็บไปก่อน
แดนกลาง : น่าจะให้ เคอร์ติส โจนส์ ลงไปยืนคุมเกมร่วมกับ ฟาบินโญ่ จึงน่าจะดร็อป จอร์แดน เฮนเดอร์สัน เป็นตัวสำรองไปก่อน เช่นเดียวกับ ติอาโก้ อัลคานทาร่า รวมถึง ฮาร์วีย์ เอลเลียต ส่วนในรายของ สเตฟาน บายเซติช กับ นาบี้ เกอิต้า ยังคงหมดสิทธิ์ลงสนาม เพราะต้องพักรักษาโรคเดี้ยงไปก่อน แต่ยังคงไร้ อาร์ตูร์ เมโล่ ยังคงอยู่ในช่วงฟื้นฟูสภาพร่างกายให้กลับมาฟิตสมบูรณ์แบบเต็มร้อย จึงไม่น่าจะมีส่วนร่วมกับเกมนี้อย่างแน่นอน
แนวรุก : ยังคงไร้ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ต้องพักรักษาอาการบาดเจ็บเหมือนเดิม แต่ยังใช้งานพวกแข้งหลักรายอื่นๆ ได้เกือบทั้งหมด โดยพร้อมวาง ดิโอโก้ โจต้า ลงไปสวมบทเป็นตัวริมเส้นด้านซ้าย ซึ่งจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ในตำแหน่งตัวรุกทางริมเส้นด้านขวา และพร้อมให้ โคดี้ กัคโป สวมบทเป็นเพลย์เกมเกอร์ในฐานะตัวปั้นเกมเหมือนเดิม ส่วน ดาร๋วิน นูนเญซ พร้อมออกสตาร์ทในตำแหน่งกองหน้าตัวเป้า ส่วนในรายของ หลุยส์ ดิอาซ เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองไปก่อน เช่นเดียวกับ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน และ ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ ไม่น่าจะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงเหมือนกัน
แอสตัน วิลล่า
ผลงาน 5 เกมหลังสุดในศึกพรีเมียร์ลีก
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : เสมอ เบรนท์ฟอร์ด 1-1 (เยือน)
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : ชนะ ฟูแล่ม 1-0 (เหย้า)
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : แพ้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-1 (เยือน)
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : แพ้ วูล์ฟแฮมป์ตัน 0-1 (เยือน)
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : ชนะ ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ 2-1 (เหย้า)
คาดว่ากุนซือ อูไน เอเมรี่ จะปรับทัพบางตำแหน่ง เพื่อลุ้นเก็บชัยทำอันดับไปโชว์ฝีเท้าในศึกฟุตบอลสโมสรยุโรปช่วงฤดูกาลหน้ากันต่อไป โดยตอนนี้อยู่อันดับ 8 แข่ง 36 นัด มี 57 คะแนน จึงพร้อมจัดผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนามอย่างแน่นอน เพราะไม่มีแข้งหลักได้รับบาดเจ็บแม้แต่คนเดียว
11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามเป็นตัวจริงตามแผนการเล่นแบบ 4-4-2
เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ, เอซรี่ คอนซ่า, ไทรอน มิงค์ส, อเล็กซ์ โมเรโน่, แอชลีย์ ยัง, จอห์น แม็คกินน์, ดั๊กลาส หลุยส์, ยาค็อบ แรมซี่ย์, เลออน ไบลี่ย์, เอมิเลียโน่ บูเอ็นเดีย, โอลลี่ วัตกิ้นส์
ผู้รักษาประตู : ไม่เปลี่ยนแปลงไปจาก เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ พร้อมลงไปยืนเฝ้าเสาในฐานะมือหนึ่งเหมือนเดิม ส่วนในรายของมือสอง นั่นก็คือ โรบิน โอลเซ่น ยังคงนั่งเป็นตัวสำรองเหมือนเช่นเคย
แนวรับ : พร้อมให้ เอซรี่ คอนซ่า ลงไปยืนเป็นกองหลังคู่กับ ไทรอน มิงค์ส ส่วนในรายของ อเล็กซ์ โมเรโน่ พร้อมสวมบทเป็นแบ็กซ้าย โดยจะยืนอยู่ฝ่งตรงข้ามกับ แอชลีย์ ยัง ในตำแหน่งแบ็กขวา ทำให้ แมตตี้ แคช, ดิเอโก้ คาร์ลอส, คาลัม แชมเบอร์ส รวมถึง ลูกาส์ ดีญ เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองทั้งหมดเลย
แดนกลาง : เตรียมได้เห็น จอห์น แม็คกินน์ กับ ดั๊กลาส หลุยส์ ลงไปยืนเป็นมิดฟิลด์คู่กัน เพราะถูกวางตัวให้เป็นแกนหลักในแผงแดนกลางอยู่แล้วด้วย โดยตัวริมเส้นฝั่งซ้ายพร้อมให้ ยาค็อบ แรมซี่ย์ ลงไปยืนประจำการ โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ เลออน ไบลี่ย์ ในตำแหน่งตัวริมเส้นฝั่งขวา ทำให้ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่, เลอันเดอร์ เดนดองค์เกอร์ และ บูบาการ์ กามาร่า เตรียมเป็นตัวสแตนบายอยู่ที่ข้างสนามต่อไป
แนวรุก : ยังคงพร้อมขยับ เอมิเลียโน่ บูเอ็นเดีย จากตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรุกขึ้นไปยืนเป็นกองหน้าคู่กับ โอลลี่ วัตกิ้นส์ เหมือนอย่างนัดที่แล้ว ส่วนในรายของ เบอร์ทรานด์ ตราโอเร่ และ จอน ดูราน ไม่น่าจะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงอยู่แล้ว
สถิติการพบกันเอง
สำหรับคู่นี้เคยดวลแข้งกันในทุกรายการมาแล้วทั้งหมด 178 เกม ปรากฎว่า ลิเวอร์พูล มีสถิติเหนือกว่าอยู่พสมควร โดยเป็นฝ่ายชนะ 90 เกม เสมอ 36 เกม และแพ้ 52 เกม ส่วนผลการพบกันนัดล่าสุดในศึกพรีเมียร์ลีกเมื่อปี 2022 ปรากฎว่า “หงส์แดง” บุกไปชนะ 3-1 สำหรับผลการพบกันในสนามแห่งนี้นัดล่าสุดเกิดขึ้นในศึกพรีเมียร์ลีกเมื่อปี 2021 ปรากฎว่า แอสตัน วิลล่า บุกไปแพ้ 0-1
สถิติที่เคยพบกัน 5 เกมหลังสุด
เอฟเอ คัพ ปี 2021 : แอสตัน วิลล่า แพ้ ลิเวอร์พูล 1-4
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ปี 2021 : ลิเวอร์พูล ชนะ แอสตัน วิลล่า 2-1
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ปี 2021 : ลิเวอร์พูล ชนะ แอสตัน วิลล่า 1-0
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ปี 2022 : แอสตัน วิลล่า แพ้ ลิเวอร์พูล 1-2
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ปี 2022 : แอสตัน วิลล่า แพ้ ลิเวอร์พูล 1-3
ความน่าจะเป็น
เพราะมีเดิมพันคือการลุ้นเกาะกลุ่ม “ท็อปโฟร์” ใน 4 อันดับแรก ทำให้ ลิเวอร์พูล ยังคงพร้อมมุ่งมั่นเพื่อเดินหน้าเก็บชัยไปให้ถึงจุดหมายปลายทางให้ได้ จึงพร้อมจัดผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนามไปเลย เพราะได้พวกแข้งหลักหายเจ็บกลับมาช่วยทีมได้เกือบหมดแล้วนั่นเอง โดยเฉพาะแนวรุกที่มีนักเตะฝีเท้าดีให้เลือกใช้งานได้เพียบเลย ส่วน แอสตัน วิลล่า ยังคงตามเดินหน้าเก็บ 3 คะแนนเต็มเพื่อไปให้ถึงฝั่งฝัน นั่นก็คือการลุ้นคว้าตั๋วไปเล่นในศึกฟุตบอลสโมสรยุโรปในช่วงฤดูกาลหน้าให้ได้สักหนึ่งรายการ จึงพร้อมให้พวกแข้งหลักออกสตาร์ทเป็นตัวจริงกันแบบพร้อมหน้าพร้อมตาไปเลย คาดว่า “หงส์แดง” น่าจะเก็บชัยในถิ่นของตัวเองเอาไว้ได้ เพราะเป็นทีมที่ทำผลงานในรังของตัวเองได้ดีอยู่แล้วด้วย
ผลที่คาด : ลิเวอร์พูล ชนะ แอสตัน วิลล่า 1-0
บทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับพรีเมียร์ลีกอังกฤษ
บทความนี้นับสนุนโดย Siam99 เว็บคาสิโนออนไลน์ที่นึ่งในประเทศไทยสมัครตอนนี้รับตั๋ว5ใบทันที