พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
อาร์เซนอล VS แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
สนาม : เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม
เวลา : 23.30 น.
อาร์เซนอล
ผลงาน 5 เกมหลังสุดในศึกพรีเมียร์ลีก
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : ชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน 2-0 (เยือน)
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : ชนะ เวสต์แฮม 3-1 (เยือน)
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : ชนะ ไบรท์ตัน 4-2 (เยือน)
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : เสมอ นิวคาสเซิ่ล 0-0 (เหย้า)
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : ชนะ ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ 2-0 (เยือน)
คาดว่ากุนซือ มิเกล อาร์เตต้า จะปรับทัพบางตำแหน่งจากเกมล่าสุดที่บุกไป ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ ในศึกพรีเมียร์ลีก เพื่อเก็บชัยนำจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกต่อไป เพราะตอนนี้ยังคงรั้งอันดับ 1 แข่ง 18 นัด มี คะแนน เพราะไม่มีนักเตะได้รับบาดเจ็บเพิ่มเติม จึงพร้อมให้พวกแข้งหลักกลับมาลงสนามอย่างแน่นอน
11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามเป็นตัวจริงตามแผนการเล่นแบบ 4-3-3
อารอน แรมส์เดล, วิลเลียม ซาลิบา, กาเบรียล มากัลเญส, โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้, เบน ไวท์, มาร์ติน โอเดการ์ด, โธมัส ปาร์เตย์, กรานิท ชาก้า, บูกาโย่ ซาก้า, กาเบรียล มาร์ติเนลลี่, เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์
ผู้รักษาประตู : ยังคงให้ อารอน แรมส์เดล ยืนเฝ้าเสาเป็นตัวจริงอยู่แล้ว เพราะได้รับความไว้วางใจให้สวมบทเป็นมือหนึ่งตามเดิม ส่วนในรายของ แมตต์ ทรูเนอร์ เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองในฐานะมือสองเหมือนเช่นเคย
แนวรับ : ไม่เปลี่ยนแปลงไปจาก กาเบรียล มากัลเญส พร้อมยืนเป็นกองหลังคู่กับ วิลเลียม ซาลิบา ส่วนแบ็กซ้ายน่าจะให้ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ ลงไปยืนประจำการ เพราะเป็นตัวเลือกอันดับแรกเหนือกว่า คีแรน เทียร์นีย์ นั่นเอง โดยพร้อมยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ เบน ไวท์ พร้อมออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในตำแหน่งแบ็กขวา ทำให้ ทาเคฮิโระ โทมิยาสุ, ร็อบ โฮลดิ้ง รวมถึง เชดริก โซอาเรส เตรียมนั่งเป็นตัวสแตนบายทั้งหมดเลย
แดนกลาง : เตรียมได้เห็น กรานิท ชาก้า ลงไปยืนคุมเกมร่วมกับ มาร์ติน โอเดการ์ด และ โธมัส ปาร์เตย์ เพราะเป็นแกนหลักตามแบบฉบับของ 3 ประสานในแผงมิดฟิลด์อยู่แล้ว ส่วนในรายของ อัลแบร์ แซมบี้ โลกองก้า, ฟาบิโอ วิเอร่า, โมฮาเหม็ด เอลเนนี่ รวมถึง เอมิล สมิธ โรว์ เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองเหมือนเดิม
แนวรุก : พร้อมให้ เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ สวมบทเป็นกองหน้าตัวเป้าอยู่แล้ว เนื่องจาก กาเบรียล เชซุส ยังคงต้องพักรักษาอาการบาดเจ็บหัวเข่าที่ติดตัวมาจากการรับใช้ทีมชาติบราซิลในศึกฟุตบอลโลก 2022 ส่วนในรายของ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ พร้อมทำหน้าที่เป็นปีกขวาอยู่แล้ว โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ บูกาโย่ ซาก้า ในตำแหน่งปีกซ้ายเหมือนเช่นเคย แต่หมดสิทธิ์ใช้งาน รีสส์ เนลสัน ต้องพักรักษาอาการบาดเจ็บไปก่อน ขณะที่ มาร์ควินญอส ยังคงต้องนั่งเป็นตัวสำรองอย่างแน่นอน
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ผลงาน 5 เกมหลังสุดในศึกพรีเมียร์ลีก
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : ชนะ ฟูแล่ม 2-1 (เยือน)
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : ชนะ น็อตติ้งแฮม ฟอเรตส์ 3-0 (เหย้า)
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : ชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน 1-0 (เยือน)
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : ชนะ บอร์นมัธ 3-0 (เหย้า)
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : เสมอ คริสตัล พาเลซ 1-1 (เยือน)
คาดว่ากุนซือ เอริค เทน ฮาก จะปรับทัพจากเกมล่าสุดที่บุกไปเสมอ คริสตัล พาเลซ 1-1 ในศึกพรีเมียร์ลีก เพื่อลุ้นเก็บชัยเกาะกลุ่ม “ท็อปโฟร์” ใน 4 อันดับแรกต่อไป หลังไม่พบกับคามพ่ายแพ้จากการลงเล่นในทุกรายการมาแล้วถึง 9 นัดติดต่อกันเลยด้วย โดยตอนนี้รั้งอันดับ 3 แข่ง 19 นัด มี 39 คะแนน เท่ากับ แมนเชสเตอร์ ทีมอันดับ 2 แต่มีผลต่างประตูได้เสียน้อยกว่า 20 ลูก แม้จะมีนักเตะได้รับบาดเจ็บอยู่บ้าง แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อการจัดทีมไม่มากนัก เพราะใช้งานพวกแข้งหลักได้เกือบทั้งหมดเลย
11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามเป็นตัวจริงตามแผนการเล่นแบบ 4-2-3-1
ดาบิด เด เคอา, ราฟาเอล วาราน, ลิซานโดร มาร์ติเนซ, ลุค ชอว์, อารอน วาน-บิสซาก้า, เฟรด, คริสเตียน อีริคเซ่น, แอนโทนี่, บรูโน่ แฟร์นันเดส, มาร์คัส แรชฟอร์ด, อองโตนี่ มาร์กซิยัล
ผู้รักษาประตู : พร้อมให้ ดาบิด เด เคอา ยืนเฝ้าเสาตั้งแต่นาทีแรกอยู่แล้ว เพราะยังคงสวมบทเป็นมือหนึ่งแบบไม่มีการเปลี่ยนแปลงแน่นอน ส่วนในรายของ แจ็ค บัตแลนด์ และ ทอม ฮีตัน เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองอยู่ที่ข้างสนามต่อไป
แนวรับ : น่าจะให้ ลิซานโดร มาร์ติเนซ กลับมายืนเป็นกองหลังคู่กับ ราฟาเอล วาราน และคาดว่า ลุค ชอว์ น่าจะกลับยืนประจำการในตำแหน่งแบ็กซ้าย โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ อารอน วาน-บิสซาก้า ซึ่งพร้อมออกสตาร์ทเป็นตัวจริงต่อไป เนื่องจาก ดิโอโก้ ดาโลต์ มีสภาพร่างกายไม่ฟิตสมบูรณ์ในช่วงหลังฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บ ทำให้ ไทเรลล์ มาลาเซีย รวมถึง 2 กองหลัง นั่นก็คือ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ กับ วิคเตอร์ ลินเดเลิฟ เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองไปก่อน
แดนกลาง : หมดสิทธิ์ใช้งาน คาเซมิโร่ จากการสะสมใบเหลืองครบ 5 ใบพอดี จึงน่าจะให้ เฟรด ลงไปยืนคุมเกมร่วมกับ คริสเตียน อีริคเซ่น ทำให้ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ เตรียมนั่งอยู่ที่ข้างสนามไปก่อน ส่วนในรายของ ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค หมดสิทธิ์ลงสนามอยู่แล้ว เพราะต้องพักรักษาอาการบาดเจ็บนั่นเอง
แนวรุก : พร้อมให้ บรูโน่ แฟร์นันเดส กลับมาสวมบทเป็นเพลย์เมกเกอร์ในฐานะตัวปั้นเกม เพื่อเปิดทางให้ แอนโทนี่ กลับมายืนประจำการในตำแหน่งปีกขวา ส่วนในรายของ มาร์คัส แรชฟอร์ด พร้อมสวมบทเป็นปีกซ้ายอยู่แล้ว เพราะโชว์ฟอร์มสุดเฉียบจากการยิงประตูได้แบบต่อเนื่องเลย ขณะที่ อองโตนี่ มาร์กซิยัล ส่อได้กลับมาสวมบทเป็นกองหน้าตัวเป้าอีกครั้ง เพราะว่าเพิ่งฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บ แต่ถ้าหากยังลงเล่นไม่ได้พร้อมให้ เวาท์ เวกฮอร์สท กองหน้าตัวใหม่ออกสตาร์ทเป้นตัวจริงเหมือนอย่างนัดก่อน ขณะที่ อเลฮานโดร การ์นาโช่, จาดอน ซานโซ่ รวมถึง แอนโธนี่ เอลังก้า เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองได้เลย
สถิติการพบกันเอง
สำหรับคู่นี้เคยดวลแข้งกันในทุกรายการมาแล้วทั้งหมด 196 เกม ปรากฎว่า อาร์เซนอล มีสถิติเป็นรองอยู่พอสมควร โดยเป็นฝ่ายชนะ 67 เกม เสมอ 46 เกม และแพ้ 83 เกม ส่วนผลการพบกันนัดล่าสุดในศึกพรีเมียร์ลีกเมื่อปี 2022 ปรากฎว่า “ปืนใหญ่” บุกไปแพ้ 1-3 สำหรับผลการพบกันนัดล่าสุดที่สนามแห่งนี้ในศึกพรีเมียร์ลีกเมื่อปี 2022 ปรากฎว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกไปแพ้ 1-3
สถิติที่เคยพบกัน 5 เกมหลังสุด
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ปี 2020 : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แพ้ อาร์เซนอล 0-1
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ปี 2021 : อาร์เซนอล เสมอ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-0
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ปี 2021 : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ อาร์เซนอล 3-2
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ปี 2022 : อาร์เซนอล ชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3-1
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ปี 2022 : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ อาร์เซนอล 3-1
ความน่าจะเป็น
ยังคงอยู่ในช่วงยิ่งเล่นยิ่งมั่นใจ สำหรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพราะไล่เก็บชัยชนะได้แบบรัวๆ และใช้งานพวกแข้งดังได้ทั้งหมดเลยด้วย ส่วน อาร์เซนอล ยังคงต้องเดินหน้าเก็บชัยชนะกันต่อไป เพื่อทิ้งห่างพวกทีมลูกหนังที่ไล่ตามหลังเข้ามาใกล้เรื่อยๆ แล้วนั่นเอง แม้จะได้ลงเล่นในถิ่นตัวเอง แต่ “ปีศาจแดง” ทำผลงานในเกมที่เจอกับทีมระดับหัวแถวได้ดีมากๆ คาดว่า “ปืนใหญ่” ไม่น่าจะเป็นฝ่ายคว้าชัย และมีโอกาสแพ้คาบ้านได้เลยด้วย
ผลที่คาด : อาร์เซนอล แพ้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-2
บทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับพรีเมียร์ลีกอังกฤษ
บทความนี้นับสนุนโดย Siam99 เว็บคาสิโนออนไลน์ที่นึ่งในประเทศไทยสมัครตอนนี้รับตั๋ว5ใบทันที