วิเคราะห์ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก ฟูแล่ม VS อาร์เซนอล

วิเคราะห์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ฟูแล่ม VS อาร์เซนอล 12.03.23

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

ฟูแล่ม VS อาร์เซนอล

สนาม : คราเวน ค็อตเทจ 

เวลา : 21.00 น.

ฟูแล่ม

ผลงาน 5 เกมหลังสุดในศึกพรีเมียร์ลีก

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : เสมอ เชลซี 0-0 (เหย้า)

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : ชนะ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 2-0 (เหย้า)

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : ชนะ ไบรท์ตัน 1-0 (เยือน)

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : เสมอ วูล์ฟแฮมป์ตัน 1-1 (เหย้า)

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : แพ้ เบรนท์ฟอร์ด 2-3 (เยือน)

คาดว่ากุนซือ มาร์โก ซิลวา จะปรับทัพบางตำแหน่ง เพื่อลุ้นกลับมาเก็บชัยอีกครั้ง หลังใม่พบกับชัยชนะมาแล้ว 2 เกม และจะได้ทำอันดับขยับขึ้นไปอีก โดยตอนนี้อยู่อันดับ 7 แข่ง 26 นัด มี 39 คะแนน แม้จะมีนักเตะได้รับบาดเจ็บอยู่บ้าง แต่ว่ายังใช้งานพวกแข้งหลักได้อีกหลายคน จึงพร้อมจัดผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนามไปเลย 

11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามเป็นตัวจริงตามแผนการเล่นแบบ 4-2-3-1

แบร์นด เลโน่, ทิม รีม, อิสซ่า ดิย็อป, แอนโทนี โรบินสัน, เคนนี่ เตเต้, เจา พัลฮินญ่า, แฮร์ริสัน รีด, มานอร์ โซโลมอน, วิลเลี่ยน, อันเดรียส เปไรร่า, อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช

ผู้รักษาประตู : พร้อมให้ แบร์นด เลโน่ ลงไปยืนเฝ้าเสาเป็นมือหนึ่งต่อไป และจะได้เผชิญหย้ากับทีมต้นสังกัดเก่าไปเลย เพราะว่าเคยค้าแข้งกับ อาร์เซนอล มาก่อนนั่นเอง ส่วนในรายของ มาเร็ค โรเด็ด เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองในฐานะมือสองเหมือนเช่นเคย

แนวรับ : ยังคงให้ ทิม รีม ลงไปยืนเป็นกองหลังคู่กับ อิสซ่า ดิย็อป ส่วนในรายของ แอนโทนี โรบินสัน พร้อมสวมบทเป็นแบ็กซ้าย เพราะเป็นตัวเลือกแรกเหนือกว่า เลย์แว็ง คูร์ซาว่า ยังคงได้รับบาดเจ็บ โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ เคนนี่ เตเต้ ในตำแหน่งแบ็กขวา ขณะที่ เชน ดัฟฟี่, โทสิน อดาราบิโอโย่ และ เซดริก โซอาเรส เตรียมนั่งอยู่ที่ข้างสนามทั้งหมดเลย 

แดนกลาง : ไม่มี นีสเคนส์ เคเบโน่ รวมถึง ทอม แคร์รีย์ ได้รับบาดเจ็บ แต่จะได้ เจา พัลฮินญ่า พ้นโทษแบนกลับมายืนคุมเกมร่วมกับ แฮร์ริสัน รีด ส่วนในรายของ แฮร์รี่ วิลสัน, ซาซ่า ลูคิช, บ็อบบี้ รีด และ ลุค แฮร์ริส ไม่น่าจะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง  

แนวรุก : เตรียมได้เห็น อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้า โดยวางตัว อันเดรียส เปไรร่า ยืนเป็นตัวปั้นเกมในฐานะเพลย์เมกเกอร์ ส่วนปีกซ้ายยังคงเป็นหน้าที่ของ มานอร์ โซโลมอน โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ วิลเลี่ยน ในตำแหน่งปีกขวา ขณะที่ ดาเนียล เจมส์ และ คาร์ลอส วินิซิอุส เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองไปก่อน    

อาร์เซนอล

ผลงาน 5 เกมหลังสุดในศึกพรีเมียร์ลีก

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : แพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-3 (เหย้า)

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : ชนะ แอสตัน วิลล่า 4-2 (เยือน)

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : ชนะ เลสเตอร์ 1-0 (เยือน)

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : ชนะ เอฟเวอร์ตัน 4-0 (เหย้า)

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : ชนะ บอร์นมัธ 3-2 (เหย้า)

คาดว่ากุนซือ มิเกล อาร์เตต้า จะปรับทัพบางตำแหน่ง เพื่อเก็บชัยนำเป็นจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกต่อไป เพราะตอนนี้ยังคงรั้งอันดับ 1 แข่ง 23 นัด มี 63 คะแนน นำหน้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมอันดับ 2 อยู่ 5 แต้ม และเก็บชัยในเกมลีกสูงสุดเมืองผู้ดีมาแล้วถึง 4 เกมติดต่อกัน แม้จะมีนักเตะได้รับบาดเจ็บอยู่บ้าง แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อการจัดทีมลงสนามอยู่แล้ว เพราะว่าพวกแข้งหลักยังคงพร้อมออกสตาร์ทเป็นตัวจริงทั้งหมดเลย 

11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามเป็นตัวจริงตามแผนการเล่นแบบ 4-3-3

อารอน แรมส์เดล, วิลเลียม ซาลิบา, กาเบรียล มากัลเญส, โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้, เบน ไวท์, มาร์ติน โอเดการ์ด, โธมัส ปาร์เตย์, กรานิท ชาก้า, บูกาโย่ ซาก้า, รีสส์ เนลสัน, กาเบรียล มาร์ติเนลลี่

ผู้รักษาประตู : ยังคงเป็นหน้าที่ของ อารอน แรมส์เดล พร้อมสวมบทเป็นมือหนึ่งเพื่อยืนเฝ้าเสาตั้งแต่นาทีแรกเหมือนเดิม ส่วนในรายของ แมตต์ ทรูเนอร์ เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองในฐานะมือสองเหมือนเช่นเคย

แนวรับ : ไม่เปลี่ยนแปลงไปจาก วิลเลียม ซาลิบา ยืนเป็นกองหลังคู่กับ กาเบรียล มากัลเญส ส่วนแบ็กซ้ายยังคงเป็นหน้าที่ของ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ พร้อมลงไปยืนประจำการในฐานะตัวเลือกอันดับแรกเหนือกว่า คีแรน เทียร์นีย์ ซึ่งเตรียมนั่งเป็นตัวสำรองเหมือนเดิม โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ เบน ไวท์ ในตำแหน่งแบ็กขวาเหมือนเช่นเคย ทำให้ ยาคุบ คิวิออร์, ทาเคฮิโระ โทมิยาสุ รวมถึง ร็อบ โฮลดิ้ง เตรียมนั่งเป็นตัวสแตนบายเพื่อรอโอกาสลงสนามเหมือนอย่างนัดที่แล้ว 

แดนกลาง : ยังคงไร้ โมฮาเหม็ด เอลเนนี่ ต้องพักรักษาอาการบาดเจ็บไปก่อน แต่ว่าไม่ได้เป็นตัวหลักในแผงมิดฟิลด์ จึงน่าจะใช้งาน 3 ประสาน นั่นก็คือ มาร์ติน โอเดการ์ด, โธมัส ปาร์เตย์ รวมถึง กรานิท ชาก้า ยืนคุมเกมร่สวมกันเหมือนเดิม ส่วนในรายของ จอร์จินโญ่ น่าจะนั่งเป็นตัวสำรอง เช่นเดียวกับ ฟาบิโอ วิเอร่า รวมถึง เอมิล สมิธ โรว์ เตรียมนั่งเป็นตัวสแตนบายอยู่ที่ข้างสนามทั้งหมดเลย

แนวรุก : มีปัญหาเรื่องผู้เล่นในตำแหน่งกองหน้า เพราะไม่มี เลอันโดร ทรอสซาร์ รวมถึง เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในรายของ กาเบรียล เชซุส แม้จะหายจากโรคเดี้ยงเรียบร้อยแล้ว แต่ยังคงอยู่ในช่วงฟื้นฟูสภาพร่างกายให้กลับมาฟิตสมบูรณ์อีกครั้ง จึงพร้อมให้ บูกาโย่ ซาก้า ลงไปสวมบทเป็นปีกซ้าย โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ รีสส์ เนลสัน ซึ่งน่าจะได้ลงไปทำหน้าที่เป็นปีกขวา และน่าจะขยับ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้าไปก่อน ขณะที่ มาร์ควินญอส เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองต่อไป      

สถิติการพบกันเอง

สำหรับคู่นี้เคยดวลแข้งกันในทุกรายการมาแล้วทั้งหมด 55 เกม ปรากฎว่า อาร์เซนอล มีสถิติเหนือกว่าอยู่เยอะเลย โดยเป็นฝ่ายชนะ 37 เกม เสมอ 11 เกม และแพ้ 7 เกม ส่วนผลการพบกันนัดล่าสุดในศึกพรีเมียร์ลีกปี 2022 ปรากฎว่า “ปืนใหญ่” เปิดบ้านเฉือนชนะ 2-1 สำหรับผลการพบกันในสนามแห่งนี้นัดล่าสุดเกิดขึ้นในศึกพรีเมียร์ลีกเมื่อปี 2020 ปรากฎว่า ฟูแล่ม เป็นฝ่ายแพ้คาบ้าน 0-3 

สถิติที่เคยพบกัน 5 เกมหลังสุด

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ปี 2018 : ฟูแล่ม แพ้ อาร์เซนอล 1-5

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ปี 2019 : อาร์เซนอล ชนะ ฟูแล่ม 4-1

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ปี 2020 : ฟูแล่ม แพ้ อาร์เซนอล 0-3

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ปี 2021 : อาร์เซนอล เสมอ ฟูแล่ม 1-1

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ปี 2022 : อาร์เซนอล ชนะ ฟูแล่ม 2-1

ความน่าจะเป็น

เป็นศึกแห่งศักดิ์ศรี “ลอนดอนดาร์บี้แมตช์” ของ 2 ทีมคู่ปรับร่วมเมืองหลวงของเกาะอังกฤษ โดยตอนนี้ อาร์เซนอล ยังคงนำเป็นอันดับ 1 บนหัวตารางคะแนน แม้จะมีปัญหาเรื่องการขาดหายไปของพวกผู้เล่นในตำแหน่งกองหน้าตัวเป้า แต่ยังใช้งานพวกผู้เล่นในแนวรุกได้อีกหลายคนที่พร้อมลงไปทำหน้าที่ยืนล่าตาข่ายแทนอยู่แล้ว ส่วน ฟูแล่ม โชว์ฟอร์มได้ดีเกินคาด แม้จะเป็นทีมน้องใหม่ของศึกพรีเมียร์ลีกในช่วงฤดูกาลนี้ หลังได้เลื่อนชั้นขึ้นมาจากเดอะแชมเปี้ยนชิพนั่นเอง แต่ตอนนี้สามารถเกาะอยู่ช่วงบนของตารางคะแนนได้ด้วย คาดว่า “ปืนใหญ่” ไม่น่าจะเจอกับเกมที่ง่ายดาย แต่น่าจะบุกไปเก็บชัยชนะได้แบบหวุดหวิด   

ผลที่คาด : ฟูแล่ม แพ้ อาร์เซนอล 1-2

บทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับพรีเมียร์ลีกอังกฤษ

บทความนี้นับสนุนโดย Siam99 เว็บคาสิโนออนไลน์ที่นึ่งในประเทศไทยสมัครตอนนี้รับตั๋ว5ใบทันที

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *