วิเคราะห์ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก เลสเตอร์ VS เชลซี

วิเคราะห์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก เลสเตอร์ VS เชลซี 9.3.23

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

เลสเตอร์ VS เชลซี

สนาม : คิง พาวเวอร์ สเตเดี้ยม

เวลา : 22.00 น.

เลสเตอร์

ผลงาน 5 เกมหลังสุดในศึกพรีเมียร์ลีก

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : ชนะ แอสตัน วิลล่า 4-2 (เยือน)

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : ชนะ ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ 4-1 (เหย้า)

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : แพ้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-3 (เยือน)

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : แพ้ อาร์เซนอล 0-1 (เหย้า)

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : แพ้ เซาแธมป์ตัน 0-1 (เยือน)

คาดว่ากุนซือ เบรนแดน รอดเจอร์ส จะปรับทพบางตำแหน่ง เพื่อลุ้นเก็บชัยขยับหนีจากโซนท้ายตารางคะแนน โดยตอนนี้ยังคงอยู่อันดับ 15 แข่ง 25 นัด มี 24 คะแนน แม้จะมีนักเตะได้รับบาดเจ็บอยู่บ้าง แต่ยังใช้งานพวกแข้งหลักได้อีกหลายคน 

11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามเป็นตัวจริงตามแผนการเล่นแบบ 4-2-3-1

แดนนี่ วอร์ด, เวาท์ เฟส, แฮร์รี่ ซูตตาร์, ทิโมธี คาสตาเญ่, ริคาร์โด้ เปไรร่า, นัมปาลิส เมนดี้, เคียร์แนน ดิวส์บิวรี่-ฮอลล์, เตเต้, เจมส์ แมดดิสัน, เคเลชี่ อีเฮียนาโช่, พัตสัน ดาก้า   

ผู้รักษาประตู : ยังคงเป็นหน้าที่ของ แดนนี่ วอร์ด พร้อมยืนเฝ้าเสาเป็นตัวจริงเหมือนเดิม เพราะได้รับความไว้วางใจให้สวมบทเป็นมือหนึ่งอยู่แล้ว ส่วนในรายของ ดาเนี่ยล อีเวอร์เซ่น เตรียมทำหน้าที่เป็นตัวสำรองในฐานะมือสองอยู่แล้ว   

แนวรับ : ไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงคู่กองหลัง โดยพร้อมให้ เวาท์ เฟส ยืนคุมแดนหลังคู่กับ แฮร์รี่ ซูตตาร์ ทำให้ ยานนิค เวสเตอร์การ์ด, ชักลาร์ โซยุนคู และ ดาเนี่ยล อมาร์ตี้ เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองในตำแหน่งกองหลังเหมือนเดิม แต่หมดสิทธิ์ใช้งาน จอนนี่ อีแวนส์ ยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บ ส่วนแบ็กซัายยังคงไร้ ไรอัน เบอร์ทรานด์ รวมถึง เจมส์ จัสติน ได้รับบาดเจ็บ จึงพร้อมให้ ทิโมธี คาสตาเญ่ ลงไปยืนประจำการเหมือนเดิม โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ ริคาร์โด้ เปไรร่า เนื่องจาก วิคเตอร์ คริสเตียนเซ่น ยังไม่หายจากโรคเดี้ยงนั่นเอง     

แดนกลาง : หมดสิทธิ์ใช้งาน ยูริ ตีเลอมองส์ ต้องพักรักษาอาการบาดเจ็บไปก่อน จึงพร้อมให้ นัมปาลิส เมนดี้ กับ เคียร์แนน ดิวส์บิวรี่-ฮอลล์ ลงไปสวมบทเป็นมิดฟิลด์คู่กันเหมือนอย่างนัดที่แล้ว ส่วนในรายของ วิลฟรีด เอ็นดิดี้, เดนนิส ปราท รวมถึง บูบาการี่ ซูมาเร่ เตรียมนั่งเป็นตัวสรำองทั้งหมดเลย

แนวรุก : เตรียมขยับผู้เล่นในบางจุด เนื่องจาก ฮาร์วีย์ บาร์นส ได้รับบาดเจ็บ จึงน่าจะให้ เคเลชี่ อีเฮียนาโช่ โยกจากองหน้าไปสวมบทเป็นปีกซ้าย โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ เตเต้ ในตำแหน่งปีกขวา ส่วนในรายของ เจมส์ แมดดิสัน เตรียมทำหน้าที่เป็นตัวปั้นเกมในฐานะเพลย์เมกเกอร์ ขณะที่ พัตสัน ดาก้า ส่อได้ลงไปยืนเป็นกองหน้า เพราะน่าจะเป็นตัวเลือกอันดับแรกเหนือกว่า เจมี่ วาร์ดี้ เตรียมนั่งอยู่ที่ข้างสนามเหมือนเดิม     

เชลซี

ผลงาน 5 เกมหลังสุดในศึกพรีเมียร์ลีก

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : เสมอ ฟูแล่ม 0-0 (เหย้า)

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : เสมอ เวสต์แฮม 1-1 (เยือน)

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : แพ้ เซาแธมป์ตัน 0-1 (เหย้า)

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : แพ้ ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ 0-2 (เยือน)

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : ชนะ ลีดส์ ยูไนเต็ด 1-0 (เหย้า)

คาดว่ากุนซือ เกรแฮม พ็อตเตอร์ จะปรับทัพจากบางตำแหน่ง หลังกลับมาคว้าชัยในศึกพรีเมียร์ลีกได้อีกครั้ง และหยุดสถิติไม่ชนะถึง 5 เกมได้แล้วด้วย โดยตอนนี้ยังคงอยู่ตรงกลางตารางคะแนนในอันดับ 10 แข่ง 25 นัด มี 34 คะแนน แม้จะมีปัญหานักเตะได้รับบาดเจ็บหลายคนเลย แต่ยังมีผู้เล่นฝีเท้าดีให้เลือกใช้งานได้อีกหลายราย 

11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามเป็นตัวจริงตามแผนการเล่นแบบ 4-2-3-1

เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า, เวสลีย์ โฟฟาน่า, คาลิดู คูลิบาลี่, เบอนัวต์ บาเดียชิลด์, เบน ซิลเวลล์, รูเบน ลอฟตัส-ชีค, มาเตโอ โควาซิช, เอ็นโซ่ เฟร์นันเดซ, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, เจา เฟลิกซ์, ไค ฮาเวิร์ตซ

ผู้รักษาประตู : ยังคงเป็นหน้าที่ของ เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า สวมบทเป็นมือหนึ่งลงไปยืนเฝ้าเสาเหมือนเดิม ส่วนในรายของ เอดูอาร์ เมนดี้ ยังไม่หายจากโรคเดี้ยง จึงพร้อมให้ มาร์คัส เบทติเนลลี่ ทำหน้าที่เป็นมือสองเหมือนเดิม

แนวรับ : ไม่มี ติอาโก ซิลวา ได้รับบาดเจ็บ จึงพร้อมใช้งาน 3 ประสาน นั่นก็คือ เวสลีย์ โฟฟาน่า, คาลิดู คูลิบาลี่ และ เบอนัวต์ บาเดียชิลด์ ลงไปยืนคุมแดนหลังต่อไป เนื่องจาก เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า ยังต้องพักรักษาโรคเดี้ยงต่อไป ส่วนในรายของ มาร์ค คูคูเรย่า รวมถึง เทรโวห์ ชาโลบาห์ เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองเหมือนเดิม   

แดนกลาง : พร้อมให้ เอ็นโซ่ เฟร์นันเดซ ยืนเป็นแกนหลักในแผงมิดฟิลด์ และน่าจะให้ มาเตโอ โควาซิช ลงไปยืนคุมเกมด้วยกัน ทำให้ คอเนอร์ กัลลาเกอร์, คาร์นีย์ ชุควูเอเมก้า และ เดนิส ซากาเรีย เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองทั้งหมดเลย ขณะที่ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ หายเจ็บกลับมาฝึกซ้อมได้แล้ว แต่ยังอยู่ในช่วงฟื้นฟูสภาพร่างกายให้กลับมาฟิตสมบูรณ์อีกครั้ง ส่วนแบ็กซ้ายเตรียมเป็นหน้าที่ของ เบน ซิลเวลล์ ลงไปยืนประจำการเหมือนเดิม โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ รูเบน ลอฟตัส-ชีค ซึ่งน่าจะได้ขยับจากมิดฟิลด์มายืนตรงจุดนี้ไปก่อน เนื่องจาก รีซ เจมส์ ยังไม่หายจากโรคเดี้ยงนั่นเอง

แนวรุก : เตรียมได้เห็น ไค ฮาเวิร์ตซ ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้าในฐานะตัวเลือกอันดับแรกของตำแหน่งนี้อยู่แล้ว ส่วนปีกซ้ายน่าจะให้ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ลงไปยืนประจำการ โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ เจา เฟลิกซ์ ในตำแหน่งปีกขวา แม้จะได้ คริสเตียน พูลิซิช หายเจ็บกลับคืนสู่ทีมได้อีกครั้ง แต่น่าจะต้องนั่งเป็นตัวสำรองไปก่อน เช่นเดียวกับ มิโคไล มูดริก, ฮาคิม ซีเย็ค, ปิแอร์-เอเมริก โอบาเมยอง, ดาวิด ดาโตร โฟฟาน่า และ โนนี่ มาดูเอ็นเก้ เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองไปก่อน แต่หมดสิทธิ์ใช้งาน อาร์มันโด โบรย่า รวมถึง เมสัน เมาท์ ต้องพักรักษาโรคเดี้ยงต่อไป                   

สถิติการพบกันเอง

สำหรับคู่นี้เคยดวลแข้งกันในทุกรายการมาแล้วทั้งหมด 95 เกม ปรากฎว่า เชลซี มีสถิติเหนือกว่าเยอะเลย โดยเป็นฝ่ายชนะ 46 เกม เสมอ 28 เกม และแพ้ 21 เกม ส่วนผลการพบกันนัดล่าสุดในศึกพรีเมียร์ลีกเมื่อปี 2022 ปรากฎว่า “สิงโตน้ำเงินคราม” เปิดบ้านเฉือนชนะ 2-1 สำหรับผลการพบกันในสนามแห่งนี้นัดล่าสุดเกิดขึ้นในศึกพรีเมียร์ลีกเมื่อปี 2021 ปรากฎว่า เลสเตอร์ เป็นฝ่ายแพ้คาบ้าน 0-3

สถิติที่เคยพบกัน 5 เกมหลังสุด

เอฟเอ คัพ ปี 2021 : เชลซี แพ้ เลสเตอร์ 0-1

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ปี 2021 : เชลซี ชนะ เลสเตอร์ 2-1

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ปี 2021 : เลสเตอร์ แพ้ เชลซี 0-3

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ปี 2022 : เชลซี เสมอ เลสเตอร์ 1-1

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ปี 2022 : เชลซี ชนะ เลสเตอร์ 2-1

ความน่าจะเป็น

โชว์ฟอร์มไม่คงเส้นคงวาเอาเสียเลย ทำให้ เลสเตอร์ ยังคงต้องวนเวียนอยู่ในโซนท้ายตารางคะแนน และต้องเตรียมหนีการตกชั้นด้วยเช่นกัน ส่วน เชลซี ยังคงอยู่ในช่วงสร้างทีมกันต่อไป จึงทำผลงานได้แบบกระท่อนกระแท่นเหลือเกิน และมีปัญหาเรื่องแนวรุกที่ยิงประตูได้น้อยมากๆ คาดว่า “สิงโตน้ำเงินคราม” น่าจะบุกไปเก็บได้เพียงหนึ่งคะแนนจากผลเสมอนั่นเอง  

ผลที่คาด : เลสเตอร์ เสมอ เชลซี 1-1

บทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับพรีเมียร์ลีกอังกฤษ

บทความนี้นับสนุนโดย Siam99 เว็บคาสิโนออนไลน์ที่นึ่งในประเทศไทยสมัครตอนนี้รับตั๋ว5ใบทันที

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *