กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี
อินเตอร์ มิลาน VS อูดิเนเซ่
สนาม : สตาดิโอ จูเซปเป้ เมียซซ่า
เวลา : 02.45 น.
อินเตอร์ มิลาน
ผลงาน 5 เกมหลังสุดในกัลโช่ เซเรีย อา
กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี : ชนะ เวโรน่า 1-0 (เหย้า)
กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี : แพ้ เอ็มโปลี 0-1 (เหย้า)
กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี : ชนะ เครโมเนเซ่ 2-1 (เยือน)
กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี : ชนะ เอซี มิลาน 1-0 (เหย้า)
กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี : เสมอ ซามพ์โดเรีย 0-0 (เยือน)
คาดว่ากุนซือ ซิโมเน่ อินซากี้ จะปรับทัพบางตำแหน่งจากเกมล่าสุดที่บุกไปเสมอ ซามพ์โดเรีย 0-0 ในศึกกัลโช่ เซเรีย อา เพื่อลุ้นกลับมาคว้าชัยรั้งตำแหน่งรองจ่าฝูงต่อไป และไล่ตามทีมจ่าฝูงแบบห่างๆ เหมือนเดิม โดยตอนนี้ยังคงอยู่อันดับ 2 แข่ง 22 มี 44 คะแนน ตามหลัง นาโปลี ทีมอันดับ 1 ห่างถึง 15 แต้มเลยทีเดียว จึงพร้อมให้พวกแข้งหลักออกสตาร์ทเป็นตัวจริงแน่นอน เพราะยังอยู่กันครบทั้งหมดเลย
11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามเป็นตัวจริงตามแผนการเล่นแบบ 3-5-2
อังเดร โอนาน่า, มิลาน สคริเนียร์, ฟรานเชสโก้ อาแซร์บี้, อเลสซานโดร บาสโตนี่, เดนเซล ดัมฟรีส์, นิโกโล่ บาเรลล่า, ฮาคาน ชัลฮานโนกูล, เฮนริค มคิทาร์ยาน, โรบิน กูเซ่นส์, เลาตาโร มาร์ติเนซ, เอดิน เชโก้
ผู้รักษาประตู : เตรียมได้เห็น อังเดร โอน่าน่า ยืนเฝ้าเสาเป็นตัวจริงเหมือนเดิม เพราะถูกวางตัวให้สวมบทเป็นมือหนึ่งเหนือกว่า ซาเมียร์ ฮานดาโนวิช นายด่านจอมเก๋าที่ถูกวางตัวเป็นมือสองไปเสียแล้ว
แนวรับ : น่าจะให้ อเลสซานโดร บาสโตนี่ กลับมายืนเป็นกองหลังร่วมกับ มิลาน สคริเนียร์ และ ฟรานเชสโก้ อาแซร์บี้ ทำให้ สเตฟาน เดอ ไฟร์จ เตรียมหลุดไปนั่งเป็นตัวสำรอง เช่นเดียวกับ ราโอล เบลลาโนว่า, มัตเตีย ซาน็อตติ รวมถึง ดานิโอ ดามโบรซิโอ ซึ่งไม่น่าจะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงอยู่แล้ว
แดนกลาง : ไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงไปจาก 3 ประสาน นั่นก็คือ นิโกโล่ บาเรลล่า, ฮาคาน ชัลฮานโนกูล และ เฮนริค มคิทาร์ยาน เพราะว่าเป็น 3 ตัวหลักในแผงมิดฟิลด์อยู่แล้ว ส่วนแบ็กขวาพร้อมให้ เดนเซล ดัมฟรีส์ กลับสวมบทเป็นวิงแบ็กฝั่งขวา ทำให้ มัตเตโอ ดาร์เมี่ยน เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองไปก่อน โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ โรบิน กูเซ่นส์ ในตำแหน่งวิงแบ็กซ้าย เพราะน่าจะเบียด เฟเดริโก้ ดิมาร์โก้ ให้หลุดไปนั่งเป็นตัวสำรองได้นั่นเอง
แนวรุก : ส่อดร็อป โรเมลู ลูกากู ให้กลับไปยืนเป็นตัวสำรอง เพราะว่าตามหาฟอร์มเก่งยังไม่เจอเสียที จึงน่าจะให้ เอดิน เชโก้ ลงไปยืนเป็นกองหน้าเพื่อล่าตาข่ายคู่กับ เลาตาโร มาร์ติเนซ อีกครั้ง ส่วนในรายของ โจอาควิน คอร์เรอา ยังคงต้องพักรักษาอาการบาดเจ็บต่อไป
อูดิเนเซ่
ผลงาน 5 เกมหลังสุดในศึกกัลโช่ เซเรีย อา
กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี : แพ้ โบโลญญ่า 1-2 (เหย้า)
กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี : ชนะ ซามพ์โดเรีย 1-0 (เยือน)
กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี : เสมอ เวโรน่า 1-1 (เหย้า)
กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี : แพ้ โตริโน่ 0-1 (เยือน)
กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี : เสมอ ซาสซูโอโล่ 2-2 (เหย้า)
คาดว่ากุนซือ อันเดรีย ซอตติล จะปรับทัพจากเกมล่าสุดที่เปิดบ้านเสมอ ซาสซูโอโล่ 2-2 ในศึกกัลโช่ เซเรีย อา เพื่อลุ้นกลับมาคว้าชัยอีกครั้ง หลังไม่พบกับชัยชนะมาแล้วถึง 3 เกมติดต่อกัน โดยตอนนี้อยู่อันดับ 8 แข่ง 22 นัด มี 30 คะแนน จึงพร้อมให้พวกแข้งหลักออกสตาร์ทเป็นตัวจริงเกือบทั้งหมด เพราะไม่มีนักเตะได้รับบาดเจ็บเพิ่มเติม
11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามเป็นตัวจริงตามแผนการเล่นแบบ 3-4-1-1
มาร์โก ซิลเวสตรี้, ยาก้า บิยอล, โรดริโก้ เบเคา, เนฮูเอน เปเรซ, ลาซาร์ ซามาร์ดซิช, วาเลซ, ซานดี้ ลอฟริช, อิเยโนม่า เดสตินี่ อูโดกี้, คิงส์ลีย์ เอฮิบูเอ้, โรแบร์โต้ เปเรย์ร่า, เบโต้
ผู้รักษาประตู : พร้อมให้ มาร์โก ซิลเวสตรี้ สวมบทเป็นมือหนึ่งเพื่อยืนเฝ้าเสาเป็นตัวจริงต่อไป ส่วนในรายของมือสอง นั่นก็คือ ดานิเอเล่ ปาเลลี่ เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองตามเดิม
แนวรับ : ไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงไปจาก ยาก้า บิยอล, โรดริโก้ เบเคา และ เนฮูเอน เปเรซ เพราะว่าเป็น 3 ประสานในแดนหลังอยู่แล้ว ทำให้ เฟสตี้ เอโบเซล, อดัม มาซิน่า, เจมส์ อาแบงค์วาห์, เอ็นโซ อีบอสเซ่, เลโอนาร์โด้ บูต้า และ อักเซล กูเอสซานด์ เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองทั้งหมดเลย
แดนกลาง : เตรียมเป็นหน้าที่ของ ลาซาร์ ซามาร์ดซิช, วาเลซ และ ซานดี้ ลอฟริช ลงไปยืนคุมแผงมิดฟิลด์ร่วมกันเหมือนอย่างนัดก่อน ส่วนวิงแบ็กฝั่งซ้ายเตรียมเป็นหน้าที่ของ อิเยโนม่า เดสตินี่ อูโดกี้ โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ คิงส์ลีย์ เอฮิบูเอ้ ในตำแหน่งวิงแบ็กฝั่งขวานั่นเอง จึงเตรียมได้เห็น โตลกาย อาร์สลาน และ ฟลอริยง โธแว็ง นั่งเป็นตัวสำรองอยู่ที่ข้างสนามไปก่อน
แนวรุก : ส่อไร้ เกราร์ด เดโลเฟว เพราะว่าเพิ่งฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บ จึงน่าจะต้องนั่งเป็นตัวสำรองไปก่อน และไม่น่าจะให้ อิซัค ซัคเซสส์, อิลิย่า เนสโตรอฟสกี้, วิวัลโด้ เซเมโด้ รวมถึง ซิโมเน่ ปาฟุนดี้ ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง โดยพร้อมให้กัปตันทีม นั่นก็คือ โรแบร์โต้ เปเรย์ร่า ลงไปสวมบทเป็นตัวปั้นเกมในตำแหน่งเพลย์เมกเกอร์ เพื่อประสางานกับ เบโต้ กองหน้าตัวเป้านั่นเอง
สถิติการพบกันเอง
สำหรับคู่นี้เคยดวลแข้งกันในทุกรายการมาแล้วทั้งหมด 62 เกม ปรากฎว่า อินเตอร์ มิลาน มีสถิติเหนือกว่าอยู่พอสมควร โดยเป็นฝ่ายชนะ 33 เกม เสมอ 13 เกม และแพ้ 16 เกม ส่วนผลการพบกันนัดล่าสุดในศึกกัลโช่ เซเรีย อา เมื่อปี 2022 ปรากฎว่า “งูใหญ่” บุกไปแพ้ 1-3 สำหรับผลการพบกันในสนามแห่งนี้นัดล่าสุดเกิดขึ้นในศึกกัลโช่ เซเรีย อา เมื่อปี 2021 ปรากฎว่า อูดิเนเซ่ บุกไปแพ้ 0-2
สถิติที่เคยพบกัน 5 เกมหลังสุด
กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ปี 2021 : อูดิเนเซ่ เสมอ อินเตอร์ มิลาน 0-0
กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ปี 2021 : อินเตอร์ มิลาน ชนะ อูดิเนเซ่ 5-1
กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ปี 2021 : อินเตอร์ มิลาน ชนะ อูดิเนเซ่ 2-0
กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ปี 2022 : อูดิเนเซ่ แพ้ อินเตอร์ มิลาน 1-2
กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ปี 2022 : อูดิเนเซ่ ชนะ อินเตอร์ มิลาน 3-1
ความน่าจะเป็น
แม้จะไล่ตามหลังทีมจ่าฝูงอยู่หลายคะแนน แต่ อินเตอร์ มิลาน ยังคงพร้อมเดินหน้าเก็บชัยเพื่อไล่ตามต่อไปให้ถึงที่สุด และไม่มีนักเตะตัวหลักได้รับบาดเจ็บเลยด้วย จึงพร้อมจัดผู้เล่นชุดที่ดีที่สุดลงสนามอย่างแน่นอน ส่วน อูดิเนเซ่ ฟอร์มแผ่วลงไปเยอะเลย หากเทียบกับเมื่อตอนที่เคยทำผลงานได้อย่างโดดเด่นในช่วงออกสตาร์ทฤดูกาลนี้ และทำผลงานนอกบ้านได้ไม่ค่อยดีด้วย คาดว่า อินเตอร์ มิลาน น่าจะเป็นฝ่ายเก็บ 3 คะแนนเต็มได้แบบไม่ยากเย็นนัก เพราะว่าได้ลงเล่นในถิ่นของตัวเองอยู่แล้ว จึงน่าจะอาศัยตรงจุดนี้เพื่อคว้าชัยเอาไว้ได้สำเร็จ
ผลที่คาด : อินเตอร์ มิลาน ชนะ อูดิเนเซ่ 2-0
บทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับเซเรียอา
บทความนี้นับสนุนโดย Siam99 เว็บคาสิโนออนไลน์ที่นึ่งในประเทศไทยสมัครตอนนี้รับตั๋ว5ใบทันที