กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี
นาโปลี VS เอซี มิลาน
สนาม : สตาดิโอ ดิเอโก้ มาราโดน่า
เวลา : 01.45 น.
นาโปลี
ผลงาน 5 เกมหลังสุดในศึกกัลโช่ เซเรีย อา
กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี : ชนะ ซาสซูโอโล่ 2-0 (เยือน)
กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี : ชนะ เอ็มโปลี 2-0 (เยือน)
กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี : แพ้ ลาซิโอ 0-1 (เหย้า)
กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี : ชนะ อตาลันต้า 2-0 (เหย้า)
กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี : ชนะ โตริโน่ 4-0 (เยือน)
คาดว่ากุนซือ ลูชาโน่ สปัลเลตติ จะปรับทัพบางตำแหน่ง เพื่อลุ้นเก็บชัยรั้งตำแหน่งจ่าฝูงต่อไปแบบยาวๆ ไปเลย เพราะตอนนี้นำโด่งจากการยึดอันดับ 1 แข่ง 27 นัด มี 71 คะแนน จึงพร้อมให้พวกแข้งหลักออกสตาร์ทเป็นตัวจริงทั้งหมดเลย เพราะว่าแทบจะไม่มีนักเตะได้รับบาดเจ็บเลยนั่นเอง
11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามเป็นตัวจริงตามแผนการเล่นแบบ 4-2-3-1
อเล็กซ์ เมเร็ตส์, อาเมียร์ ราห์มานี่, คิม มิน แจ, มาธีอัส โอลิเวร่า, โจวานนี่ ดิ ลอเรนโซ่, อองเดร-แฟรงค์ แซมโบ อองกีสซ่า, สตานิสลาฟ โลบ็อตก้า, ปีโอเตอร์ ซีลินส์กี้, ควิช่า ควารัตส์เคเลีย, เออร์วิ่ง โลซาโน่, วิคเตอร์ โอซิมเฮ่น
ผู้รักษาประตู : ไม่เปลี่ยนแปลงไปจาก อเล็กซ์ เมเร็ตส์ ซึ่งได้รับความไว้วางใจให้สวมบทเป็นมือหนึ่งอยู่แล้ว จึงพร้อมอยู่เฝ้าเสาเป็นตัวจริงต่อไป ส่วนในรายของ ซัลวาตอเร่ ซิริกู เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองในฐานะมือสองเหมือนเดิม
แนวรับ : เตรียมได้เห็น คิม มิน แจ ยืนเป็นกองหลังคู่กับ อาเมียร์ ราห์มานี่ ส่วนแบ็กซ้ายยังคงเป็นหน้าที่ของ โจวานนี่ ดิ ลอเรนโซ่ ในฐานะตัวเลือกแรกอยู่แล้ว โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ มาธีอัส โอลิเวร่า ในตำแหน่งแบ็กขวา ทำให้ เลโอ ออสติการ์ด รวมถึง ฆวน เชซุส เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองในตำแหน่งกองหลังไปก่อน เช่นเดียวกับ บาร์ตอสซ์ เบเรซินส์กี้ และ มาริโอ รุย ซึ่งเป็นตัวสแตนบายในตำแหน่งของแบ็กทั้งสองต่อไป
แดนกลาง : ไม่มี ดิเอโก้ เดมเม่ ได้รับบาดเจ็บ จึงต้องพักรักษาตัวไปก่อน แต่พร้อมให้ 3 ประสาน นั่นก็คือ ปีโอเตอร์ ซีลินส์กี้, อองเดร-แฟรงค์ แซมโบ อองกีสซ่า รวมถึง สตานิสลาฟ โลบ็อตก้า ลงไปยืนคุมเกมเหมือนเดิม เพราะเป็นแกนหลักในแผงมิดฟิลด์อยู่แล้ว ส่วนในรายของ คาริม เซแดดก้า, จานลูก้า เกตาโน่ รวมถึง ตองกีย์ เอ็มดอมเบเล่ เตรียมนั่งอยู่ที่ข้างสนามเหมือนอย่างนัดที่แล้ว
แนวรุก : ยังคงไร้ มัตเตโอ โปลิตาโน่ เจอโรคเดี้ยงเล่นงาน จึงพร้อมให้ เฮอร์วิ่ง โลซาโน่ ลงไปสวมบทเป็นตัวริมเส้นฝั่งขวา โดยจะยืนอยู่คนละฝั่งกับ ควิช่า ควารัตส์เคเลีย ในตำแหน่งตัวริมเส้นฝั่งซ้าย ส่วนกองหน้าไม่เปลี่ยนแปลงไปจาก วิคเตอร์ โอซิมเฮ่น ซึ่งยังคงรั้งตำแหน่งดาวซัลโวสูงสุดของศึกกัลโช่ เซเรีย อา ด้วยจำนวน 21 ประตู ขณะที่ อเลสซิโอ ซาร์บิน, มัตเตโอ โปลิตาโน่ รวมถึง โจวานนี่ ซิเมโอเน่ ยังคงต้องรอโอกาสลงสนามเป็นตัวจริงไปก่อน
เอซี มิลาน
ผลงาน 5 เกมหลังสุดในศึกกัลโช่ เซเรีย อา
กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี : ชนะ มอนซ่า 1-0 (เยือน)
กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี : ชนะ อตาลันต้า 2-0 (เหย้า)
กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี : แพ้ ฟิออเรนติน่า 1-2 (เยือน)
กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี : เสมอ ซาแลร์นิตาน่า 1-1 (เหย้า)
กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี : แพ้ อูดิเนเซ่ 1-3 (เยือน)
คาดว่ากุนซือ สเตฟาโน่ ปิโอลี่ จะปรับทัพบางตำแหน่ง เพื่อลุ้นกลับมาคว้าชัยแล้วเบียดแย่งอันดับบนหัวตารางคะแนนต่อไป โดยตอนนี้อยู่อันดับ 4 แข่ง 27 นัด มี 48 คะแนน แม้จะมีนักเตะได้รับบาดเจ็บอยู่บ้าง แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อการจัดทีมลงสนาม เพราะว่าได้พวกแข้งหลักหายเจ็บกลับมาช่วยทีมได้หลายคนเลย
11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามเป็นตัวจริงตามแผนการเล่นแบบ 3-4-2-1
ไมค์ เมญอง, ฟิกาโย่ โทโมริ, มาลิค เธียว, ปิแอร์ คาลูลู, ซานโดร โตนาลี่, อิสมาเอล เบนนาเซอร์, โฟเด้ ตูเร่, อเล็กซิส ซาเลมาเกอร์ส, ราฟาเอล เลเอา, บราฮิม ดิอาซ, โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์
ผู้รักษาประตู : พร้อมให้ ไมค์ เมญอง ยืนเฝ้าเสาเป็นตัวสำรองอยู่แล้ว หลังหายเจ็บกลับมายึดตำแหน่งมือหนึ่งได้ตามเดิม ส่วน ซีเปรียน ทาทารูซานู พร้อมนั่งสแตนบายในฐานะตัวสำรองต่อไป
แนวรับ : เตรียมปรับแผนมาเล่นกองหลัง 3 คนเหมือนอย่างนัดที่แล้ว และน่าจะให้ มาลิค เธียว ลงไปยืนร่วมกับ ฟิกาโย่ โทโมริ และ ปิแอร์ คาลูลู ซึ่งเป็น 2 ตัวหลักในแนวรับไปเสียแล้ว ส่วนในรายของ อเลสซานโดร ฟลอเรนซี่ และ ดาวิเด้ คาลาเบรีย, มัตเตโอ กับเบีย, เซร์จินโญ่ เดสต์, ซิมง เคียร์ รวมถึง อัสเตอร์ ฟรังซ์ เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองไปก่อน
แดนกลาง : ไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงไปจาก ซานโดร โตนาลี่ กับ อิสมาเอล เบนนาเซอร์ พร้อมลงไปยืนคุมเกมร่วมกัน ทำให้ ราเด้ ครูนิช, ยาซีน อาดิล, ตีมูเอ้ บากาโยโก้ และ ทอมมาโซ่ โปเบก้า เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองเหมือนเดิม ส่วนวิงแบ็กฝั่งซ้ายเป็นหน้าที่ของ โฟเด้ ตูเร่ เนื่องจาก เตโอ แอร์กน็องเดซ ยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บ โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ อเล็กซิส ซาเลมาเกอร์ส ในตำแหน่งวิงแบ็กฝั่งขวา เพราะว่า จูเนียร์ เมสซิอัส ยังต้องพักรักษาโรคเดี้ยงตามเดิม
แนวรุก : ได้ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ พ้นโทษแบนพร้อมกลับมาสวมบทเป็นกองหน้าตัวเป้าอีกครั้ง ทำให้ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช เตรียมหลุดกลับไปนั่งเป็นตัวสำรองตามเดิม และพร้อมให้ ราฟาเอล เลเอา กับ บราฮิม ดิอาซ ลงไปสวมบทเป็นเพลย์เมกเกอร์ในฐานะตัวปั้นเกมร่วมกัน ส่วนในรายของ ชาร์ลส เดอ เคตลาร์, ดิว็อค โอริกี้ รวมถึง อันเต้ เรบิช ไม่น่าจะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงอยู่แล้ว
สถิติการพบกันเอง
สำหรับคู่นี้เคยดวลแข้งกันในทุกรายการมาแล้วทั้งหมด 46 เกม ปรากฎว่า นาโปลี มีสถิติเหนือว่าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยเป็นฝ่ายชนะ 15 เกม เสมอ 17 เกม และแพ้ 14 เกม ส่วนผลการพบกันนัดล่าสุดในศึกกัลโช่ เซเรีย อา ปี 2022 ปรากฎว่า เอซี มิลาน บุกไปแพ้ 1-2 สำหรับผลการพบกันในสนามแห่งนี้นัดล่าสุดเกิดขึ้นในศึกกัลโช่ เซเรีย อา ปี 2022 ปรากฎว่า “ปีศาจแดงดำ” บุกไปพ่าย 1-2
สถิติที่เคยพบกัน 5 เกมหลังสุด
กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ปี 2020 : นาโปลี แพ้ เอซี มิลาน 1-3
กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ปี 2021 : เอซี มิลาน แพ้ นาโปลี 0-1
กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ปี 2021 : เอซี มิลาน แพ้ นาโปลี 0-1
กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ปี 2022 : นาโปลี แพ้ เอซี มิลาน 0-1
กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ปี 2022 : เอซี มิลาน แพ้ นาโปลี 1-2
ความน่าจะเป็น
เดินหน้าเข้าใกล้สู่ตำแหน่งแชมป์ฤดูกาลนี้เข้าไปเรื่อยๆ สำกรับ นาโปลี เพราะยังคงนำโด่งเป็นจ่าฝูง และทิ้งห่างทีมคู่แข่งที่ไล่ตามหลังมาแบบไม่เห็นฝุ่นเลยด้วย และสามารถใช้งานพวกแข้งหลักได้เกือบทั้งหมด ส่วน เอซี มิลาน มีปัญหาเรื่องฟอร์มการเล่นที่ไม่คงเส้นคงวา และมีผู้เล่นตัวหลักผลัดกันเจอโรคเดี้ยงตลอดเลยด้วย คาดว่า นาโปลี น่าจะเป็นฝ่ายเก็บชัยในถิ่นของตัวเองได้แบบไม่ยากเย็นนัก
ผลที่คาด : นาโปลี ชนะ เอซี มิลาน 2-0