“งูใหญ่” อินเตอร์ มิลาน พร้อมให้ โรเมลู ลูกากู ยืนเป็นกองหน้าคู่กับ เลาตาโร่ มาร์ติเนซ นัดเยือน “กระทิงหิน” ในศึกฟุตบอลกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี นัดส่งท้ายฤดูกาล 2022/2023 คืนวันที่ 3 มิ.ย.นี้ เพื่อหวังเก็บชัยลุ้นจบด้วยตำแหน่งรองแชมป์นั่นเอง
กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี
โตริโน่ VS อินเตอร์ มิลาน
สนาม : สตาดิโอ โอลิมปิโก้ แกรนด์ โตริโน่
เวลา : 23.30 น.
โตริโน่
ผลงาน 5 เกมหลังสุดในศึกกัลโช่ เซเรีย อา
กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี : ชนะ ซามพ์โดเรีย 2-0 (เยือน)
กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี : เสมอ มอนซ่า 1-1 (เหย้า)
กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี : ชนะ เวโรน่า 1-0 (เยือน)
กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี : เสมอ ฟิออเรนติน่า 1-1 (เหย้า)
กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี : ชนะ สเปเซีย 4-0 (เยือน)
คาดว่ากุนซือ อีวาน ยูริช จะปรับทัพบางตำแหน่ง เพื่อเก็บชัยส่งท้ายฤดูกาลนี้ในถิ่นของตัวเองไปเลย โดยตอนนี้อยู่อันดับ 8 แข่ง 37 นัด มี 53 คะแนน และไม่พบกับความพ่ายแพ้มาแล้วถึง 5 เกมติดต่อกันเลยด้วย จึงพร้อมให้พวกแข้งหลักออกสตาร์ทเป็นตัวจริงทั้งหมด เพราะว่าแทบจะไม่มีผู้เล่นได้รับบาดเจ็บนั่นเอง
11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามเป็นตัวจริงตามแผนการเล่นแบบ 3-4-2-1
วานย่า มิลินโควิช-ซาวิช, แพร์ ชูร์ส, อเลสซานโดร บูออนจิออร์โน่, ริคาร์โด้ โรดริเกซ, ซามูเอลเล่ ริชชี่, อีวาน อิลิช, วิลฟรีด ซินโก้, เมอร์กิม โวจ์โวด้า, นิโกล่า วลาซิช, อเล็กไซ มิรานชุค, อันโตนิโอ ซานาเบรีย
ผู้รักษาประตู : พร้อมให้ วานย่า มิลินโควิช-ซาวิช สวมบทเป็นมือหนึ่งเพื่อยืนเฝ้าเสาเป็นตัวจริงต่อไป ส่วนในรายของ ลูก้า เกเมลโล่ ยังคงเป็นมือสองในฐานะตัวสำรองอยู่ที่ข้างสนามเหมือนเดิม
แนวรับ : เตรียมได้เห็น 3 ประสาน นั่นก็คือ แพร์ ชูร์ส, อเลสซานโดร บูออนจิออร์โน่ และ ริคาร์โด้ โรดริเกซ ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงทั้งหมดเลย เพราะว่าเป็นแกนหลักในแดนหลังอยู่แล้ว ทำให้ คอฟฟี่ ฌิฌี่, เอ็มริฮาน อิลคาน และ แมทธิว การ์เบตต์ เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองทั้งหมดเลย
แดนกลาง : ขาดเพียงแค่ วาเลนติโน่ ลาซาโร่ ได้รับบาดเจ็บ แต่พร้อมให้ ซามูเอลเล่ ริชชี่ กับ อีวาน อิลิช ยืนเป็นตัวคุมเกมร่วมกันเหมือนเดิม ส่วนวิงแบ็กฝั่งซ้ายพร้อมให้ วิลฟรีด ซินโก้ ลงไปยืนประจำการ โดยจะยืนอยูฝั่งตรงข้ามของ เมอร์กิม โวจ์โวด้า ซึ่งพร้อมทำหน้าที่เป็นวิงแบ็กฝั่งขวาอยู่แล้ว ทำให้ โอล่า ไอน่า, ซามูเอลเล่ ริชชี่, เอ็นดารี่ อาโดโป, ไบรอัน บาเยเย่, คาโรล ลิเน็ตตี้ รวมถึง เดมบา เซ็ค ไม่น่าจะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงอยู่แล้ว
แนวรุก : ไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงไปจาก อันโตนิโอ ซานาเบรีย ซึ่งพร้อมสวมบทเป็นกองหน้าตัวเป้าตามเดิม และพร้อมให้ นิโกล่า วลาซิช กับ อเล็กไซ มิรานชุค ลงไปสวมบทเป็นตัวปั้นเกมอยู่ด้านหลังด้วยเช่นกัน ส่วนในรายของ ยานน์ คาราโมห์, ซิโมเน่ เอเดร่า, ปิเอโตร เปเยกรี่ รวมถึง เนมันย่า ราดอนยิช เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองเพื่อรอโอกาสลงสนามกันต่อไป
อินเตอร์ มิลาน
ผลงาน 5 เกมหลังสุดในศึกกัลโช่ เซเรีย อา
กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี : ชนะ เวโรน่า 6-0 (เยือน)
กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี : ชนะ โรม่า 2-0 (เยือน)
กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี : ชนะ ซาสซูโอโล่ 4-2 (เหย้า)
กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี : แพ้ นาโปลี 1-3 (เยือน)
กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี : ชนะ อตาลันต้า 3-2 (เหย้า)
คาดว่ากุนซือ ซิโมเน่ อินซากี้ จะปรับทัพบางตำแหน่ง เพื่อลุ้นคว้าชัยไล่แย่งตำแหน่งรองแชมป์ หรืออย่างน้อยที่สุดเพื่อจบอันดับปัจจุบันไปเลย หลังจากที่ได้การันตีการเกาะกลุ่ม “ท็อปโฟร์” ใน 4 อันดับแรกเรียบร้อยแล้ว โดยตอนนี้อยู่อันดับ 3 แข่ง 37 นัด มี 69 คะแนน ตามหลัง ลาซิโอ ทีมอันดับ 2 เพียง 2 คะแนน และนำหน้า เอซี มิลาน ทีมอันดับ 4 เพียงแค่ 2 แต้มด้วยเช่นกัน จึงพร้อมให้พวกแข้งหลักลงสนามหลายคนเลย เพราะว่าแทบจะไม่มีนักเตะได้รับบาดเจ็บ แม้จะมีเกมนัดสำคัญในนัดชิงยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รออยู่ตอนช่วงสุดสัปดาห์หน้าก็ตาม
11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามเป็นตัวจริงตามแผนการเล่นแบบ 3-5-2
อังเดร โอนาน่า, ฟรานเชสโก้ อาแซร์บี้, อเลสซานโดร บาสโตนี่, ดานิโล่ ดามโบรซิโอ, เฟเดริโก้ ดิมาร์โก้, เดนเซล ดัมฟรีส์, มาร์เซโล่ โบรโซวิช, นิโกโล่ บาเรลล่า, ฮาคาน ชัลฮานโนกูล, เลาตาโร่ มาร์ติเนซ, โรเมลู ลูกากู
ผู้รักษาประตู : ไม่เปลี่ยนแปลงไปจาก อังเดร โอน่าน่า พร้อมสวมบทเป็นมือหนึ่งเพื่อยืนเฝ้าเสาเป็นตัวจริงอยู่แล้ว ส่วนในรายของมือสอง นั่นก็คือ ซาเมียร์ ฮานดาโนวิช เตรียมนั่งอยู่ที่ข้างสนามเหมือนเช่นเคย
แนวรับ : มีลุ้นได้ มิลาน สคริเนียร์ เพิ่งหายเจ็บ และกลับมาฝึกซ้อมได้แล้วด้วย แต่ไม่น่าจะมีสภาพร่างกายที่ฟิตสมบูรณ์เพื่อลงสนามเป็นตัวจริง จึงพร้อมให้ ดานิโล่ ดามโบรซิโอ ลงไปยืนเป็นกองหลังร่วมกับ ฟรานเชสโก้ อาแซร์บี้ และ อเลสซานโดร บาสโตนี่ ทำให้ มัตเตโอ ดาร์เมียน, สเตฟาน เดอ ไฟร์จ, ราโอล เบลลาโนว่า และ มัตเตีย ซาน็อตติ เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองทั้งหมดเลย
แดนกลาง : เตรียมได้เห็น 3 ประสาน นั่นก็คือ มาร์เซโล่ โบรโซวิช, นิโกโล่ บาเรลล่า และ ฮาคาน ชัลฮานโนกูล ลงไปยืนคุมเกมร่วมกันเหมือนเดิม เพราะกลายเป็นแกนหลักในแผงมิดฟิลด์ไปแล้ว ทำให้ เฮนริค มคิทาร์ยาน เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองเหมือนเดิม เช่นเดียวกับ โรแบร์โต้ กวายาร์ดินี่ วึ่งพ้นโทษแบนพร้อมกลับมาช่วยทีมได้ตามปกติ ส่วนวิงแบ็กฝั่งซ้ายพร้อมให้ เฟเดริโก้ ดิมาร์โก้ ลงไปยืนประจำการ โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ เดนเซล ดัมฟรีส์ ในตำแหน่งวิงแบ็กฝั่งขวา ทำให้ โรบิน กูเซ่นส์, คริสติยัน อัสยานี่ รวมถึง วาเลนติน คาร์โบนี่ ไม่น่าจะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงอยู่แล้ว
แนวรุก : ขาดเพียงแค่ โจอาควิน คอร์เรอา ได้รับบาดเจ็บ แต่พร้อมให้ เลาตาโร มาร์ติเนซ เป็นตัวหลักในแดนหน้าเพื่อจับคู่ล่าตาข่ายร่วมกับ โรเมลู ลูกากู ส่วนในรายของ เอดิน เชโก้ น่าจะต้องนั่งเป็นตัวสำรองไปก่อน
สถิติการพบกันเอง
สำหรับคู่นี้เคยดวลแข้งกันในทุกรายการมาแล้วทั้งหมด 41 เกม ปรากฎว่า อินเตอร์ มิลาน มีสถิติเหนือกว่าเยอะเลย โดยเป็นฝ่ายชนะ 25 เกม เสมอ 11 เกม และแพ้ 5 เกม ส่วนผลการพบกันนัดล่าสุดในศึกกัลโช่ เซเรีย อา เมื่อปี 2022 ปรากฎว่า “งูใหญ่” เปิดบ้านเฉือนชนะ 1-0 สำหรับผลการพบกันในสนามแห่งนี้นัดล่าสุดเกิดขึ้นในศึกกัลโช่ เซเรีย อา เมื่อปี 2022 ปรากฎว่า โตริโน่ เปิดบ้านสมอ 1-1
สถิติที่เคยพบกัน 5 เกมหลังสุด
กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ปี 2020 : อินเตอร์ มิลาน ชนะ โตริโน่ 4-2
กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ปี 2021 : โตริโน่ แพ้ อินเตอร์ มิลาน 1-2
กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ปี 2021 : อินเตอร์ มิลาน ชนะ โตริโน่ 1-0
กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ปี 2022 : โตริโน่ เสมอ อินเตอร์ มิลาน 1-1
กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ปี 2022 : อินเตอร์ มิลาน ชนะ โตริโน่ 1-0
ความน่าจะเป็น
เพราะว่ามีเกมนัดสำคัญในศึกชิงเจ้าสโมสรยุโรปรออยู่ในช่วงสัปดาห์หน้า แต่ว่ายังมีโอกาสลุ้นจบด้วยตำแหน่งรองแชมป์ได้อยู่เหมือนกัน ทำให้ อินเตอร์ มิลาน น่าจะยังคงเน้นด้วยการให้พวกแข้งหลักลงสนามหลายคนเลย ส่วน โตริโน่ โชว์ฟอร์มในช่วงหลังๆ ได้ดีแบบต่อเนื่อง และได้ลงเล่นในถิ่นของตัวเองอีกต่างหาก คาดว่า “งูใหญ่” น่าจะมีดโอกาสบุกไปเฉือนชนะได้มากกว่า
ผลที่คาด : โตริโน่ แพ้ อินเตอร์ มิลาน 1-2
บทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับเซเรียอา
บทความนี้นับสนุนโดย Siam99 เว็บคาสิโนออนไลน์ที่นึ่งในประเทศไทยสมัครตอนนี้รับตั๋ว5ใบทันที