กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี
นาโปลี VS โรม่า
สนาม : สตาดิโอ ดิเอโก้ อาร์มันโด้ มาราโดน่า
เวลา : 02.45 น.
นาโปลี
ผลงาน 5 เกมหลังสุดในศึกกัลโช่ เซเรีย อา
กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี : ชนะ อูดิเนเซ่ 3-2 (เหย้า)
กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี : แพ้ อินเตอร์ มิลาน 0-1 (เหย้า)
กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี : ชนะ ซามพ์โดเรีย 2-0 (เยือน)
กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี : ชนะ ยูเวนตุส 5-1 (เหย้า)
กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี : ชนะ ซาแลร์นิตาน่า 2-0 (เยือน)
คาดว่ากุนซือ ลูชาโน่ สปัลเลตติ จะปรับทัพจากเกมล่าสุดที่บุกไปชนะ ซาแลร์นิตาน่า 2-0 ในศึกกัลโช่ เซเรีย อา เพื่อลุ้นเก็บชัยรั้งตำแหน่งจ่าฝูงต่อไปแบบยาวๆ เพราะตอนนี้ยังคงรั้งอันดับ 1 แข่ง 19 นัด มี 50 คะแนน จึงพร้อมให้พวกแข้งหลักออกสตาร์ทเป็นตัวจริงทั้งหมดเลย
11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามเป็นตัวจริงตามแผนการเล่นแบบ 4-2-3-1
อเล็กซ์ เมเร็ตส์, อาเมียร์ ราห์มานี่, คิม มิน แจ, มาริโอ รุย, โจวานนี่ ดิ ลอเรนโซ่, อองเดร-แฟรงค์ แซมโบ อองกีสซ่า, สตานิสลาฟ โลบ็อตก้า, ปีโอเตอร์ ซีลินส์กี้, ควิช่า ควารัตส์เคเลีย, มัตเตโอ โปลิตาโน่, วิคเตอร์ โอซิมเฮ่น
ผู้รักษาประตู : ยังคงเป็นหน้าที่ของ อเล็กซ์ เมเร็ตส์ ยืนเฝ้าเสาเป็นมือหนึ่งเหมือนเดิม ส่วนในรายของ ซัลวาตอเร่ ซิริกู เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองในฐานะมือสองเหมือนอย่างนัดที่แล้ว
แนวรับ : เตรียมได้เห็น คิม มิน แจ ยืนเป็นกองหลังคู่กับ อาเมียร์ ราห์มานี่ ส่วนแบ็กซ้ายยังคงเป็นหน้าที่ของ โจวานนี่ ดิ ลอเรนโซ่ ในฐานะตัวเลือกแรกอยู่แล้ว โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ มาริโอ รุย ในตำแหน่งแบ็กขวา ทำให้ ฆวน เชซุส รวมถึง เลโอ ออสติการ์ด เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองในตำแหน่งกองหลังไปก่อน เช่นเดียวกับ บาร์ตอสซ์ เบเรซินส์กี้ และ มาธีอัส โอลิเวียร่า ซึ่งเป็นตัวสแตนบายในตำแหน่งของแบ็กทั้งสองฝั่งเหมือนเช่นเคย
แดนกลาง : พร้อมให้ ปีโอเตอร์ ซีลินส์กี้ ลงไปเป็นตัวขับเคลื่อนเกมในแดนกลาง เพื่อคุมเกมร่วมกับ อองเดร-แฟรงค์ แซมโบ อองกีสซ่า รวมถึง สตานิสลาฟ โลบ็อตก้า ส่วนในรายของ ตองกีย์ เอ็มดอมเบเล่, ดิเอโก้ เดมเม่, คาริม เซแดดก้า รวมถึง จานลูก้า เกตาโน่ เตรียมนั่งอยู่ที่ข้างสนามเพื่อลงโอกาสลงสนามกันต่อไป
แนวรุก : น่าจะได้ ควิช่า ควารัตส์เคเลีย หายป่วยกลับมาสวมบทเป็นปีกซ้าย ทำให้ เอลจีฟ เอลมาส เตรียมกลับไปนั่งเป็นตัวสำรองตามเดิม โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ มัตเตโอ โปลิตาโน่ ในตำแหน่งปีกขวา ส่วนกองหน้าไม่เปลี่ยนแปลงไปจาก วิคเตอร์ โอซิมเฮ่น ซึ่งยังคงรั้งตำแหน่งดาวซัลโวด้วยจำนวน 13 ประตู ขณะที่ เฮอร์วิ่ง โลซาโน่, โจวานนี่ ซิเมโอเน่, มัตเตโอ โปลิตาโน่ รวมถึง อเลสซิโอ ซาร์บิน ยังคงต้องรอโอกาสลงสนามเป็นตัวจริงตามเดิม
โรม่า
ผลงาน 5 เกมหลังสุดในศึกกัลโช่ เซเรีย อา
กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี : เสมอ โตริโน่ 1-1 (เหย้า)
กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี : ชนะ โบโลญญ่า 1-0 (เหย้า)
กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี : เสมอ เอซี มิลาน 2-2 (เยือน)
กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี : ชนะ ฟิออเรนติน่า 2-0 (เหย้า)
กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี : ชนะ สเปเซีย 2-0 (เยือน)
คาดว่ากุนซือ โจเซ่ มูรินโญ่ จะปรับทัพจากเกมล่าสุดที่เปิดบ้านบุกไปชนะ สเปเซีย 2-0 ในศึกกัลโช่ เซเรีย อา เพื่อลุ้นเก็บชัยชิงพื้นที่ในกลุ่ม “ท็อปโฟร์” ใน 4 อันดับแรก เพราะในช่วงก่อนลงเตะสุกสัปดาห์นี้ยังคงอยู่อันดับ 4 แข่ง 19 นัด มี 37 คะแนน และไม่พบกับความพ่ายแพ้มาแล้วถึง 6 เกมเลยด้วย แม้จะมีนักเตะได้รับบาดเจ็บอยู่บ้าง แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อการจัดทีมชุดใหญ่ลงสนามเลย
11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามเป็นตัวจริงตามแผนการเล่นแบบ 3-4-2-1
รุย ปาทริซิโอ, คริส สมอลลิ่ง, จานลูก้า มันชินี่, โรเจอร์ อิบาเนซ, ไบรอัน คริสตันเต้, เนมันย่า มาติช, นิโกล่า ซาเลฟสกี้, เซกิ เซลิค, สเตฟาน เอล ชาราวี่, เปาโล ดีบาล่า, แทมมี่ อับราฮัม
ผู้รักษาประตู : เตรียมได้เห็น รุย ปาทริซิโอ พร้อมยืนเฝ้าเสาเป็นตัวจริง เพราะได้รับความไว้วางใจให้สวมบทเป็นมือหนึ่งอยู่แล้ว ส่วนในรายของ ไมล์ สวิลาร์ เตรียมนั่งสแตนบายเป็นตัวสำรองอยู่ที่ข้างสนามเหมือนเช่นเคย
แนวรับ : พร้อมให้ คริส สมอลลิ่ง, จานลูก้า มันชินี่ และ โรเจอร์ อิบาเนซ ยืนคุมแดนหลังร่วมกันเหมือนเช่นเคย เพราะเป็น 3 ตัวหลักในแดนหลังเลย ทำให้ มาติอัส วิน่า รวมถึง มาราสช์ คุมบูลล่า เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองเหมือนอย่างนัดที่แล้ว
แดนกลาง : น่าจะให้ เนมันย่า มาติช ลงไปยืนคุมเกมคู่กับ ไบรอัน คริสตันเต้ เพราะน่าจะดร็อป ลอเรนโซ่ เปเยกรินี่ เป็นตัวสำรอง เช่นเดียวกับ คริสเตีย โวลปาโต้ และ มาดี้ กามาร่า ส่วนแบ็กซ้ายเตรียมเป็นหน้าที่ของ นิโกล่า ซาเลฟสกี้ ซึ่งพร้อมเป็นตัวเลือกแรกเหนือกว่า เลโอนาร์โด้ สปินาซโซล่า โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ เซกิ เซลิค ในตำแหน่งแบ็กขวา ขณะที่ ริค คาร์สดอร์ป เตรียมนั่งอยู่ที่ข้างสนามแบบยาวๆ เพราะมีปัญหาขัดแย้งกับกุนซือนั่นเอง ด้าน จอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม ยังคงอยู่ในช่วงฟื้นฟูสภาพร่างกายตอนหลังหายจากอาการบาดเจ็บนั่นเอง
แนวรุก : ส่อใช้ 3 ประสาน โดยน่าจะให้ เปาโล ดีบาล่า กับ สเตฟาน เอล ชาราวี่ สวมบทเป้นตัวปั้นเกมอยู่ด้านหลังของ แทมมี่ อับราฮัม พร้อมสวมบทเป็นกองหน้าตัวเป้าเหมือนเช่นเคย ส่วนในรายของ นิโกโล่ ซานิโอโล่ เตรียมนั่งเป็นตัวสำรอง แต่หมดสิทธิ์ใช้งาน อันเดรีย เบล็อตติ เตรียมพักรักษาโรคเดี้ยงต่อไป
สถิติการพบกันเอง
สำหรับคู่นี้เคยดวลแข้งกันในทุกรายการมาแล้วทั้งหมด 49 เกม ปรากฎว่า นาโปลี มีสถิติเป็นรองไม่มากนัก โดยเป็นฝ่ายชนะ 16 เกม เสมอ 13 เกม และแพ้ 20 เกม ส่วนผลการพบกันนัดล่าสุดในศึกกัลโช่ เซเรีย อา เมื่อปี 2022 ปรากฎว่า นาโปลี บุกไปชนะ 1-0 สำหรับผลการพบกันในสนามแห่งนี้นัดล่าสุดเกิดขึ้นในศึกกัลโช่ เซเรีย อา เมื่อปี 2022 ปรากฎว่า โรม่า บุกไปเสมอ 1-1
สถิติที่เคยพบกัน 5 เกมหลังสุด
กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ปี 2020 : นาโปลี ชนะ โรม่า 4-0
กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ปี 2021 : โรม่า แพ้ นาโปลี 0-2
กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ปี 2021 : โรม่า เสมอ นาโปลี 0-0
กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ปี 2022 : นาโปลี เสมอ โรม่า 1-1
กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ปี 2022 : โรม่า แพ้ นาโปลี 0-1
ความน่าจะเป็น
อยู่ในจุดที่ดีมากๆ เลย สำหรับ นาโปลี ทีมจ่าฝูง เพราะยังคงมีคะแนนนำโด่ง และใช้งานพงกแข้งหลักได้ทั้งหมด ส่วน โรม่า ทำผลงานในช่วงหลังๆ ได้ดีมาก โดยเฉพาะแนวรุกสามารถเล่นกันด้วยความมั่นใจมากกว่าเดิม แต่เจ้าบ้านยังคงมีเกมรับที่แข็งแกร่ง เพราะมีสถิติเสียประตูน้อยที่สุดเพียง 14 ลูกเท่านั้น และมีเกมรุกที่เฉียบคมที่สุดจากการยิงไปแล้ว 46 ลูก คาดว่า นาโปลี น่าจะเป็นฝ่ายคุมสถานการณ์ได้ดีกว่า และได้ลงเล่นในถิ่นของตัวเองด้วย จึงน่าจะเป็นฝ่ายเก็บชัยได้สำเร็จ
ผลที่คาด : นาโปลี ชนะ โรม่า 2-0
บทความนี้นับสนุนโดย Siam99 เว็บคาสิโนออนไลน์ที่นึ่งในประเทศไทย