วิเคราะห์ฟุตบอล กัลโช่ เซเรีย อา โรม่า VS เอซี มิลาน

วิเเคราะบอลกัลโช่ เซเรีย อา อา โรม่า VS เอซี มิลาน 26.04.2023

“ปีศาจแดงดำ” เอซี มิลาน มีปัญหาเรื่องกองหน้า เพราะส่อไร้ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ยืนล่าตาข่ายนัดเยือน “หมาป่า” โรม่า พร้อมให้ แทมมี่ อับราฮัม กลับมายืนล่าตาข่ายในศึกฟุตบอลกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี คืนวันที่ 29 เม.ย.นี้ เพื่อแย่งกันเก็บชัยเกาะกลุ่ม “ท็อปโฟร์” ใน 4 อันดับแรกนั่นเอง  

กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี

โรม่า VS เอซี มิลาน

สนาม : สตาดิโอ โอลิมปิโก้

เวลา : 23.00 น.

โรม่า

ผลงาน 5 เกมหลังสุดในศึกกัลโช่ เซเรีย อา

กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี : แพ้ ลาซิโอ 0-1 (เยือน)

กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี : ชนะ ซามพ์โดเรีย 3-0 (เหย้า)

กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี : ชนะ โตริโน่ 1-0 (เยือน)

กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี : ชนะ อูดิเนเซ่ 3-0 (เหย้า)

กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี : แพ้ อตาลันต้า 1-3 (เยือน)

คาดว่ากุนซือ โจเซ่ มูรินโญ่ จะปรับทัพบางตำแหน่ง เพื่อลุ้นเก็บชัยเกาะกลุ่ม “ท็อปโฟร์” ต่อไป โดยตอนนี้อยู่อันดับ 5 แข่ง 31 นัด มี 56 คะแนน แม้จะมีนักเตะได้รับบาดเจ็บอยู่บ้าง แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อการจัดทีมลงสนามอย่างแน่นอน เพราะใช้งานพวกแข้งหลักได้เกือบทั้งหมด  

11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามเป็นตัวจริงตามแผนการเล่นแบบ 3-4-2-1

รุย ปาทริซิโอ, โรเจอร์ อิบาเญซ, คริส สมอลลิ่ง, จานลูก้า มันชินี่, เลโอนาร์โด้ สปินาซโซล่า, เอโดอาร์โด้ โบเว่, ไบรอัน คริสตันเต้, เซกี้ เซลิค, ลอเรนโซ่ เปเยกรินี่, เปาโล ดีบาล่า, แทมมี่ อับราฮัม

ผู้รักษาประตู : พร้อมให้ รุย ปาทริซิโอ ยืนเฝ้าเสาเป็นตัวจริงในฐานะมือหนึ่งต่อไปเหมือนอย่างนัดที่แล้ว ส่วนในรายของ ไมล์ สวิลาร์ เตรียมนั่งสแตนบายเป็นตัวสำรองอยู่ที่ข้างสนามเหมือนเช่นเคย

แนวรับ : ไม่มี คริส สมอลลิ่ง ต้องพักรักษาอาการบาดเจ็บไปก่อน จึงน่าจะให้ มาราช คุมบุลล่า ลงไปยืนเป็นกองหลังร่วมกับ จานลูก้า มันชินี่ และ โรเจอร์ อิบาเนซ ส่วนในรายของ ดิเอโก้ ยอเรนเต้ ไม่น่าจะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง เช่นเดียวกับ มาติอัส วิน่า เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองกันต่อไป   

แดนกลาง : ยังคงไร้ จอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม ได้รับบาดเจ็บ จึงน่าจะให้ เอโดอาร์โด้ โบเว่ ลงไปยืนคุมเกมร่วมกับ ไบรอัน คริสตันเต้ ส่วนวิงแบ็กฝั่งซ้ายน่าจะให้ เลโอนาร์โด้ สปินาซโซล่า ลงไปยืนประจำการในฐานะตัวเลือกอันดับแรก เนื่องจาก ริค คาร์สดอร์ป ยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บ โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ เซกี้ เซลิก ซึ่งตัวเลือกแรกในตำแหน่งวิงแบ็กฝั่งขวาเหนือกว่า นิโกล่า ซาเลฟสกี้ ด้วยเช่นกัน ทำให้ มาดี้ กามาร่า, คริสเตียน โวลปาโต้, เบนจามิน ทาฮิโรวิช, เอบริม่า ดาร์โอเอ้ รวมถึง เนมันย่า มาติช ไม่น่าจะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง    

แนวรุก : น่าจะให้ เปาโล ดีบาล่า กับ ลอเรนโซ่ เปเยกรินี่ ลงไปสวมบทเป็นตัวปั้นเกมในฐานะเพลย์เมกเกอร์ และส่อได้เห็น แทมมี่ อับราฮัม กลับมาสวมบทเป็นกองหน้าอีกครั้ง ทำให้ อันเดรีย เบล็อตติ น่าจะหลุดไปนั่งเป็นตัวสำรองในตำแหน่งหัวหอก ส่วนในรายของ สเตฟาน เอล ชาราวี่ รวมถึง โอล่า โซลบัคเค่น เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองไปก่อน      

เอซี มิลาน

ผลงาน 5 เกมหลังสุดในศึกกัลโช่ เซเรีย อา

กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี :  แพ้ อูดิเนเซ่ 1-3 (เยือน)

กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี : ชนะ นาโปลี 4-0 (เยือน)

กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี : เสมอ เอ็มโปลี 0-0 (เหย้า)

กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี : เสมอ โบโลญญ่า 1-1 (เยือน)

กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี : ชนะ เลชเช่ 2-0 (เหย้า)

คาดว่ากุนซือ สเตฟาโน่ ปิโอลี่ จะปรับทัพบางตำแหน่ง เพื่อลุ้นคว้าชัยเบียดแย่งอันดับบนหัวตารางคะแนนในกลุ่ม “ท็อปโฟร์” ต่อไป โดยตอนนี้อยู่อันดับ 4 แข่ง 31 นัด มี 56 คะแนน แม้จะมีนักเตะได้รับบาดเจ็บอยู่บ้าง โดยเฉพาะการขาดหายไปของผู้เล่นในตำแหน่งกองหน้าตัวเป้า แต่ยังใช้งานพวกแข้งหลักได้เกือบทั้งหมด

11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามเป็นตัวจริงตามแผนการเล่นแบบ 4-2-3-1

ไมค์ เมญอง, ฟิกาโย่ โทโมริ, มาลิค เธียว, เตโอ แอร์กน็องเดซ, ดาวิเด้ คาลาเบรีย, ซานโดร โตนาลี่, อิสมาเอล เบนนาเซอร์, ราฟาเอล เลเอา, จูเนียร์ เมสซิอัส, บราฮิม ดิอาซ, อันเต้ เรบิช 

ผู้รักษาประตู : ไม่เปลี่ยนแปลงไปจากมือหนึ่ง นั่นก็คือ ไมค์ เมญอง พร้อมยืนเฝ้าเสาเป็นตัวจริงตั้งแต่นาทีแรกเหมือนเดิม ส่วนในรายของ ซีเปรียน ทาทารูซานู พร้อมนั่งเป็นสแตนบายในฐานะมือสองเหมือนอย่างนัดที่แล้ว  

แนวรับ : เตรียมได้ ดาวิเด้ คาลาเบรีย พ้นโทษแบนกลับมาสวมบทเป็นแบ็กขวาอีกครั้ง โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ เตโอ แอร์กน็องเดซ ในตำแหน่งแบ็กซ้าย ส่วนคู่กองหลังน่าจะให้ มาลิค เธียว ลงไปยืนคู่กับ ฟิกาโย่ โทโมริ เพราะว่าเป็น 2 ตัวหลักในแนวรับอยู่แล้ว ทำให้ ปิแอร์ คาลูลู เตรียมหลุดไปนั่งเป็นตัวสำรอง เช่นเดียวกับ อเลสซานโดร ฟลอเรนซี่, มัตเตโอ กับเบีย, เซร์จินโญ่ เดสต์, ซิมง เคียร์, โฟเด้ ตูเร่ รวมถึง อัสเตอร์ ฟรังซ์ ซึ่งไม่น่าจะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงทั้งหมดเลย

แดนกลาง : น่าจะให้ อิสมาเอล เบนนาเซอร์ กลับมายืนคุมเกมร่วมกับ ซานโดร โตนาลี่ ทำให้ ราเด้ ครูนิช, ยาซีน อาดิล, ตีมูเอ้ บากาโยโก้ เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองเหมือนเดิม ส่วนในรายของ ทอมมาโซ่ โปเบก้า ต้องพักรักษาอาการบาดเจ็บไปก่อน

แนวรุก : ส่อไร้ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ เจอโรคเดี้ยงเล่นงาน จึงต้องรอเช็กสภาพความฟิตในช่วงก่อนเกมกันอีกครั้ง แต่หมดสิทธิ์ใช้งาน ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บ ทำให้ อันเต้ เรบิช เตรียมสวมบทเป็นกองหน้าตัวเป้าเหมือนอย่างนัดที่แล้ว และพร้อมให้ ราฟาเอล เลเอา สวมบทเป็นตัวริมเส้นฝั่งซ้าย โดยจะยืนอยู่คนละฝั่งกับ จูเนียร์ เมสซิอัส ในตำแหน่งตัวริมเส้นฝั่งขวา และน่าจะให้ บราฮิม ดิอาซ ลงไปสวมบทเป็นเพลย์เมกเกอร์ในฐานะตัวปั้นเกมต่อไป ส่วนในรายของ ชาร์ลส เดอ เคตลาร์ รวมถึง ดิว็อค โอริกี้ เตรียมนั่งอยู่ที่ข้างสนามไปก่อน

สถิติการพบกันเอง

สำหรับคู่นี้เคยดวลแข้งกันในทุกรายการมาแล้วทั้งหมด 63 เกม ปรากฎว่า โรม่า มีสถิติเป็นรองเพียงเล็กน้อย โดยเป็นฝ่ายชนะ 19 เกม เสมอ 21 เกม และแพ้ 23 เกม ส่วนผลการพบกันนัดล่าสุดในศึกกัลโช่ เซเรีย อา เมื่อปี 2023 ปรากฎว่า “หมาป่า” บุกไปเสมอ 2-2 สำหรับผลการพบกันในสนามแห่งนี้นัดล่าสุดเกิดขึ้นในศึกกัลโช่ เซเรีย อา เมื่อปี 2021 ปรากฎว่า เอซี มิลาน บุกไปชนะ 2-1

สถิติที่เคยพบกัน 5 เกมหลังสุด

กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ปี 2020 : เอซี มิลาน เสมอ โรม่า 3-3

กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ปี 2021 : โรม่า แพ้ เอซี มิลาน 1-2

กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ปี 2021 : โรม่า แพ้ เอซี มิลาน 1-2

กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ปี 2022 : เอซี มิลาน ชนะ โรม่า 3-1

กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ปี 2023 : เอซี มิลาน เสมอ โรม่า 2-2

ความน่าจะเป็น

เพราะมีเดิมพันคือการแย่งชิงพื้นที่ “ท็อปโฟร์” ใน 4 อันดับแรก ทำให้ทั้งสองทีมพร้อมสู้กันแบบสนุกอย่างแน่นอน และดูเหมือนว่า โรม่า จะมีสภาพทีมที่พร้อมกว่า ส่วน เอซี มิลาน มีปัญหาเรื่องแนวรุกจากการขาดแคลนผู้เล่นในกองหน้า คาดว่า “หมาป่า” น่าจะเป็นฝ่ายเก็บชัยในบ้านเอาไว้ได้ 

ผลที่คาด : โรม่า ชนะ เอซี มิลาน 2-1

บทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับเซเรียอา

บทความนี้นับสนุนโดย Siam99 เว็บคาสิโนออนไลน์ที่นึ่งในประเทศไทยสมัครตอนนี้รับตั๋ว5ใบทันที

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *