กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี
สเปเซีย VS อินเตอร์ มิลาน
สนาม : สตาดิโอ อัลแบร์โต้ ปิคโก้
เวลา : 02.45 น.
สเปเซีย
ผลงาน 5 เกมหลังสุดในศึกกัลโช่ เซเรีย อา
กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี : แพ้ นาโปลี 0-3 (เหย้า)
กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี : เสมอ เอ็มโปลี 2-2 (เยือน)
กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี : แพ้ ยูเวนตุส 0-2 (เหย้า)
กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี : เสมอ อูดิเนเซ่ 2-2 (เยือน)
กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี : เสมอ เวโรน่า 0-0 (เหย้า)
คาดว่ากุนซือ เลโอนาร์โด้ เซมปลิซี่ จะปรับทัพบางตำแหน่ง เพื่อลุ้นกลับมาคว้าชัยให้ได้อีกครั้ง หลังสะกดคำว่าชนไม่เป็นมาแล้วถึง 7 เกมติดต่อกัน และจะได้ขยับหนีจากโซนท้ายตารางคะแนนอีกต่างหาก โดยตอนนี้อยู่อันดับ 17 แข่ง 25 นัด มี 21 คะแนน แม้จะมีนักเตะขาดหายไปหลายคน แต่ยังใช้งานพวกแข้งหลักได้อีกหลายราย จึงพร้อมจัดผู้เล่นชุดใหญ่ได้อยู่ด้วย
11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามเป็นตัวจริงตามแผนการเล่นแบบ 4-3-3
บาร์โลเมียจ ดรากอฟสกี้, เอธาน อัมปาดู, ดิมิทริออส นิโกลาอู, มัตเตีย คัลดาร่า, เคลวิน อาเมียน, อัลบิน เอ็กดัล, เมห์ดี้ บูราเดีย, เควิน อากูเดโล่, ดานิเอเล่ เวอร์เด้, เอมมานูเอล กายาซี่, เอ็มบาลา เอ็นโซล่า
ผู้รักษาประตู : หมดสิทธิ์ใช้งาน เยโรเอ็น โซเอ็ท ได้รับบาดเจ็บ รวมถึง เฟเดริโก้ มาร์เชตติ ติดโทษแบน จึงพร้อมให้ บาร์โลเมียจ ดรากอฟสกี้ ลงไปยืนเฝ้าเสาเป็นตัวจริงเหมือนอย่างนัดที่แล้ว ส่วนในรายของ ปีตาร์ ซอฟโก้ เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองในฐานะมือสองไปก่อน
แนวรับ : พร้อมให้ เอธาน อัมปาดู ลงไปยืนเป็นกองหลังคู่กับ ดิมิทริออส นิโกลาอู เพราะไม่มี เจา มูตินโญ่ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนแบ็กซ้ายน่าจะให้ มัตเตีย คัลดาร่า ลงไปยืนประจำการ เนื่องจาก อาร์คาดิอุสซ์ เรก้า ติดโทษแบนพอดี และหมดสิทธิ์ใช้งาน ซิโมเน่ บาสโตนี่ ได้รับบาดเจ็บอีกต่างหาก โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ เคลวิน อาเมียน ในตำแหน่งแบ็กขวา เพราะว่า เอมิล โฮมล์ม ยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บ และเป็นตัวเลือกในอันดับต้นๆ เหนือกว่า ซัลบา เฟร์เรร์ เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองตรงจุดนี้ไปก่อน ขณะที่ เปอร์มีสลาฟ วิสเนียวสกี้ รวมถึง ยาโคโป ซาล่า เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองเหมือนเดิม
แดนกลาง : ไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงไปจาก อัลบิน เอ็กดัล, เมห์ดี้ บูราเดีย และ เควิน อากูเดโล่ เพราะว่าเป็น 3 ประสานในแผงมิดฟิลด์ทั้งหมดเลย ส่วนในรายของ วิคเตอร์ โควาเลนโก้, ซัลวาตอเร่ เอสโปซิโต้, ดาเนียล มัลดินี่, ยูเลี่ยน เบ็ค รวมถึง ซีมอน ซูร์คอฟสกี้ เตรียมนั่งอยู่ที่ข้างสนามเหมือนอย่างนัดที่แล้ว
แนวรุก : เตรียมวาง เอ็มบาลา เอ็นโซล่า สวมบทเป็นเป็นกองหน้าตัวเป้า ส่วนในรายของ ดานิเอเล่ เวอร์เด้ เตรียมทำหน้าที่เป็นตัวริมเส้นฝั่งขวา โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ เอมมานูเอล กายาซี่ ในตำแหน่งตัวริมเส้นฝั่งซ้าย จึงเตรียมได้เห็น เอลดอร์ โซมูโรดอฟ และ ไรมอนด์ส โครลลิส นั่งเป็นตัวสำรองทั้งหมดเลย
อินเตอร์ มิลาน
ผลงาน 5 เกมหลังสุดในกัลโช่ เซเรีย อา
กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี : ชนะ เอซี มิลาน 1-0 (เหย้า)
กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี : เสมอ ซามพ์โดเรีย 0-0 (เยือน)
กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี : ชนะ อูดิเนเซ่ 3-1 (เหย้า)
กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี : แพ้ โบโลญญ่า 0-1 (เยือน)
กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี : ชนะ เลชเช่ 2-0 (เหย้า)
คาดว่ากุนซือ ซิโมเน่ อินซากี้ จะปรับทัพบางตำแหน่ง เพื่อลุ้นเก็บชัยรั้งตำแหน่งรองจ่าฝูงต่อไป และจะได้ขยับเข้าไปหาทีมจ่าฝูงเข้าไปอีกหน่อย แม้จะไล่ตามหลังมากกว่า 10 คะแนนเลยก็ตาม โดยตอนนี้ยังคงอยู่อันดับ 2 แข่ง 25 มี 50 คะแนน ตามหลัง นาโปลี ทีมอันดับ 1 ห่างถึง 15 แต้มเลยทีเดียว จึงพร้อมให้พวกแข้งหลักออกสตาร์ทเป็นตัวจริงแน่นอน แม้จะมีผู้เล่นเจอโรคเดี้ยงตามราวีอยู่บ้าง แต่ยังใช้งานพวกแข้งดังได้อีกหลายคน
11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามเป็นตัวจริงตามแผนการเล่นแบบ 3-5-2
อังเดร โอนาน่า, มัตเตโอ ดาร์เมียน, ฟรานเชสโก้ อาแซร์บี้, อเลสซานโดร บาสโตนี่, เดนเซล ดัมฟรีส์, นิโกโล่ บาเรลล่า, ฮาคาน ชัลฮานโนกูล, เฮนริค มคิทาร์ยาน, โรบิน กูเซ่นส์, เลาตาโร มาร์ติเนซ, เอดิน เชโก้
ผู้รักษาประตู : ไม่เปลี่ยนแปลงไปจาก อังเดร โอน่าน่า พร้อมยืนเฝ้าเสาเป็นตัวจริงเหมือนเดิม เพราะถูกวางตัวให้สวมบทเป็นมือหนึ่งเหนือกว่า ซาเมียร์ ฮานดาโนวิช นายด่านจอมเก๋าที่ถูกวางตัวเป็นมือสองไปเสียแล้วนั่นเอง
แนวรับ : ยังคงไร้ มิลาน สคริเนียร์ ต้องพักรักษาอาการบาดเจ็บไปก่อน จึงน่าจะให้ มัตเตโอ ดาร์เมี่ยน ขยับจากตำแหน่งแบ็กซ้ายลงไปสวมบทเป็นกองหลังเหมือนอย่างนัดที่แล้ว เพื่อประสานงานกับ ฟรานเชสโก้ อาแซร์บี้ และ อเลสซานโดร บาสโตนี่ ส่วนในรายของ สเตฟาน เดอ ไฟร์จ, ราโอล เบลลาโนว่า, มัตเตีย ซาน็อตติ รวมถึง ดานิโอ ดามโบรซิโอ ไม่น่าจะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงอยู่แล้ว และเตรียมนั่งเป็นตัวสำรองทั้งหมดเลย
แดนกลาง : พร้อมใช้งาน 3 ประสาน นั่นก็คือ นิโกโล่ บาเรลล่า, ฮาคาน ชัลฮานโนกูล และ เฮนริค มคิทาร์ยาน เพราะว่าเป็น 3 ตัวหลักในแผงมิดฟิลด์อยู่แล้ว ส่วนแบ็กขวาพร้อมให้ เดนเซล ดัมฟรีส์ กลับสวมบทเป็นวิงแบ็กฝั่งขวา โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ โรบิน กูเซ่นส์ ในตำแหน่งวิงแบ็กซ้าย ขณะที่ เฟเดริโก้ ดิมาร์โก้ ยังไม่หายจากโรคเดี้ยง และเตรียมได้เห็น มาร์เซโล่ โบรโซวิช, คริสติยัน อัสยานี่, วาเลนติน คาร์โบนี่ และ โรแบร์โต้ กวายาร์ดินี่ นั่งเป็นตัวสำรองอยู่ทีข้างสนามเหมือนอย่างนัดที่แล้ว
แนวรุก : หมดสิทธิ์ใช้งาน โจอาควิน คอร์เรอา ยังคงต้องพักรักษาอาการบาดเจ็บต่อไป จึงน่าจะให้ เอดิน เชโก้ ลงไปยืนเป็นกองหน้าเพื่อล่าตาข่ายคู่กับ เลาตาโร มาร์ติเนซ เหมือนอย่างนัดที่แล้ว ส่วนในรายของ โรเมลู ลูกากู เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองไปก่อน
สถิติการพบกันเอง
สำหรับคู่นี้เคยดวลแข้งกันในทุกรายการมาแล้วทั้งหมด 5 เกม ปรากฎว่า อินเตอร์ มิลาน มีสถิติเหนือกว่าเยอะเลย โดยเป็นฝ่ายชนะ 4 เกม เสมอ 1 เกม และไม่เคยแพ้แม้แต่นัดเดียว ส่วนผลการพบกันนัดล่าสุดในศึกกัลโช่ เซเรีย อา เมื่อปี 2022 ปรากฎว่า “งูใหญ่” เป็นฝ่ายเปิดบ้านชนะ 3-0 สำหรับผลการพบกันในสนามแห่งนี้นัดล่าสุดเกิดขึ้นในศึกกัลโช่ เซเรีย อา เมื่อปี 2022 ปรากฎว่า สเปเซีย เป็นฝ่ายแพ้คาบ้าน 1-3
สถิติที่เคยพบกัน 5 เกมหลังสุด
กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ปี 2020 : อินเตอร์ มิลาน ชนะ สเปเซีย 2-1
กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ปี 2021 : สเปเซีย เสมอ อินเตอร์ มิลาน 1-1
กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ปี 2021 : อินเตอร์ มิลาน ชนะ สเปเซีย 2-0
กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ปี 2022 : สเปเซีย แพ้ อินเตอร์ มิลาน 1-3
กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ปี 2022 : อินเตอร์ มิลาน ชนะ สเปเซีย 3-0
ความน่าจะเป็น
แน่นอนว่าเจ้าบ้านยังคงต้องหนีการตกชั้น จึงต้องพยายามกลับมาคว้าชัยให้ได้ แต่ สเปเซีย โชว์ฟอร์มโดยรวมได้ย่ำแย่แบบต่อเนื่องเลย ส่วน อินเตอร์ มิลาน ยังคงต้องขับเคี่ยวเพื่อยึดตำแหน่งรองจ่าฝูงต่อไป จึงพร้อมจัดทัพใหญ่ลงสนามเพื่อเก็บชัยให้ได้ คาดว่า “งูใหญ่” น่าจะบุกไปเก็บ 3 คะแนนเต็มได้สำเร็จ
ผลที่คาด : สเปเซีย แพ้ อินเตอร์ มิลาน 1-3
บทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับเซเรียอา
บทความนี้นับสนุนโดย Siam99 เว็บคาสิโนออนไลน์ที่นึ่งในประเทศไทยสมัครตอนนี้รับตั๋ว5ใบทันที