“อัศวินสีส้ม” เนเธอร์แลนด์ ไม่มี เมมฟิส เดปาย ได้รับบาดเจ็บ แต่พร้อมให้ เวาท์ เวกฮอร์ทส สวมบทเป็นกองหน้าเพื่อประสานงานโคดี้ กัคโป นัดต้อนรับ “ตาหมากรุก” โครเอเชีย เตรียมให้พวกแข้งเก๋าลงสนามในศึกฟุตบอลยูฟ่า เนชั่นส์ลีก ไฟนอลส์ รอบรองชนะเลิศ คืนวันที่ 14 มิ.ย.นี้ เพื่อแย่งกันเก็บชัยตบเท้าผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศไปเลย
ยูฟ่า เนชั่นส์ลีก ไฟนอลส์ รอบรองชนะเลิศ
เนเธอร์แลนด์ VS โครเอเชีย
สนาม : เดอะไคป์, เมืองร็อตเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์
เวลา : 01.45 น.
เนเธอร์แลนด์
ผลงาน 5 เกมหลังสุด
ฟุตบอลโลก 2022 รอบแรก กลุ่ม เอ : ชนะ กาตาร์ 2-0 (สนามกลาง)
ฟุตบอลโลก 2022 รอบ 16 ทีมสุดท้าย : ชนะ สหรัฐอเมริกา 3-1 (สนามกลาง)
ฟุตบอลโลก 2022 รอบ 8 ทีมสุดท้าย : เสมอ อาร์เจนติน่า 2-2 (สนามกลาง) – เนเธอร์แลนด์ แพ้ดวลจุดโทษตัดสิน
ยูโร 2024 รอบคัดเลือก : แพ้ ฝรั่งเศส 0-4 (เยือน)
ยูโร 2024 รอบคัดเลือก : ชนะ ยิบรอลตาร์ 3-0 (เหย้า)
คาดว่ากุนซือ โรนัลด์ คูมัน จะปรับทัพบางตำแหน่งเพิ่อลุ้นเก็บชัยผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศในถิ่นของตัวเอง เพราะได้ทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพรายการนี้อยู่แล้ว จึงพร้อมให้พวกแข้งหลักออกสตาร์ทเป็นตัวจริงเกือบทั้งหมด แม้จะมีนักเตะขาดหายไปบางรายก็ตาม
11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามเป็นตัวจริงตามแผนการเล่นแบบ 4-3-3
มาร์ค เฟลคเค่น, มัทไธจ์ส เดอ ลิกท์, เฟอร์กิล ฟาน ไดค์, นาธาน อาเก้, เดนเซล ดัมฟรีส์, จอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม, เฟรงกี้ เดอ ยอง, มาร์เท่น เดอ รอน, สตีเฟ่น เบิร์กไวจ์น, โคดี้ กัคโป, เวาท์ เวกฮอร์ทส
ผู้รักษาประตู : พร้อมให้ มาร์ค เฟลคเค่น ยืนเฝ้าเสาเป็นตัวจริง เพราะได้รับการวางตัวให้สวมบทเป็นมือหนึ่งไปก่อน ส่วนในรายของ จัสติน บิจ์โลว์ เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองในฐานะมือหนึ่งเหมือนเช่นเคย
แนวรับ : เตรียมได้เห็น เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ เป็นแกนหลักในฐานะกัปตันทีม และน่าจะให้ มัทไธจ์ส เดอ ลิกท์ ลงไปยืนคู่กัน ส่วนแบ็กซ้ายน่าจะให้ นาธาน อาเก้ ลงไปยืนประจำการ โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ เดนเซล ดุมฟรีส์ ในตำแหน่งแบ็กขวา ทำให้ สเวน บ็อตมัน, ลุทชาเริล เคียร์เทราด้า, ไทเรลล์ มาลาเซีย, ยูร์เรียน ทิมเบอร์ และ ดาลี่ย์ บลินด์ เตรียมนั่งเป็นสำรองตามเดิม
แดนกลาง : ส่อใช้งาน 3 ประสาน นั่นก็คือ จอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม, เฟรงกี้ เดอ ยอง และ มาร์เท่น เดอ รอน ลงไปยืนคุมเกมร่วมกันทั้งหมดเลย และเตรียมได้เห็น โจอี้ เฟอร์มัน, มัตส์ วีฟเฟอร์, เทิน ค็อปไมเนอร์ส, ซาวี่ ซิมงส์, ทิจ์ยานี่ ไรจ์นเดอร์ส เตรียมนั่งเป็นตัวสแตนบายอยู่ที่ข้างสนามไปก่อน
แนวรุก : ไม่มี เมมฟิส เดปาย ได้รับบาดเจ็บ จึงน่าจะให้ เวาท์ เวกฮอร์สท สวมบทเป็นกองหน้าตัวเป้า และเตรียมได้เห็น โคดี้ กัคโป สวมบทเป็นตัวริมเส้นฝั่งซ้ายคนละด้านกับ สตีเฟ่น เบิร์กไวจ์น ในตำแหน่งตัวริมเส้นฝั่งขวา ส่วนในรายของ ดอนเยลล์ มาเลน และ โนอา ลัง ไม่น่าจะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง
โครเอเชีย
ผลงาน 5 เกมหลังสุด
ฟุตบอลโลก 2022 รอบ 8 ทีมสุดท้าย : เสมอ บราซิล 1-1 (สนามกลาง) – โครเอเชีย ชนะดวลจุดโทษตัดสิน
ฟุตบอลโลก 2022 รอบรองชนะเลิศ : แพ้ อาร์เจนติน่า 0-3 (สนามกลาง)
ฟุตบอลโลก 2022 นัดชิงอันดับ 3 : ชนะ โมร็อคโก 2-1 (สนามกลาง)
ยูโร 2024 รอบคัดเลือก : เสมอ เวลส์ 1-1 (เหย้า)
ยูโร 2024 รอบคัดเลือก : ชนะ ตุรเคีย 2-0 (เยือน)
คาดว่ากุนซือ ซลัทโก้ ดาลิช จะปรับทัพบางตำแหน่งเพื่อลุ้นเก็บชัยเพื่อเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศไปเลย แต่พร้อมให้พวกแข้งหลักออกสตาร์ทเป็นตัวจริงไปเลย เพราะมีนักเตะขาดหายไปบางรายเท่านั้น
11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามเป็นตัวจริงตามแผนการเล่นแบบ 4-3-3
โดมินิค ลิวาโควิช, โดมากอย วิด้า, โจซิป ซูตาโล่, บอร์น่า บาริซิช, โจซิป ยูราโนวิช, มาเตโอ โควาซิช, มาร์เซโล โบรโซวิช, ลูก้า โมดริช, อีวาน เปริซิช, มาริโอ ปาซาลิช, อังเดร ครามาริช
ผู้รักษาประตู : ไม่เปลี่ยนแปลงไปจาก โดมินิค ลิวาโควิช พร้อมยืนเฝ้าเสาเป็นตัวจริงเหมือนเดิมในฐานะมือหนึ่งอยู่แล้ว ส่วนในรายของ อิวิก้า อิวูซิช เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองในฐานะมือสองเพื่อรอโอกาสลงสนามเหมือนเช่นเคย
แนวรับ : หมดสิทธิ์ใช้งาน ยอสโก้ กวาร์ดิโอล ได้รับบาดเจ็บ จึงพร้อมให้ โดมากอย วิด้า แข้งจอมเก๋าลงไปยืนเป้นกองหลังคู่กับ โจซิป ซูตาโล่ ส่วนแบ็กซ้ายน่าจะให้ บอร์น่า บาริซิช ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงเหมือนเดิม โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ โจซิป ยูราโนวิช ในตำแหน่งแบ็กขวา ทำให้ บอร์นา โซซ่า, โจซิป สตานิซิช และ มาร์ติน เออร์ลิช เตรียมนั่งอยู่ที่ข้างสนามต่อไป
แดนกลาง : เตรียมได้เห็น 3 ประสาน นั่นก็คือ มาร์เซโล่ โบรโซวิช, มาเตโอ โควาซิช และ ลูก้า โมดริช พร้อมออกสตาร์ทเป็นตัวจริงตั้งแต่นาทีแรกเหมือนเดิม เพราะเป็นแผงมิดฟิลด์ที่ดีที่สุดอยู่แล้วนั่นเอง ส่วนในรายของ นิโกลา วลาซิช, ลอฟโร เมเจอร์ รวมถึง ลูก้า อีวานูเซ็ค เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองทั้งหมดเลย
แนวรุก : ส่อให้ มาริโอ ปาซาลิช ขยับจากกองกลางขึ้นไปสวมบทเป็นตัวริมเส้นฝั่งขวา โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ อีวาน เปริซิช ในตำแหน่งตัวริมเส้นฝั่งซ้าย และพร้อมให้ อังเดร คามาริช สวมบทเป็นกองหน้าตัวเป้าไปเลย ทำให้ บรูโน่ เพ็ตโควิช, ปิทาร์ มูซ่า และ ดิออน เดรน่า เบลโย่ เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองตามเดิม
สถิติการพบกันเอง
สำหรับคู่นี้เคยดวลแข้งกันในทุกรายการมาแล้วทั้งหมด 2 เกม ปรากฎว่าผลัดกันชนะ-แพ้ ทีมละ 1 เกม ส่วนผลการพบกันนัดล่าสุดในศึกนัดกระชับมิตรเมื่อปี 2008 ปรากฎว่า เนเธอร์แลนด์ บุกไปชนะ 3-0
สถิติที่เคยพบกันทั้ง 2 เกม
ฟุตบอลโลก 1998 นัดชิงอันดับ 3 ปี 1998 : เนเธอร์แลนด์ แพ้ โครเอเชีย 1-2
นัดกระชับมิตร ปี 2008 : โครเอเชีย แพ้ เนเธอร์แลนด์ 0-3
ความน่าจะเป็น
เพราะได้สิทธิ์เป็นเจ้าภาพ ทำให้ เนเธอร์แลนด์ ถือความได้เปรียบจากการลงเล่นในถิ่นของตัวเอง จึงพร้อมให้พวกแข้งหลักลงสนามเกือบทั้งหมด แม้จะมีหลายคนขาดหายไปบ้างก็ตาม โดยเฉพาะแนวรุกไม่มี เมมฟิส เดปาย แต่ยังสามารถใช้งานพวกผู้เล่นฝีเท้าดีได้อีกหลายคน ซึ่งรวมถึง โคดี้ กัคโป และ เวาท์ เวกฮอร์ทส พร้อมทำหน้าที่เป็นตัวหลักในแดนหน้าอยู่แล้ว ส่วนแนวรุกยังคงมี เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ เป็นแกนหลักในฐานะกัปตันทีมเหมือนเช่นเคย ด้าน โครเอเชีย มีการถ่ายสายเลือดนักเตะในบางตำแหน่งตั้งแต่ช่วงหลังจบหลังคว้าอันดับ 3 จากศึกฟุตบอลโลก 2022 แต่ยังใช้งานพวกแข้งจอมเก๋าได้อีกหลายคน เพราะยังคงพร้อมรับใช้บ้านเกิดต่อไปเหมือนเดิม และเป็นพวกผู้เล่นที่เล่นด้วยกันมานานแล้วด้วย ไม่ว่าจะเป็น ลูก้า โมดริช กัปตันทีมวัย 37 ปีที่ยังคงพร้อมลงสนามในเกมระดับชาติต่อไปเรื่อยๆ เช่นเดียวกับ อีวาน เปริซิช ตัวริมเส้นวัย 34 ปีแล้วนั่นเอง คาดว่า “อัศวินสีส้ม” ไม่เจองานง่ายอย่างแน่นอน เพราะว่า “ตาหมากรุก” เป็นบอลจอมเขี้ยวอยู่แล้ว แต่เจ้าบ้านอาจดูดีกว่าในเรื่องของความสด เพราะมีนักเตะอายุน้อยให้เลือกใช้งานได้เพียบเลย และมีประสบการณ์จากการลงเล่นในเกมระดับชาติมาแบบต่อเนื่องเลยด้วย ดังนั้น เนเธอร์แลนด์ จึงน่าจะมีโอกาสเก็บชัยชนะได้แบบหวุดหวิดเพื่อตบเท้าผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ
ผลที่คาด : เนเธอร์แลนด์ ชนะ โครเอเชีย 2-1
บทความนี้นับสนุนโดย Siam99 เว็บคาสิโนออนไลน์ที่นึ่งในประเทศไทย