ลาลีกา สเปน
แอธเลติก บิลเบา VS เรอัล มาดริด
สนาม : ซาน มาเมส
เวลา : 03.00 น.
แอธเลติก บิลเบา
ผลงาน 5 เกมหลังสุดในศึกลาลีกา
ลาลีกา สเปน : แพ้ คิโรน่า 1-2 (เยือน)
ลาลีกา สเปน : ชนะ เรอัล บายาโดลิด 3-0 (เหย้า)
ลาลีกา สเปน : เสมอ เรอัล เบติส 0-0 (เยือน)
ลาลีกา สเปน : เสมอ โอซาซูน่า 0-0 (เหย้า)
ลาลีกา สเปน : แพ้ เรอัล โซเซียดัด 1-3 (เยือน)
คาดว่ากุนซือ เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ จะปรับทัพจากเกมล่าสุดที่บุกไปแพ้ เรอัล โซเซียดัด 1-3 เพื่อลุ้นกลับมาคว้าชัยอีกครั้ง หลังไม่พบกับชัยชนะมาแล้ว 3 เกม โดยตอนนี้อยู่อันดับ 8 แข่ง 17 นัด มี 26 คะแนน จึงพร้อมให้พวกแข้งหลักออกสตาร์ทเป็นตัวจริงทั้งหมดเลย เพราะไม่มีผู้เล่นได้รับบาดเจ็บเพิ่มเติม
11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามเป็นตัวจริงตามแผนการเล่นแบบ 4-2-3-1
อูไน ซิมง, ดานี่ วิเวียน, อินิโก้ มาร์ติเนซ, ยูริ เบร์ชิเช่, ออสการ์ เดอ มาร์กอส, โอเอียร์ ซาร์ราก้า, มิเกล บาเลนเซียก้า, นิโก้ วิลเลี่ยมส์, ไอฮาน ซานเซ็ต, อินากี้ วิลเลี่ยมส์, กอร์ก้า กูรูเซต้า
ผู้รักษาประตู : พร้อมให้ อูไน ซิมง ยืนเฝ้าเสาเป็นตัวจริงอย่างแน่นอน เพราะสวมบทเป็นมือหน่งอยู่แล้วนั่นเอง ส่วนในรายของ ฆูเล็น อากีร์เรซาบาล่า เป็นตัวสแตนบายอยู่ที่ข้างสนามไปก่อน
แนวรับ : หมดสิทธิ์ใช้งาน เยราย อัลวาเรซ ติดโทษแบนจากการโดนใบแดงในนัดก่อน จึงน่าจะให้ อินิโก้ มาร์ติเนซ ลงไปยืนเป็นกองหลังคู่กับ ดานี่ วิเวียน เพราะเพิ่งหายจากอาการบาดเจ็บ และน่าจะฟิตกลับมาลงสนามได้อีกครั้ง ส่วนแบ็กซ้ายพร้อมให้ ออสการ์ เดอ มาร์กอส ลงไปยืนประจำการ โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ ยูริ เบร์ชิเช่ ในตำแหน่งแบ็กขวาเหมือนเดิม ทำให้ อินิโก้ ลูกูเอ้, อันแดร์ กาปา และ ไอตอร์ ปาเรเดส นั่งเป็นตัวสำรองทั้งหมดเลย
แดนกลาง : น่าจะขยับ มิเกล บาเลนเซียก้า จากตำแหน่งกองหลังขึ้นไปสวมบทเป็นมิดฟิลด์เหมือนอย่างนัดที่แล้ว โดยจะยืนคุมเกมร่วมกับ โอเอียร์ ซาร์ราก้า ส่วนในรายของ มิเกล เวสก้า, ดานี่ การ์เซีย, อูไน เบนเซดอร์ รวมถึง อันแดร์ เอร์เรร่า ไม่น่าจะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง
แนวรุก : เตรียมได้เห็น 2 พี่น้องลงเล่นเป็นตัวริมเส้นทั้งสองฝั่งตั้งแต่นาทีแรกเหมือนเดิม โดย นิโก้ วิลเลี่ยมส์ พร้อมสวมบทเป็นปีกซ้ายเหมือนเดิม โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ อินากี้ วิลเลี่ยมส์ ในตำแหน่งปีกขวา ส่วนในรายของ ไอฮาน ซานเซ็ต พร้อมเป็นตัวปั้นเกมในฐานะเพลย์เมกเกอร์ และพร้อมให้ กอร์ก้า กูรูเซต้า สวมบทเป็นกองหน้าตัวเป้า ขณะที่ อเล็กซ์ เบเรนกูเอร์, อีเคร มูเนียอิน, อาเซียร์ บิยาลิเบร, มัลคอม อาเรส และ ราอูล การ์เซีย เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองตามเดิม
เรอัล มาดริด
ผลงาน 5 เกมหลังสุดในศึกลาลีกา
ลาลีกา สเปน : เสมอ คิโรน่า 1-1 (เหย้า)
ลาลีกา สเปน : แพ้ ราโย่ บาเยกาโน่ 2-3 (เยือน)
ลาลีกา สเปน : ชนะ กาดิช 2-1 (เหย้า)
ลาลีกา สเปน : ชนะ เรอัล บายาโดลิด 2-0 (เยือน)
ลาลีกา สเปน : แพ้ บียาร์เรอัล 1-2 (เยือน)
คาดว่ากุนซือ คาร์โล อันเชลอตติ จะปรับทัพจากเกมล่าสุดที่แพ้ บาร์เซโลน่า 1-3 ในศึกซูเปอร์โคปา เดอ เอสปันญ่า รอบชิงชนะเลิศ เพื่อลุ้นกลับมาคว้าชัยอีกครั้ง และจะได้ขับเคี่ยวกับทีมจ่าฝูงต่อไป โดยตอนนี้อยู่อันดับ 2 แข่ฃ 16 นัด มี 38 คะแนน ตามหลัง บาร์เซโลน่า ทีมจ่าฝูงเพียงแต้มเดียวเท่านั้น แม้จะมีนักเตะได้รับบาดเจ็บอยู่บ้าง แต่ยังใช้งานพวกแข้งหลักได้อีกหลายคน
11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามเป็นตัวจริงตามแผนการเล่นแบบ 4-3-3
ธีโบต์ กูร์ตัวส์, เอแดร์ มิลิเทา, อันโตนิโอ รูดิเกอร์, แฟร์ลองด์ เมนดี้, ดานี่ คาร์บาฆัล, ลูกา โมดริช, โทนี่ โครส, เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้, วินิซิอุส จูเนียร์, โรดรีโก้ โกเอส, คาริม เบนเซม่า
ผู้รักษาประตู : พร้อมให้ ธีโบต์ กูร์ตัวส์ ยืนเฝ้าเสาเป็นตัวจริงตามเดิม เพราะถูกวางตัวให้เป็นมือหนึ่งอยู่แล้ว ส่วนในรายของ อังเดร ลูนิน เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองในฐานะมือสองตามเดิม
แนวรับ : ไม่มี ดาวิด อลาบา ได้รับบาดเจ็บ จึงน่าจะให้ เอแดร์ มิลิเทา ยืนเป็นกองหลังคู่กับ อันโตนิโอ รูดิเกอร์ ทำให้ นาโช แฟร์นันเดซ และ เฆซุส บาเยโฆ่ ต้องนั่งเป็นตัวสำรองตามเดิม ส่วนแบ็กซ้ายส่อเลือก แฟร์ลองด์ เมนดี้ เป็นอันดับแรกเหนือกว่า ลูคัส บาซเกซ โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ ดานี่ คาร์บาฆัล ในตำแหน่งแบ็กขวา เพราะเป็นตัวเลือกแรกเหนือกว่า อัลบาโร่ โอดริโอโซล่า ด้วยเช่นกัน
แดนกลาง : หมดสิทธิ์ใช้งาน โอเรเลียง ชูอาเมนี่ เจอโรคเดี้ยงเล่นงาน จึงน่าจะให้ เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้ ลงไปยืนคุมเกมร่วมกับ โทนี่ โครส และ ลูก้า โมดริช ส่วนในรายของ เฟเดริโก้ คามาวิงก้า กับ ดานี่ เซบายอส เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองต่อไป
แนวรุก : น่าจะใช้ 3 ประสานชุดเดิม เพราะไม่น่าจะให้ เอแด็ง อาซาร์ ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงอยู่แล้ว ทำให้ โรดรีโก้ โกเอส เตรียมลงไปสวมบทเป็นปีกซ้าย โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ วินิซิอุส จูเนียร์ ในตำแหน่งปีกขวา และน่าจะให้ คาริม เบนเซม่า สวมบทเป็นกองหน้าตัวเป้าอย่างแน่นอน ทำให้ มาเรียโน่ ดิอาซ และ มาร์โก อเซนซิโอ ยังคงนั่งเป็นตัวสำรองตามเดิม
สถิติการพบกันเอง
สำหรับคู่นี้เคยดวลแข้งกันในทุกรายการมาแล้วทั้งหมด 63 เกม ปรากฎว่า เรอัล มาดริด มีสถิติเหนือกว่า โดยเป็นฝ่ายชนะ 40 เกม เสมอ 10 เกม และแพ้ 63 เกม ส่วนผลการพบกันนัดล่าสุดในศึกโคปา เดล เรย์ รอบ 8 ทีมสุดท้าย เมื่อปี 2022 ปรากฎว่า “ราชันชุดขาว” บุกไปแพ้ 0-1 สำหรับผลการพบกันในสนามแห่งนี้นัดล่าสุดเกิดขึ้นในศึกโคปา เดล เรย์ รอบ 8 ทีมสุดท้าย เมื่อปี 2022 ปรากฎว่า แอธเลติก บิลเบา เปิดบ้านเฉือนชนะ 1-0
สถิติที่เคยพบกัน 5 เกมหลังสุด
ลาลีกา สเปน ปี 2021 : แอธเลติก บิลเบา แพ้ เรอัล มาดริด 0-1
ลาลีกา สเปน ปี 2021 : เรอัล มาดริด ชนะ แอธเลติก บิลเบา 1-0
ลาลีกา สเปน ปี 2021 : แอธเลติก บิลเบา แพ้ เรอัล มาดริด 1-2
ซูเปอร์โคปา เดอ เอสปันญ่า ปี 2022 : แอธเลติก บิลเบา แพ้ เรอัล มาดริด 0-2
โคปา เดล เรย์ ปี 2022 : แอธเลติก บิลเบา ชนะ เรอัล มาดริด 1-0
ความน่าจะเป็น
เหมือนอยู่ในช่วงสูญเสียความมั่นใจ ทำให้ เรอัล มาดริด โชว์ฟอร์มในช่วงหลังๆ ได้ไม่ดีนัก แต่ว่าพวกแข้งดังยังคงพร้อมรวมใจกันเพื่อกลับมาคว้าชัยได้ทุกเมื่อเลย ส่วน แอธเลติก บิลเบา อยู่ในช่วงทำผลงานได้ไม่ดีเลย หลังสะกดคำว่าชนะไม่เป็นมาแล้วถึง 3 นัด และเหมือนจะมีปัญหาพวกแข้งหลักฟอร์มฝืดกันถ้วนหน้า จึงถูกดร็อปเป็นตัวสำรองหลายคนเลย คาดว่า “ราชันชุดขาว” น่าจะมีโอกาสบุกไปเก็บ 3 คะแนนเต็มเอาไว้ได้
ผลที่คาด : แอธเลติก บิลเบา แพ้ เรอัล มาดริด 1-2
บทความนี้นับสนุนโดย Siam99 เว็บคาสิโนออนไลน์ที่นึ่งในประเทศไทย