วิเคราะห์ฟุตบอล ลาลีกา เซบีญ่า VS เรอัล มาดริด 

วิจารณ์บอลลาลีกา เซบีญ่า VS เรอัล มาดริด 28.5.2023

“ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด เตรียมได้ วินิซิอุส จูเนียร์ พ้นโทษแบนกลับมาช่วยเกมรุกนัดเยือน เซบีญ่า ในศึกฟุตบอลลาลีกา สเปน คืนวันที่ 27 พ.ค.นี้ เพื่อลุ้นเก็บชัยแย่งชิงตำแหน่งรองจ่าฝูง 

ลาลีกา สเปน

เซบีญ่า VS เรอัล มาดริด

สนาม : เอสตาดิโอ รามอน ซานเชซ ปิซฆวน

เวลา : 24.00 น.

เซบีญ่า

ผลงาน 5 เกมหลังสุดในศึกลาลีกา

ลาลีกา สเปน : ชนะ แอธเลติก บิลเบา 1-0 (เยือน)

ลาลีกา สเปน : แพ้ คิโรน่า 0-2 (เหย้า)

ลาลีกา สเปน : ชนะ เอสปันญอล 3-2 (เหย้า)

ลาลีกา สเปน : ชนะ เรอัล บายาโดลิด 3-0 (เยือน)

ลาลีกา สเปน : เสมอ เรอัล เบติส 0-0 (เหย้า)

คาดว่ากุนซือ โฆเซ่ เมนดิลิบาร์ จะปรับทัพบางตำแหน่ง เพื่อลุ้นเก็บชัยทำอันดับขึ้นไปอีก โดยตอนนี้อยู่อันดับ 9 แข่ง 36 นัด มี 51 คะแนน แม้จะมีนักเตะได้รับบาดเจ็บอยู่บ้าง แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อการจัดทีมลงสนาม เพราะใช้งานพวกแข้งหลักได้อีกหลายราย  

11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามเป็นตัวจริงตามแผนการเล่นแบบ 4-2-3-1

มาร์โก ดมิโทรวิช, เนมันย่า กูเดลจ์, คาริม เรกิก, กอนซาโล มอนเทียล, มาร์กอส อคูญ่า, แฟร์นันโด้, อีวาน ราคิติช, ลูคัส โอคัมโปส, โอลิเวอร์ ตอร์เรส, เอริค ลาเมล่า, ยูสเซฟ เอ็น-เนซิรี่

ผู้รักษาประตู : ไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงไปจาก มาร์โก ดมิโทรวิช พร้อมลงไปยืนเฝ้าเสาเป็นตัวจริง เพราะถูกวางตัวให้สวมบทเป็นมือหนึ่งในช่วงหลังๆ ส่วนในรายของ ยาสซีน โบโน่ เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองต่อไป เพราะถูกจับวางให้เป็นมือสองไปเสียแล้ว

แนวรับ : พร้อมให้ เนมันย่า กูเดลจ์ ขยับจากมิดฟิลด์ลงไปยืนเป็นกองหลังคู่กับ คาริม เรกิก เหมือนอย่างในหลายๆ เกมที่ผ่านมา ส่วนแบ็กซ้ายน่าจะให้ มาร์กอส อคูญ่า ลงไปยืนประจำการ โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ กอนซาโล มอนเทียล ในตำแหน่งแบ็กขวา ทำให้ โลอิค บาเด้, อเล็กซ์ เตลเลส รวมถึง เฆซุส นาบาส เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองเหมือนเดิม แต่หมดสิทธิ์ใช้งาน ตองกีย์ นิเอ็นซู และ มาร์เคา ยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บ 

แดนกลาง : หมดสิทธิ์ใช้งาน โฆน จอร์แดน เจอโรคเดี้ยงเล่นงาน แต่พร้อมให้ แฟร์นันโด้ ยืนเป็นตัวคุมเกมร่วมกับ อีวาน ราคิติช ส่วนในรายของ เฆซุส โคโรน่า, ปาเป้ เกย์ และ ปาปู โกเมซ เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองทั้งหมดเลย

แนวรุก : ส่อได้เห็น ยูสเซฟ เอ็น-เนซิรี่ ลงไปสวมบทเป็นกองหน้าตัวเป้า ส่วนตัวริมเส้นฝั่งซ้ายพร้อมให้ ลูคัส โอคัมโปส ลงไปยืนประจำการ เพราะน่าจะเป็นตัวเลือกแรกเหนือกว่า ไบรอัน กิล โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ เอริค ลาเมล่า ในตำแหน่งตัวริมเส้นฝั่งขวา ซึ่งน่าจะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในฐานะตัวเลือกแรกเหนือกว่า ซูโซ่ ขณะที่ โอลิเวอร์ ตอร์เรส พร้อมสวมบทเป็นเพลย์เมกเกอร์ในฐานะตัวปั้นเกม ทำให้ ราฟา เมียร์ เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองอยู่ที่ข้างสนาม       

เรอัล มาดริด 

ผลงาน 5 เกมหลังสุดในศึกลาลีกา

ลาลีกา สเปน : แพ้ คิโรน่า 2-4(เยือน) 

ลาลีกา สเปน : ชนะ อัลเมเรีย 4-2 (เหย้า)

ลาลีกา สเปน : แพ้ เรอัล โซเซียดัด 0-2 (เยือน)

ลาลีกา สเปน : ชนะ เกตาเฟ่ 1-0 (เหย้า)

ลาลีกา สเปน : แพ้ บาเลนเซีย 0-1 (เยือน)

คาดว่ากุนซือ คาร์โล อันเชลอตติ จะปรับทัพบางตำแหน่ง เพื่อลุ้นเก็บชัยกลับขึ้นไปยึดรองจ่าฝูง โดยตอนนี้อยู่อันดับ 3 แข่ง 36 นัด มี 74 คะแนน จึงพร้อมให้พวกแข้งหลักออกสตาร์ทเป็นตัวจริงเกือบทั้งหมดเลย เพราะมีนักเตะขาดหายไปเพียงแค่ไม่กี่คนเท่านั้น  

11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามเป็นตัวจริงตามแผนการเล่นแบบ 4-3-3

ธีโบต์ กูร์ตัวส์, ดาวิด อลาบา, เอแดร์ มิลิเทา, ลูคัส บาซเกซ, แฟร์ลองด์ เมนดี้, เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้, โทนี่ โครส, โอเรเลียง ชูอาเมนี่, วินิซิอุส จูเนียร์, โรดรีโก้ โกเอส, คาริม เบนเซม่า

ผู้รักษาประตู : พร้อมให้ ธีโบต์ กูร์ตัวส์ ลงไปยืนเฝ้าเสาเป็นตัวจริงเหมือนเดิม เพราะได้สวมบทบาทเป็นมือหนึ่งอยู่แล้วนั่นเอง ส่วนในรายของ อังเดร ลูนิน เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองในฐานะมือสองเหมือนอย่างนัดที่แล้ว

แนวรับ : เตรียมได้เห็น เอแดร์ มิลิเทา ยืนเป็นตัวหลักในแดนหลัง และน่าจะให้ ดาวิด อลาบา ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงเพื่อลงไปยืนคู่กันไปเลย ส่วนแบ็กซ้ายพร้อมให้ แฟร์ลองด์ เมนดี้ ลงไปยืนประจำการ โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ ลูคัส บาซเกซ ซึ่งน่าจะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในตำแหน่งแบ็กขวาเหนือกว่า ดานี่ คาร์บาฆัล ทำให้ นาโช่ แฟร์นันเดซ, อัลบาโร่ โอดริโอโซล่า, เฆซุส บาเยโฆ่ รวมถึง อันโตนิโอ รูดิเกอร์ เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองไปก่อน

แดนกลาง : น่าจะให้ เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้ ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในแผงมิดฟิลด์ และส่อให้ โอเรเลียง ชูอาเมนี่ รวมถึง โทนี่ โครส ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงด้วยเช่นกัน ส่วนในรายของ ลูก้า โมดริช น่าจะนั่งเป็นตัวสำรอง เช่นเดียวกับ เอดูอาร์โด้ คามาวิงก้า รวมถึง ดานี่ เซบายอส ขณะที่ 2 เด็กปั้นจากทีมเยาวชน นั่นก็คือ เซร์คิโอ อาร์ริบาส และ มาริโอ มาร์ติน ไม่น่าจะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงอยู่แล้ว

แนวรุก : ยังคงให้   เป็นตัวหลักในแดนหน้าเพื่อยืนเป็นหัวหอกไปเลย และจะได้ วินิซิอุส จูเนียร์ พ้นโทษแบนพร้อมกลับมาสวมบทเป็นตัวริมเส้นทางฝั่งซ้าย โดยจะยืนอยู่ตรงข้ามกับ โรดรีโก้ โกเอส น่าจะได้ลงไปสวมบทเป็นตัวริมเส้นฝั่งขวา ส่วนในรายของ มาร์โก อเซนซิโอ เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองไปก่อน แต่หมดสิทธิ์ใช้งาน มาเรียโน่ ดิอาซ รวมถึง เอแด็ง อาซาร์ ยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บ    

สถิติการพบกันเอง

สำหรับคู่นี้เคยดวลแข้งกันในทุกรายการมาแล้วทั้งหมด 61 เกม ปรากฎว่า เรอัล มาดริด มีสถิติเหนือกว่าเยอะเลย โดยเป็นฝ่ายชนะ 41 เกม เสมอ 5 เกม และแพ้ 15 เกม ส่วนผลการพบกันนัดล่าสุดในศึกลาลีกาเมื่อปี 2022 ปรากฎว่า “ราชันชุดขาว” เปิดบ้านชนะ 3-1 สำหรับผลการพบกันในสนามแห่งนี้นัดล่าสุดเกิดขึ้นในศึกลาลีกาเมื่อปี 2022 ปรากฎว่า เซบีญ่า เป็นฝ่ายแพ้คาบ้าน 2-3 

สถิติที่เคยพบกัน 5 เกมหลังสุด

ลาลีกา สเปน ปี 2020 : เซบีญ่า แพ้ เรอัล มาดริด 0-1

ลาลีกา สเปน ปี 2021 : เรอัล มาดริด เสมอ เซบีญ่า 2-2

ลาลีกา สเปน ปี 2021 : เรอัล มาดริด ชนะ เซบีญ่า 2-1

ลาลีกา สเปน ปี 2022 : เซบีญ่า แพ้ เรอัล มาดริด 2-3

ลาลีกา สเปน ปี 2022 : เรอัล มาดริด ชนะ เซบีญ่า 3-1

ความน่าจะเป็น

เกิดอาการเป๋ไปพอสมควร สำหรับ เรอัล มาดริด นับตั้งแต่กระเด็นตกรอบตัดเชือกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก จึงต้องลุ้นจบฤดูกาลนี้ด้วยตำแหน่งรองจ่าฝูงกันต่อไป หลังจากที่ชวดคว้าแชมป์ลาลีกาประจำฤดูกาลนี้ไปแล้ว แต่พร้อมให้พวกแข้งหลักลงสนามในหลายๆ ตำแหน่ง เพื่อเป็นการส่งท้ายในช่วงก่อนจบซีซั่นนี้นั่นเอง ส่วน เซบีญ่า ทำผลงานได้ดีขึ้นแบบต่อเนื่อง จึงได้ขยับจากโซนตกชั้นขึ้นมาปักหลักอยุ่ตรงกลางตารางคะแนนเรียบร้อยแล้ว แต่ว่าสมาธิอาจจะได้จดจำในเกมนัดชิงยูฟ่า ยูโรปาลีก ช่วงกลางสัปดาห์หน้าได้เหมือนกัน คาดว่า “ราชันชุดขาว” น่าจะเป็นฝ่ายบุกไปเก็บชัยได้แบบหวุดหวิด

ผลที่คาด : เซบีญ่า แพ้ เรอัล มาดริด 1-2 

บทความนี้นับสนุนโดย Siam99 เว็บคาสิโนออนไลน์ที่นึ่งในประเทศไทย

บทความเพิ่มเติม

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *