ลาลีกา สเปน
โอซาซูน่า VS เรอัล มาดริด
สนาม : เอสตาดิโอ เอล ซาดาร์
เวลา : 03.00 น.
โอซาซูน่า
ผลงาน 5 เกมหลังสุดในศึกลาลีกา
ลาลีกา สเปน : ชนะ เรอัล มายอร์ก้า 1-0 (เหย้า)
ลาลีกา สเปน : เสมอ เอลเช่ 1-1 (เยือน)
ลาลีกา สเปน : แพ้ แอตเลติโก มาดริด 0-1 (เหย้า)
ลาลีกา สเปน : เสมอ เอสปันญ่อล 1-1 (เยือน)
ลาลีกา สเปน : เสมอ เรอัล บายาโดลิด 0-0 (เยือน)
คาดว่ากุนซือ โฆโกบา อาร์ราซาเต้ จะปรับทัพบางตำแหน่ง เพื่อลุ้นกลับมาคว้าชัยอีกครั้ง หลังสะกดคำว่าชนะไม่เป็นมาแล้วถึง 4 เกมติดต่อกัน โดยตอนนี้อยู่อันดับ 9 แข่ง 21 นัด มี 30 คะแนน แม้จะมีนักเตะขาดหายไปบางราย แต่ว่าพวกแข้งหลักยังคงพร้อมออกสตาร์ทเป็นตัวจริงเกือบทั้งหมด
11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามเป็นตัวจริงตามแผนการเล่นแบบ 4-3-3
ไอตอร์ เฟร์นันเดซ, ฆวน ครูช, อารีดาน เอร์นันเดซ, มานู ซานเชซ, จอน มอนคาโยล่า, มอย โกเมซ, ลูคัส ตอร์โร่, ปาโบล อิบาเนซ, กิเก้ บาร์ฆา, เอเซเกียล อาบีล่า, อันเต้ บูดิเมียร์
ผู้รักษาประตู : ยังคงเป็นหน้าที่ของ ไอตอร์ เฟร์นันเดซ พร้อมยืนเฝ้าเสาต่อไป เพราะสวมบทเป็นมือหนึ่งอยู่แล้วนั่นเอง ส่วนในรายของ เซร์คิโอ เอร์เรร่า เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองในฐานะมือสองเหมือนเดิม
แนวรับ : เตรียมให้ ฆวน ครูช ยืนเป็นกองหลังคู่กับ อารีดาน เอร์นันเดซ ส่วนแบ็กซ้ายยังคงเป็นหน้าที่ของ มานู ซานเชซ โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ จอน มอนคาโยล่า ในตำแหน่งแบ็กขวา ทำให้ อูไน การ์เซีย, ดาบิด การ์เซีย, รูเบน เปญ่า, ฆอร์เก้ เอร์รานโด้ และ ดิเอโก้ โมเรโน่ เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองอยู่ที่ข้างสนามทั้งหมดเลย ขณะที่ นาโช่ บิดัล หมดสิทธิ์ลงสนามอยู่แล้ว เพราะต้องพักรักษาโรคเดี้ยงต่อไ
แดนกลาง : ไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงไปจาก 3 ประสาน นั่นก็คือ มอย โกเมซ, ลูคัส ตอร์โร่ และ ปาโบล อิบาเนซ เพราะเป็น 3 ตัวหลักในแผงมิดฟิลด์อยู่แล้ว ส่วนในรายของ ดาร์โก้ บราซาเน็ช และ รูเบน การ์เซีย ไม่น่าจะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง แต่นั่งเป็นตัวสำรองอยู่ที่ข้างสนามกันต่อไป แต่หมดสิทธิ์ใช้งาน ไอมาร์ ออร์ออซ ต้องพักรักษาอากาบาดเจ็บไปก่อน
แนวรุก : พร้อมใช้ 3 ประสานเตรียมได้เห็น กิเก้ บาร์ฆา สวมบทเป็นปีกซ้าย โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ เอเซเกียล อาบีล่า ในตำแหน่งปีกขวา ส่วนกองหน้าตัวเป้ายังคงเป็น อันเต้ บูดิเมียร์ เหมือนเดิม ส่วนในรายของ อับเด เอซซัลซูลี่ พ้นโทษแบนพร้อมกลับมาช่วยทีมอีกครั้ง แต่ว่าน่าจะต้องนั่งเป็นตัวสำรอง เช่นเดียวกับ กิเก้ การ์เซีย ซึ่งไม่น่าจะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงอยู่แล้ว
เรอัล มาดริด
ผลงาน 5 เกมหลังสุดในศึก
ลาลีกา สเปน : ชนะ แอธเลติก บิลเบา 2-0 (เยือน)
ลาลีกา สเปน : เสมอ เรอัล โซเซียดัด 0-0 (เหย้า)
ลาลีกา สเปน : ชนะ บาเลนเซีย 2-0 (เหย้า)
ลาลีกา สเปน : แพ้ เรอัล มายอร์ก้า 0-1 (เยือน)
ลาลีกา สเปน : ชนะ เอลเช่ 4-0 (เหย้า)
คาดว่ากุนซือ คาร์โล อันเชลอตติ จะปรับทัพบางตำแหน่ง เพื่อลุ้นเก็บชัยไล่ตามทีมจ่าฝูงต่อไป โดยตอนนี้รั้งอันดับ 2 แข่ง 21 นัด มี 48 คะแนน และไล่ตามหลัง บาร์เซโลน่า ทีมอันดับ 1 ห่างถึง 8 แต้มเลยด้วย แม้จะมีนักเตะขาดหายไปบ้าง แต่ว่าพวกแข้งหลักยังคงพร้อมลงเล่นตั้งแต่นาทีแรกหลายคนเลย
11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามเป็นตัวจริงตามแผนการเล่นแบบ 4-3-3
อังเดร ลูนิน, ดาวิด อลาบา, อันโตนิโอ รูดิเกอร์, เอดูอาร์โด้ คามาวิงก้า, ดานี่ คาร์บาฆัล, ลูก้า โมดริช, โทนี่ โครส, โอเรเลียง ชูอาเมนี่, เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้, วินิซิอุส จูเนียร์, คาริม เบนเซม่า
ผู้รักษาประตู : ส่อไร้ ธีโบต์ กูร์ตัวส์ มีปัญหาบาดเจ็บรบกวน แม้จะใกล้ฟื้นตัวกลับมาลงสนามได้อีกครั้ง แต่มีโอกาสไม่ผ่านความฟิตได้เหมือนกัน จึงพร้อมให้มือสอง นั่นก็คือ อังเดร ลูนิน ลงไปยืนเฝ้าเสาเป็นตัวจริงเหมือนเดิม และน่าจะให้ หลุยส์ โลเปซ นั่งเป็นตัวสำรองในตำแหน่งนี้ไปเลย
แนวรับ : พร้อมให้ ดาวิด อลาบา ลงไปยืนเป็นกองหลังคู่กับ อันโตนิโอ รูดิเกอร์ ส่วนแบ็กซ้ายยังคงไร้ แฟร์ลองด์ เมนดี้ จึงพร้อมขยับ เอดูอาร์โด้ คามาวิงก้า จากตำแหน่งมิดฟิลด์ให้ถอยลงไปสวมบทบาทนี้ไปก่อน โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ ดานี่ คาร์บาฆัล ในตำแหน่งแบ็กขวา จึงเตรียมเห็น เอแดร์ มิลิเทา, อัลบาโร่ โอดริโอโซล่า, นาโช แฟร์นันเดซ และ เฆซุส บาเยโฆ่ นั่งเป็นตัวสแตนบายเหมือนเช่นเคย แต่หมดสิทธิ์ใช้งาน ลูคัส บาซเกซ เพราะว่ายังไม่หายเดี้ยงนั่นเอง
แดนกลาง : เตรียมจัดเต็มไปเลย เพราะว่า 3 ประสานยังคงอยู่ทั้งหมดเลย ไม่ว่าจะเป็น ลูก้า โมดริช, โทนี่ โครส รวมถึง โอเรเลียง ชูอาเมนี่ เพราะเป็นตัวหลักในแผงแดนกลางอยู่แล้ว ทำให้ ดานี่ เซบายอส, มาริโอ มาร์ติน รวมถึง เซร์คิโอ อาร์ริบาส เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองเพื่อรอโอกาสลงสนามกันต่อไป
แนวรุก : หมดสิทธิ์ใช้งาน เอแด็ง อาซาร์ ยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บ แต่ไม่ได้เป็นตัวหลักในแดนหน้าอยู่แล้ว จึงพร้อมให้ เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้ สวมบทเป็นปีกขวา โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ วินิซิอุส จูเนียร์ พ้นโทษแบนพร้อมกลับมาสวมบทเป็นปีกซ้ายตามเดิม ส่วนในรายของ คาริม เบนเซม่า เตรียมยืนเป็นกองหน้าตัวเป้าได้เลย ทำให้ โรดรีโก้ โกเอส, มาร์โก อเซนซิโอ และ มาเรียโน่ ดิอาซ เตรียมเป็นตัวสแตนบายเหมือนอย่างนัดที่แล้ว
สถิติการพบกันเอง
สำหรับคู่นี้เคยดวลแข้งกันในทุกรายการมาแล้วทั้งหมด 41 เกม ปรากฎว่า เรอัล มาดริด มีสถิติเหนือกว่าเยอะเลย โดยเป็นฝ่ายชนะ 26 เกม เสมอ 10 เกม และแพ้ 5 เกม ส่วนผลการพบกันนัดล่าสุดในศึกลาลีกาเมื่อปี 2022 ปรากฎว่า “ราชันชุดขาว” เปิดบ้านเสมอ 1-1 สำหรับผลการพบกันในสนามแห่งนี้นัดล่าสุดเกิดขึ้นในศึกลาลีกาเมื่อปี 2022 ปรากฎว่า โอซาซูน่า เป็นฝ่ายแพ้คาบ้าน 1-3
สถิติที่เคยพบกัน 5 เกมหลังสุด
ลาลีกา สเปน ปี 2021 : โอซาซูน่า เสมอ เรอัล มาดริด 0-0
ลาลีกา สเปน ปี 2021 : เรอัล มาดริด ชนะ โอซาซูน่า 2-0
ลาลีกา สเปน ปี 2021 : เรอัล มาดริด เสมอ โอซาซูน่า 0-0
ลาลีกา สเปน ปี 2022 : โอซาซูน่า แพ้ เรอัล มาดริด 1-3
ลาลีกา สเปน ปี 2022 : เรอัล มาดริด เสมอ โอซาซูน่า 1-1
ความน่าจะเป็น
เพราะว่าไล่ตามหลัง บาร์เซโลน่า ทีมจ่าฝูงอยู่หลายแต้มเริ่มห่างกันมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ เรอัล มาดริด พร้อมเดินหน้าเก็บชัยเพื่อทำให้ช่องว่างของคะแนนลดลง และจะได้ วินิซิอุส จูเนียร์ พ้นโทษแบนกลับมาช่วยแนวรุกด้วย ส่วน โอซาซูน่า โชว์ฟอร์มโดยรวมได้ไม่ดีเลย เพราะไม่พบกับชัยชนะมาแล้วถึง 4 เกม แต่เป็นการลงเอยด้วยผลเสมอถึง 3 เกมเลยด้วย คาดว่า “ราชันชุดขาว” มีดีพอสำหรับการบุกไปคว้าชัยกลับบ้านได้สำเร็จ
ผลที่คาด : โอซาซูน่า แพ้ เรอัล มาดริด 1-3
บทความนี้นับสนุนโดย Siam99 เว็บคาสิโนออนไลน์ที่นึ่งในประเทศไทย