วิเคราะห์ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูล VS เอฟเวอร์ตัน

วิจารณ์บอลพรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูล VS เอฟเวอร์ตัน 13.02.23

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

ลิเวอร์พูล VS เอฟเวอร์ตัน

สนาม : แอนฟิลด์

เวลา : 03.00 น.

ลิเวอร์พูล

ผลงาน 5 เกมหลังสุด

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : ชนะ เลสเตอร์ 2-1 (เหย้า)

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : แพ้ เบรนท์ฟอร์ด 1-3 (เยือน)

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : แพ้ ไบรท์ตัน 0-3 (เยือน)

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : เสมอ เชลซี 0-0 (เหย้า)

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : แพ้ วูล์ฟแฮมป์ตัน 0-3 (เยือน)

คาดว่ากุนซือ เจอร์เกน คลอปป์ จะปรับทัพจากเกมล่าสุดที่บุกไปแพ้ วูล์ฟแฮมป์ตัน 0-3 ในศึกพรีเมียร์ลีก เพื่อลุ้นกับมาคว้าชัยในเกมลีกสูงสุดเมืองผู้ดีอีกครั้ง หลังสะกดคำว่าชนะไม่เป็นมาแล้วถึง 4 เกม จึงต้องอยู่ตรงกลางตารางคะแนนในอันดับ 10 แข่ง 20 นัด มี 29 คะแนน แม้จะเผชิญหน้ากับปัญหานักเตะได้รับบาดเจ็บหลายราย จึงอาจจะมีปัญหากับการจัดทัพบางตำแหน่ง แต่ไม่น่าจะส่งผลกระทบมากนัก เพราะใช้งานพวกแข้งหลักได้อีกหลายคนเลย 

11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามเป็นตัวจริงตามแผนการเล่นแบบ 4-3-3

อลิสซอน เบ็คเกอร์, โจ โกเมซ, โจเอล มาทิป, แอนดี้ โรเบิร์ตสัน, เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์, สเตฟาน บายเซติช, ติอาโก้ อัลคานทาร่า, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, โคดี้ กัคโป, ดาร์วิน นูนเญซ, โมฮาเหม็ด ซาล่าห์

ผู้รักษาประตู : ไม่เปลี่ยนแปลงไปจากมือหนึ่ง นั่นก็คือ อลิสซอน เบ็คเกอร์ เพราะยังคงได้รับความไว้วางใจให้ยืนเฝ้าเสาเป็นตัวจริงต่อไป ส่วนในรายของ ควีวิน เคลเลเฮอร์ นายด่านมือสองเตรียมนั่งเป็นตัวสำรองเหมือนอย่างนัดที่แล้ว

แนวรับ : ส่อให้ โจ โกเมซ ลงไปยืนเป็นกองหลังคู่กับ โจเอล มาทิป เหมือนอย่างนัดก่อน เนื่องจาก เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ ยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บ เช่นเดียวกับ อิบราฮิม่า โกนาเต้ ซึ่งต้องพักรักษาโรคเดี้ยงต่อไป ส่วนแบ็กซ้ายพร้อมให้ แอนดี้ โรเบิร์ตสัน ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงอยู่แล้ว ทำให้ คอสตาส ซิมิคาส เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองในตำแหน่งนี้เหมือนเดิม โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ซึ่งพร้อมยืนทำหน้าที่เป็นแบ็กขวาอยู่แล้ว ขณะที่ นาธาเนียล ฟิลลิปส์ รวมถึง เจมส์ มิลเนอร์ เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองตามเดิม 

แดนกลาง : น่าจะดร็อป นาบี้ เกอิต้า กลับมานั่งเป็นตัวสำรอง เช่นเดียวกับ ฟาบินโญ่ ซึ่งประสบปัญหาฟอร์มตกอย่างหนัก โดยพร้อมให้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน หวนกลับมายืนคุมเกมร่วมกับ ติอาโก้ อัลคานทาร่า และพร้อมให้ สเตฟาน บายเซติช มิดฟิลด์ดาวรุ่งออกสตาร์ทเป็นตัวจริงด้วยเช่นกัน ทำให้ ฮาร์วีย์ เอลเลียต กับ เคอร์ติส โจนส์ เตรียมนั่งอยู่ที่ข้างสนามไปก่อน ส่วนในรายของ อาร์ตูร์ เมโล่ ยังไม่มีทีท่าว่าจะฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บเสียที

แนวรุก : ยังคงมีปัญหาฝืดเคืองจากการยิงประตูได้น้อยเหลือเกิน และมีนักเตะเจอโรคเดี้ยงตามเล่นงานแบบยาวเป็นหางว่าวเลยด้วย ไล่ตั้งแต่ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, ดิโอโก้ โจต้า รวมถึง หลุยส์ ดิอาซ ซึ่งยังคงต้องพักรักษาตัวต่อไป จึงน่าจะใช้งาน 3 ประสานเหมือนอย่างนัดที่แล้ว โดยพร้อมให้ โคดี้ กัคโป สวมบทเป็นปีกซ้ายต่อไป แม้จะยังประเดิมยิงประตูแรกไม่ได้เลยก็ตาม นับตั้งแต่ย้ายมาจาก พีเอสวี ไอน์ดโฮเฟ่น ในช่วงเปิดตลาดหน้าหนาว ส่วนในรายของ โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ พร้อมยืนประจำการในตำแหน่งปีกขวาเหมือนเดิม เพื่อประสานงานกับ ดาร์วิน นูนเญซ พร้อมยืนเป็นกองหน้าตัวเป้าเหมือนอย่างนัดที่แล้ว ทำให้ ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ กับ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน เตรียมนั่งเป็นตัวสแตนบายอยู่ที่ข้างสนามทั้งคู่เลย         

เอฟเวอร์ตัน

ผลงาน 5 เกมหลังสุดในศึกพรีเมียร์ลีก

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : เสมอ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-1 (เยือน)

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : แพ้ ไบรท์ตัน 1-4 (เหย้า)

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : แพ้ เซาแธมป์ตัน 1-2 (เหย้า)

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : แพ้ เวสต์แฮม 0-2 (เยือน)

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : ชนะ อาร์เซนอล 1-0 (เหย้า)

คาดว่ากุนซือ ฌอน ไดซ์ จะปรับทัพจากเกมล่าสุดที่เปิดบ้านชนะ อาร์เซนอล 1-0 ในศึกพรีเมียร์ลีก เพื่อลุ้นเก็บชัยหนีจากโซนท้ายตารางคะแนนกันต่อไป โดยตอนนี้ยังอยู่อันดับ 18 แข่ง 21 นัด มี 18 คะแนน และกลับมามีบรรยากาศที่คึกคักในช่วงหลังจากที่ได้กุนซือคนใหม่ จึงพร้อมจัดผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนามไปเลย แม้จะมีนักเตะได้รับบาดเจ็บอยู่บ้าง แต่ว่าพวกแข้งหลักยังคงพร้อมออกสตาร์ทเป็นตัวจริงเหมือนเดิม

11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามเป็นตัวจริงตามแผนการเล่นแบบ 4-4-1-1

จอร์แดน พิคฟอร์ด, คอเนอร์ โคดี้, เจมส์ ทาร์คอฟสกี้, เซมุส โคลแมน, วิตาลี่ มีโคเลนโก้, ดไวท์ แม็คนีล, อเล็กซ์ อิโวบี้, อิดริสซ่า เกย์, อมาดู โอนาน่า, อับดูลาย ดูคูเร่, โดมินิค คัลเวิร์ต-เลวิน

ผู้รักษาประตู : พร้อมให้ จอร์แดน พิคฟอร์ด ยืนเฝ้าเสาเป็นมือหนึ่งเหมือนเดิม ส่วนในรายของ อัสเมียร์ เบโกวิช เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองในฐานะมือสองต่อไป

แนวรับ : หมดสิทธิ์ใช้งาน ไมเคิล คีน ยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บ จึงพร้อมให้ คอเนอร์ โคดี้ ยืนเป็นกองหลังคู่กับ เจมส์ ทาร์คอฟสกี้ ส่วนในรายของ เซมุส โคลแมน สวมบทเป็นแบ็กขวาเหมือนอย่างนัดที่แล้ว โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ วิตาลี่ มีโคเลนโก้ ในตำแหน่งแบ็กซ้าย ทำให้ เมสัน โฮลเกต, เยร์รี่ มีน่า รวมถึง เบน ก็อดฟรีย์ นั่ฃเป็นตัวสำรองทั้งหมดเลย  

แดนกลาง : ไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงไปจาก อิดริสซ่า เกย์ ยืนคุมเกมร่วมกับ อมาดู โอนาน่า โดยพร้อมให้ ดไวท์ แม็คนีล สวมบทเป็นปีกขวา ซึ่งจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ อเล็กซ์ อิโวบี้ ในตำแหน่งปีกซ้าย ส่วนในรายของ เจมส์ การ์เนอร์ รวมถึง อันดรอส ทาว์นเซ่นด์ ยังคงต้องพักรักษาโรคเดี้ยงต่อไป ขณะที่ ทอม เดวิส, ดามาราย เกรย์ และ รูเบน วินาเกร เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองเหมือนอย่างนัดที่แล้ว    

แนวรุก : เตรียมให้ อับดูลาย ดูคูเร่ ขยับขึ้นมาสวมบทเป็นเพลย์เมกเกอร์ในฐานะตัวปั้นเกมเหมือนอย่างนัดก่อน และพร้อมให้ โดมินิค คัลเวิร์ต-เลวิน ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้าอย่างแน่นอน ทำให้ นีล โมเปย์ เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองเหมือนเดิม   

สถิติการพบกันเอง

สำหรับคู่นี้เคยดวลแข้งกันในทุกรายการมาแล้วทั้งหมด 200 เกม ปรากฎว่า ลิเวอร์พูล มีสถิติเหนือกว่าเยอะเลย โดยเป็นฝ่ายชนะ 80 เกม เสมอ 67 เกม และแพ้ 53 เกม ส่วนผลการพบกันนัดล่าสุดในศึกพรีเมียร์ลีกเมื่อปี 2022 ปรากฎว่า “หงส์แดง” บุกไปเสมอ 0-0 สำหรับผลการพบกันในสนามแห่งนี้นัดล่าสุดเกิดขึ้นในศึกพรีเมียร์ลีกเมื่อปี 2022 ปรากฎว่า เอฟเวอร์ตัน บุกไปแพ้ 0-2

สถิติที่เคยพบกัน 5 เกมหลังสุด

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ปี 2020 : เอฟเวอร์ตัน เสมอ ลิเวอร์พูล 2-2

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ปี 2021 : ลิเวอร์พูล แพ้ เอฟเวอร์ตัน 0-2

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ปี 2021 : เอฟเวอร์ตัน แพ้ ลิเวอร์พูล 1-4

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ปี 2022 : ลิเวอร์พูล ชนะ เอฟเวอร์ตัน 2-0

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ปี 2022 : เอฟเวอร์ตัน เสมอ ลิเวอร์พูล 0-0

ความน่าจะเป็น

เพราะเป็นศึกแห่งศักดิ์ศรี “เมอร์ซีย์ไซด์ดาร์บี้แมทช์” ทำให้ทั้งสองทีมคู่ปรับร่วมเมืองเดียวกันพร้อมสู้กันแบบเต็มที่เพื่อเป้าหมายคือชัยชนะนั่นเอง แต่เป็นเพราะว่า ลิเวอร์พูล ทำผลงานในช่วงหลังได้อย่างย่ำแย่แบบต่อเนื่อง ส่วน เอฟเวอร์ตัน เริ่มฟื้นตัวในช่วงหลังเปลี่ยนตัวกุนซือ คาดว่าทั้งสองทีมน่าจะเล่นกันแบบระมัดระวังตัว จึงมีโอกาสลงเอยด้วยผลเสมอได้เหมือนกัน

ผลที่คาด : ลิเวอร์พูล เสมอ เอฟเวอร์ตัน 0-0

บทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับพรีเมียร์ลีกอังกฤษ

บทความนี้นับสนุนโดย Siam99 เว็บคาสิโนออนไลน์ที่นึ่งในประเทศไทยสมัครตอนนี้รับตั๋ว5ใบทันที

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *