“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล น่าจะดร็อป ดาร๋วิน นูนเญซ และส่อให้ โคดี้ กัคโป ยืนเป็นกองหน้านัดต้อนรับ “ไก่เดือยทอง” ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ ในศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันที่ 30 เม.ย.นี้ เพื่อแย่งกันเก็บชัยลุ้นคว้าตั๋วไปโชว์ฝีเท้าในศึกลูกหนังสโมสรยุโรปกันต่อไป
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ลิเวอร์พูล VS ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์
สนาม : แอนฟิลด์
เวลา : 22.30 น.
ลิเวอร์พูล
ผลงาน 5 เกมหลังสุดในศึกพรีเมียร์ลีก
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : แพ้ แมนเชนเตอร์ ซิตี้ 1-4 (เยือน)
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : เสมอ เชลซี 0-0 (เยือน)
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : เสมอ อาร์เซนอล 2-2 (เหย้า)
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : ชนะ ลีดส์ ยูไนเต็ด 6-1 (เยือน)
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : ชนะ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 3-2 (เหย้า)
คาดว่ากุนซือ เจอร์เกน คลอปป์ จะปรับทัพบางตำแหน่ง เพื่อลุ้นคว้าชัยตามล่าพื้นที่ได้สิทธิ์ไปเล่นในศึกฟุตบอลสโมสรยุโรปช่วงฤดูกาลหน้า โดยตอนนี้อยู่อันดับ 6 แข่ง 32 นัด มี 53 คะแนน แม้จะมีนักเตะเจอโรคเดี้ยงอยู่หลายราย แต่ว่าเป็นพวกหน้าเดิมๆ ที่ต้องพักรักษาอาการบาดเจ็บอยู่แล้ว ส่วนพวกแข้งหลักยังคงพร้อมออกสตาร์ทเป็นตัวจริงได้เกือบทั้งหมด และได้แข้งดังบางรายหายเจ็บกลับมาช่วยทีมได้แล้วด้วย
11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามเป็นตัวจริงตามแผนการเล่นแบบ 4-3-3
อลิสซอน เบ็คเกอร์, เฟอร์กิล ฟาน ไดค์, โจเอล มาทิป, แอนดี้ โรเบิร์ตสัน, เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ฟาบินโญ่, ติอาโก้ อัลคานทาร่า, โคดี้ กัคโป, โมฮาเหม็ด ซาล่าห์, ดิโอโก้ โจต้า
ผู้รักษาประตู : ยังคงเป็นหน้าที่ของมือหนึ่ง นั่นก็คือ อลิสซอน เบ็คเกอร์ พร้อมออกสตาร์ทเป็นตัวจริงเพื่อยืนเฝ้าเสาตั้งแต่นาทีแรกเหมือนเดิม ส่วนในรายของ ควีวิน เคลเลเฮอร์ เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองในฐานะมือสองต่อไป
แนวรับ : ไม่มี อิบราฮิม่า โกนาเต้ ต้องพักรักษาอาการบาดเจ็บไปก่อน จึงน่าจะให้ โจเอล มาทิป ลงไปยืนเป็นกองหลังคู่กับ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ ซึ่งพร้อมเป็นแกนหลักในแดนหลังอยู่แล้ว ส่วนแบ็กซ้ายพร้อมให้ แอนดี้ โรเบิร์ตสัน ลงไปยืนประจำการเหมือนเช่นเคย โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ในตำแหน่งแบ็กขวา ทำให้ คอสตาส ซิมิคาส, โจ โกเมซ, นาธาเนียล ฟิลลิปส์ และ เจมส์ มิลเนอร์ ต้องนั่งเป็นตัวสแตนบายอยู่ที่ข้างสนาม แต่ยังคงไร้ คัลวิน แรมซีย์ ต้องพักรักษาโรคเดี้ยงเหมือนเดิม
แดนกลาง : พร้อมให้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ยืนคุมเกมเป็นตัวหลักร่วมกับ ฟาบินโญ่ และน่าจะให้ ติอาโก้ อัลคานทาร่า ลงไปประสานงานด้วยเช่นกัน ทำให้ เคอร์ติส โจนส์ กับ ฮาร์วีย์ เอลเลียต ต้องรอโอกาสลงสนามไปก่อน แต่หมดสิทธิ์ใช้งาน สเตฟาน บายเซติช กับ นาบี้ เกอิต้า เจอโรคเดี้ยงเล่นงาน ส่วนในรายของ อาร์ตูร์ เมโล่ ยังคงอยู่ในช่วงฟื้นฟูสภาพร่างกายให้กลับมาฟิตสมบูรณ์แบบเต็มร้อย จึงไม่น่าจะมีส่วนร่วมกับเกมนี้ค่อนข้างแน่
แนวรุก : ขาดเพียงแค่ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ เจออาการบาดเจ็บเล่นงาน และไม่น่าจะให้ ดาร๋วิน นูนเญซ ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง เพราะน่าจะให้ โคดี้ กัคโป ลงไปสวทบทเป็นกองหน้าตัวเป้า และวางตัว โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ลงไปสวมบทเป็นตัวรุกทางริมเส้นด้านขวา โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ ดิโอโก้ โจต้า ในตำแหน่งริมเส้นด้านซ้าย ส่วนในรายของ หลุยส์ ดิอาซ เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองไปก่อน แม้จะฟิตกลับมามีส่วนร่วมทีมกับทีมได้แล้วก็ตาม ขณะที่ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน และ ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ ไม่น่าจะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงอยู่แล้ว
ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์
ผลงาน 5 เกมหลังสุดในศึกพรีเมียร์ลีก
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : เสมอ เซาแธมป์ตัน 3-3 (เยือน)
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : เสมอ เอฟเวอร์ตัน 1-1 (เยือน)
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : ชนะ ไบรท์ตัน 2-1 (เหย้า)
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : แพ้ บอร์นมัธ 2-3 (เหย้า)
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : แพ้ นิวคาสเซิ่ล 1-6 (เยือน)
คาดว่า ไรอัน เมสัน กุนซือขัดตาทัพจะปรับทัพบางตำแหน่ง เพื่อเรียกฟอร์มเก่งกลับคืนมาให้ได้อีกครั้ง และจะได้แย่งชิงพื้นที่ “ท็อปโฟร์” ใน 4 อันดับแรกต่อไป โดยตอนนี้อยู่อันดับ 7 แข่ง 32 นัด มี 53 คะแนน จึงพร้อมให้พวกแข้งหลักลงเล่นเป็นตัวจริงหลายคนเลย เพราะว่าหมดสิทธิ์ใช้งานพวกผู้เล่นหน้าเดิมๆ ที่ยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บนั่นเอง
11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามเป็นตัวจริงตามแผนการเล่นแบบ 3-4-2-1
ฟราเซอร์ ฟอร์สเตอร์, เอริค ไดเออร์, คริสเตียน โรเมโร่, เบน เดวิส, ปิแอร์ ฮอยเบิร์ก,โอลิเวอร์ สคิปป์, อีวาน เปริซิช, เอแมร์ซอน รอยัล, ซน ฮึง มิน, เดยัน คูลูเชฟสกี้, แฮร์รี่ เคน
ผู้รักษาประตู : เตรียมให้มือสอง นั่นก็คือ ฟราเซอร์ ฟอร์สเตอร์ ลงไปยืนเฝ้าเสาเป็นตัวจริงตั้งแต่นาทีแรก ส่วนในรายของ อูโก้ ยอริส ไม่ได้ทำหน้าที่เป็นมือหนึ่งอยู่แล้ว เพราะต้องพักรักษาอาการบาดเจ็บไปก่อน ทำให้ เบรนดอน ออสติน นายด่านดาวรุ่งเตรียมนั่งเป็นตัวสแตนบายอยู่ที่ข้างสนามไปก่อน
แนวรับ : พร้อมให้ คริสเตียน โรเมโร่ เป็นแกนหลักในแดนหลัง และน่าจะให้ เอริค ไดเออร์ รวมถึง เบน เดวิส ลงไปประสานงานด้วยกัน ส่วนในรายของ เกลมองต์ ลองก์เล่ต์, ดาวินซอน ซานเชซ รวมถึง จาเพ็ด ทานกานก้า เตรียมนั่งอยู่ที่ข้างสนามตามเดิม
แดนกลาง : ไม่มี โรดริโก้ เบนทานคูร์ กับ อีฟส์ บิสซูม่า ต้องพักรักษาโรคเดี้ยงเหมือนเดิม จึงน่าจะให้ โอลิเวอร์ สคิปป์ ลงไปยืนคุมเกมร่วมกับ ปิแอร์ ฮอยเบิร์ก ส่วนวิงแบ็กฝั่งซ้ายพร้อมให้ อีวาน เปริซิช ลงไปยืนประจำการในฐานะตัวเลือกอันดับแรกเหนือกว่า เอแมร์ซอน รอยัล โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ ไรอัน เซสเซญอง ในตำแหน่งวิงแบ็กฝั่งขวาตามเดิม ทำให้ ฮาร์วีย์ ไวท์ และ ปาเป้ มาตาร์ ซาร์ ไม่น่าจะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงเหมือนเช่นเคย
แนวรุก : ยังอยู่กันครบทั้งหมดเลย แต่น่าจะให้ 3 ประสาน นั่นก็คือ แฮร์รี่ เคน สวมบทเป็นกองหน้าตัวเป้าอยู่แล้ว และน่าจะให้ เดยัน คูลูเชฟสกี้ สวมบทเป็นตัวริมเส้นขวา โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ ซน ฮึง มิน ในตำแหน่งตัวริมเส้นฝั่งซ้าย เพราะน่าจะดร็อป ริชาร์ลิซอน เป็นตัวสำรอง เช่นเดียวกับ ลูคัส มูร่า รวมถึง อาร์เนาท์ ดานยูม่า ไม่น่าจะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงอยูู่แล้ว
สถิติการพบกันเอง
สำหรับคู่นี้เคยดวลแข้งกันในทุกรายการมาแล้วทั้งหมด 79 เกม ปรากฎว่า ลิเวอร์พูล มีสถิติเหนือกว่าอยู่พอสมควร โดยเป็นฝ่ายชนะ 79 เกม เสมอ 42 เกม และแพ้ 43 เกม ส่วนผลการพบกันนัดล่าสุดในศึกพรีเมียร์ลีกเมื่อปี 2022 ปรากฎว่า “หงส์แดง” บุกไปชนะ 1-2 สำหรับผลการพบกันในสนามแห่งนี้นัดล่าสุดเกิดขึ้นในศึกพรีเมียร์ลีกเมื่อปี 2022 ปรากฎว่า ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ บุกไปเสมอ 1-1
สถิติที่เคยพบกัน 5 เกมหลังสุด
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ปี 2020 : ลิเวอร์พูล ชนะ ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ 2-1
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ปี 2021 : ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ แพ้ ลิเวอร์พูล 1-3
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ปี 2021 : ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ เสมอ ลิเวอร์พูล 2-2
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ปี 2022 : ลิเวอร์พูล เสมอ ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ 1-1
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ปี 2022 : ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ แพ้ ลิเวอร์พูล 1-2
ความน่าจะเป็น
ทั้งสองทีมต้องการเก็บชัยชนะเพื่อลุ้นคว้าตั๋วไปเล่นในศึกฟุตบอลสโมสรยุโรปช่วงฤดูกาลหน้า โดย ลิเวอรืพูล เริ่มกลับมาทำผลงานในบ้านได้ดีอีกครั้ง ส่วน ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ เปลี่ยนกุนซือเป็นรายที่ 3 ของฤดูกาลนี้ไปแล้ว แต่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงเรื่องรูปแบบมากนัก คาดว่า “หงส์แดง” น่าจะเป็นฝ่ายเก็บชัยเอาไว้ได้ด้วยสกอร์ไม่ขาดลอย
ผลที่คาด : ลิเวอร์พูล ชนะ ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ 2-1
บทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับพรีเมียร์ลีกอังกฤษ
บทความนี้นับสนุนโดย Siam99 เว็บคาสิโนออนไลน์ที่นึ่งในประเทศไทยสมัครตอนนี้รับตั๋ว5ใบทันที