พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ VS นิวคาสเซิ่ล
สนาม : อิติฮัด สเตเดี้ยม
เวลา : 19.30 น.
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
ผลงาน 5 เกมหลังสุดในศึกพรีเมียร์ลีก
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : แพ้ ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ 0-1 (เยือน)
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : ชนะ แอสตัน วิลล่า 3-1 (เหย้า)
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : ชนะ อาร์เซนอล 3-1 (เยือน)
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : เสมอ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 1-1 (เยือน)
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : ชนะ บอร์นมัธ 4-1 (เยือน)
คาดว่ากุนซือ “เป๊ป” โจเซฟ กวาร์ดิโอล่า จะปรับทัพจากเกมล่าสุดที่บุกไปชนะ บอร์นมัธ 4-1 ในศึกพรีเมียร์ลีก เพื่อลุ้นเก็บชัยไล่ตาม อาร์เซนอล ทีมจ่าฝูงต่อไป เพราะตอนนี้อยู่อันดับ 2 แข่ง 25 นัด มี 55 คะแนน จึงพร้อมให้พวกแข้งหลักออกสตาร์ทเป็นตัวจริงทั้งหมด เพราะไม่มีผู้เล่นได้รับบาดเจ็บเพิ่มเติม และได้พวกแข้งดังหายเดี้ยงกลับมาช่วยทีมได้เกือบทั้งหมดแล้วด้วย
11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามเป็นตัวจริงตามแผนการเล่นแบบ 4-3-3
เอแดร์ซอน โมราเอส, มานูเอล อคานยี่, รูเบน ดิอาส, นาธาน อาเก้, ริโก้ เลวิส, โรดรี้, อิลคาย กุนโดกาน, เควิน เดอ บรอยน์, แจ็ค กรีลิช, ฟิล โฟเด้น, เออร์ลิ่ง ฮาลันด์
ผู้รักษาประตู : ไม่เปลี่ยนแปลงไปจาก เอแดร์ซอน โมราเอส เพราะได้รับความไว้วางใจให้สวมบทเป็นมือหนึ่งอยู่แล้ว จึงพร้อมลงไปยืนเฝ้าเสาตั้งแต่นาทีแรกเหมือนเดิม ส่วนในรายของ สเตฟาน ออร์เตก้า เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองในฐานะมือสองเหมือนเเช่นเคย
แนวรับ : ยังคงไร้ จอห์น สโตนส์ รวมถึง ไคล์ วอล์คเกอร์ ต้องพักรักษาอาการบาดเจ็บไปก่อน แต่พร้อมให้ มานูเอล อคานยี่ ลงไปยืนเป็นกองหลังคู่กับ รูเบน ดิอาส และคาดว่า อายเมริก ลาปอร์ก น่าจะนั่งเป็นตัวสำรองไปก่อน ส่วนแบ็กซ้ายพร้อมให้ นาธาน อาเก้ ลงไปยืนประจำการเหนือกว่า เซร์คิโอ โกเมซ เตรียมนั่งเป็นตัวสแตนบายอยู่ที่ข้างสนามเหมือนอย่างนัดที่แล้ว โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ ริโก้ เลวิส ซึ่งน่าจะได้เป็นตัวเลือกอันดับแรกอด้วยเช่นกัน
แดนกลาง : ยังคงเป็นหน้าที่ของ โรดรี้ เตรียมลงไปยืนเป็นมิดฟิลด์ตัวตัดเกมคู่กับ อิลคาย กุนโดกาน เพราะเป็น 2 ตัวหลักในแผงแดนกลางอยู่แล้ว ทำให้ คัลวิน ฟิลลิปส์ เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองเหมือนเดิม เช่นเดียวกับ โคล พาลเมอร์ แข้งเด็กปั้นดาวรุ่งไม่น่าจะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงอยู่แล้ว ส่วนในรายของ แบร์นาร์โด้ ซิลวา อาจจะมีโอกาสเป็นตัวสอดแทรกได้เหมือนกัน แต่น่าจะต้องนั่งอยู่ที่ข้างสนามไปก่อน
แนวรุก : เตรียมได้เห็น เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ สวมบทเป็นกองหน้าต่อไป และตอนนี้ยังคงรั้งตำแหน่งดาวซัลโวพรีเมียร์ลีกด้วยจำนวน 27 ประตู และคาดว่า ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ น่าจะต้องกลับไปนั่งเป็นตัวสำรองเพื่อให้ เควิน เดอ บรอยน์ กลับมาสวมบทเป็นตัวปั้นเกมในฐานะเพลย์เมกเกอร์อีกครั้ง ส่วนปีกซ้ายพร้อมให้ แจ็ค กรีลิช ลงไปยืนประจำการ โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ ฟิล โฟเด้น เตรียมลงไปยืนเป็นปีกขวา เพราะน่าจะเป็นตัวเลือกแรกเหนือกว่า ริยาด มาห์เรซ ส่อนั่งเป็นตัวสำรองอีกหนึ่งนัด
นิวคาสเซิ่ล
ผลงาน 5 เกมหลังสุดในศึกพรีเมียร์ลีก
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : ชนะ ฟูแล่ม 1-0 (เหย้า)
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : เสมอ คริสตัล พาเลซ 0-0 (เยือน)
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : เสมอ เวสต์แฮม 1-1 (เหย้า)
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : เสมอ บอร์นมัธ 1-1 (เยือน)
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : แพ้ ลิเวอร์พูล 0-2 (เหย้า)
คาดว่ากุนซือ เอ็ดดี้ ฮาว จะปรับทัพจากเกมล่าสุดที่แพ้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-2 ในศึกคาราบาว คัพ รอบชิงชนะเลิศ เพื่อลุ้นกลับมาคว้าชัยแก้ตัวจากการเข้าป้ายเพียงรองแชมป์นั่นเอง และไม่พบกับชัยชนะในเกมลีกสูงสุดเมืองผู้ดีมาแล้วถึง 4 เกมเลยด้วย โดยตอนนี้อยู่อันดับ 5 แข่ง 23 นัด มี 41 คะแนน แม้จะมีนักเตะขาดหายไปหลายคน แต่ยังใช้งานพวกแข้งหลักได้อีกหลายราย
11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามเป็นตัวจริงตามแผนการเล่นแบบ 4-3-3
นิค โป๊ป, สเวน บ็อตแมน, ฟาเบียน ชาร์, แดน เบิร์น, คีแรน ทริปเปียร์, บรูโน่ กิมาเรส, ฌอน ลองสต๊าฟฟ์, โจลินตอน, อัลแล็ง แซงต์ มักซิแม็ง, มิเกล อัลมิรอน, คัลลัม วิลสัน
ผู้รักษาประตู : ได้ นิค โป๊ป กลับมาสวมบทมือหนึ่งเพื่อยืนเฝ้าเสาเป็นตัวจริงตั้งแต่นาทีแรกอีกครั้ง เพราะพ้นโทษแบนหนึ่งนัดเรียบร้อยแล้ว ส่วนในรายของ มาร์ติน ดูบราฟก้า เตรียมกลับมานั่งเป็นตัวสำรองในฐานะมือสองอีกครั้ง หลังจากที่ติดคัพไทหมดสิทธิ์ลงสนามในนัดชิงคาราบาว คัพ นั่นเอง ทำให้ ลอริส คาริอุส ซึ่งได้เฝ้าเสาในนัดชิงเตรียมหลุดจากทีมกลับไปทำหน้าที่เป็นมือสามเหมือนเดิม
แนวรับ : ยังคงเป็นหน้าที่ของ 4 ประสานค่อนข้างแน่ โดย ฟาเบียน ชาร์ พร้อมยืนเป็นกองหลังคู่กับ สเวน บ็อตแมน ส่วนแบ็กซ้ายยังคงเป็นหน้าที่ของ แดน เบิร์น โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ คีแรน ทริปเปียร์ ในตำแหน่งแบ็กขวา แม้จะหมดสิทธิ์ใช้งาน เอมิล คราฟธ์ ยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บ และได้ แมตต์ ทาร์เก็ตต์ หายเดี้ยงพร้อมกลับคืนสู่ทีมอีกครั้ง แต่ไม่ได้เป็นตัวหลักอยู่แล้ว เช่นเดียวกับ พอล ดัมเมตต์, ยามาล เลวิส, แฮร์ริสัน แอชบี้, ฆาเบียร์ มานควิโญ่ และ ยามาล ลาสเซเลส เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองทั้งหมดเลย
แดนกลาง : ไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงไปจาก 3 แกนหลัก นั่นก็คือ บรูโน่ กีมาเรส, ฌอน ลองสต๊าฟฟ์ และ โจลินตอน ซึ่งพร้อมลงไปยืนคุมเกมในแผงมิดฟิลด์ร่วมกันเหมือนเดิม ส่วนในรายของ ยาค็อบ เมอร์ฟีย์ และ เอลเลียต อันเดอร์สัน เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองเหมือนอย่างนัดที่แล้ว ขณะที่ โจ วิลล็อค ยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บ ด้าน ไรอัน ฟราเซอร์ หลุดโผจากทีมไปแล้ว เพราะว่าหมดอนาคตจากการถูกลดชั้นให้ลงไปฝึกซ้อมกับทีมเยาวชนนั่นเอง
แนวรุก : หมดสิทธิ์ใช้งาน อเล็กซานเดอร์ อิซัค ยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บ แต่ยังพร้อมใช้งาน 3 ประสานเหมือนเดิม โดยพร้อมให้ อัลแล็ง แซงต์ มักซิแม็ง ลงไปสวมบทเป็นปีกซ้าย และจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ มิเกล อัลมิรอน ในตำแหน่งปีกขวา ส่วนในรายของ คัลลัม วิลสัน เตรียมลงไปยืนเป็นกองหน้าตัวเป้าตามเดิม ทำให้ แอนโธนี่ กอร์ดอน รวมถึง แมตต์ ริชชี่ เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองอยู่ที่ข้างสนามอีกหนึ่งเกม
สถิติการพบกันเอง
สำหรับคู่นี้เคยดวลแข้งกันในทุกรายการมาแล้วทั้งหมด 150 เกม ปรากฎว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มีสถิติเหนือกว่าอยู่พอสมควร โดยเป็นฝ่ายชนะ 62 เกม เสมอ 35 เกม และแพ้ 53 เกม ส่วนผลการพบกันนัดล่าสุดในศึกพรีเมียร์ลีกเมื่อปี 2022 ปรากฎว่า “เรือใบสีฟ่า” บุกไปเสมอ 3-3 สำหรับผลการพบกันในสนามแห่งนี้นัดล่าสุดเกิดขึ้นในศึกพรีเมียร์ลีกเมื่อปี 2022 ปรากฎว่า นิวคาสเซิ่ล บุกไปแพ้ 0-5
สถิติที่เคยพบกัน 5 เกมหลังสุด
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ปี 2020 : แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชนะ นิวคาสเซิ่ล 2-0
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ปี 2021 : นิวคาสเซิ่ล แพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 3-4
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ปี 2021 : นิวคาสเซิ่ล แพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-4
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ปี 2022 : แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชนะ นิวคาสเซิ่ล 5-0
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ปี 2022 : นิวคาสเซิ่ล เสมอ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 3-3
ความน่าจะเป็น
เพราะยังคงรั้งตำแหน่งรองจ่าฝูง ทำให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พร้อมเดินหน้าเก็บชัยเพื่อไล่ตาม อาร์เซนอล เข้าไปอีก จึงพร้อมให้พวกแข้งดังออกสตาร์ทเป็นตัวจริงทั้งหมดเลยด้วย ส่วน นิวคาสเซิ่ล ทำผลงานในช่วงหลังๆ ได้ไม่ดีเลย และไม่พบกับชัยชนะมาหลายเกมแล้วด้วย คาดว่า “เรือใบสีฟ้า” มีความพร้อมมากกว่า จึงน่าจะเก็บ 3 คะแนนภายในถิ่นของตัวเองเอาไว้ได้ด้วยเช่นกัน
ผลที่คาด : แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชนะ นิวคาสเซิ่ล 2-0
บทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับพรีเมียร์ลีกอังกฤษ
บทความนี้นับสนุนโดย Siam99 เว็บคาสิโนออนไลน์ที่นึ่งในประเทศไทยสมัครตอนนี้รับตั๋ว5ใบทันที