“ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ส่อปรับทัพหลายตำแหน่งเพื่อให้ตัวสำรองลงสนาม และน่าจะได้เห็น อเลฮานโดร การ์นาโช่ ลงไปช่วยปั้นเกมรุกนัดเปิดบ้านต้อนรับ “เจ้าสัวน้อย” ฟูแล่ม ในศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดส่งท้ายฤดูกาล 2022/2023 คืนวันที่ 28 พ.ค.นี้
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด VS ฟูแล่ม
สนาม : โอลด์ แทรฟฟอร์ด
เวลา : 22.30 น.
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ผลงาน 5 เกมหลังสุดในศึกพรีเมียร์ลีก
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : ชนะ แอสตัน วิลล่า 1-0 (เหย้า)
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : แพ้ ไบรท์ตัน 0-1 (เยือน)
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : แพ้ เวสต์แฮม 0-1 (เยือน)
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : ชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน 2-0 (เหย้า)
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : ชนะ บอร์นมัธ 1-0 (เยือน)
คาดว่ากุนซือ เอริค เทน ฮาก จะปรับทัพบางตำแหน่ง เพื่อเก็บชัยทำอันดับให้ดีที่สุด เพราะสามารถเกาะกลุ่ม “ท็อปโฟร์” ใน 4 อันดับแรกได้แล้ว โดยตอนนี้อยู่อันดับ 4 แข่ฃ 37 นัด มี 72 คะแนน แม้จะหมดสิทธิ์ใช้งานนักเตะหลายคน แต่ว่าเป็นพวกหน้าเดิมๆ ที่ต้องพักรักษาอาการบาดเจ็บต่อไปอยู่แล้ว จึงพร้อมให้พวกแข้งหลักออกสตาร์ทเป็นตัวจริง และพร้อมให้พวกแข้งสำรองลงสนามในหลายๆ จุดเพื่อเป็นการสั่งลาฤดูกาลนี้ไปเลย
11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามเป็นตัวจริงตามแผนการเล่นแบบ 4-2-3-1
ดาบิด เด เคอา, วิคเตอร์ ลินเดเลิฟ, แฮร์รี่ แม็คไกวร์, ดิโอโก้ ดาโลท์, ไทเรลล์ มาลาเซีย, เฟรด, สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์, จาดอน ซานโช่, อเลฮานโดร การ์นาโช่, เวาท์ เวกฮอร์สท, อองโตนี่ มาร์กซิยัล
ผู้รักษาประตู : ไม่เปลี่ยนแปลงไปจาก ดาบิด เด เคอา พร้อมยืนเฝ้าเสาเป็นตัวจริงอยู่แล้ว เพราะว่าพร้อมทำหน้าที่เป็นมือหนึ่งเหมือนเดิม ส่วนในรายของมือสอง นั่นก็คือ ทอม ฮีตัน ยังไม่หายจากโรคเดี้ยง ทำให้ แจ็ค บัตแลนด์ เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองอยู่ที่ข้างสนามไปก่อน
แนวรับ : หมดสิทธิ์ใช้งาน ลิซานโดร มาร์ติเนซ ยังอยู่ในช่วงฟื้นฟูสภาพร่างกายจากการผ่าตัดข้อเท้า และน่าจะดร็อป ราฟาเอล วาราน ให้ได้พักเป็นตัวสำรอง เพื่อให้ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ลงไปยืนเป็นกองหลังคู่กับ วิคเตอร์ ลินเดเลิฟ ส่วนแบ็กซ้ายน่าจะให้ ไทเรลล์ มาลาเซีย ลงไปยืนประจำการเพื่อให้ ลุค ชอว์ ได้พักบ้าง โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ ดิโอโก้ ดาโลท์ ซึ่งน่าจะได้กลับมาออกสตาร์ทเป็นตัวจริงเหนือกว่า อารอน วาน-บิสซาก้า ด้วยเช่นกัน
แดนกลาง : ส่อดร็อป คาเซมิโร่ กับ คริสเตียน อีริคเซ่น ให้ได้พัก เพื่อเปิดทางให้ เฟรด กับ สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ ลงไปยืนคุมเกมร่วมกัน ส่วนในรายของ ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค อาจจะมีชื่อกลับมานั่งเป็นตัวสำรอง เพราะเพิ่งหายจากอาการบาดเจ็บได้ไม่นานนัก แต่หมดสิทธิ์ใช้งาน มาร์เซล ซาบิทเซอร์ ยังคงได้รับบาดเจ็บนั่นเอง
แนวรุก : เตรียมได้เห็น เวาท์ เวกฮอร์สท ซึ่งน่าจะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในตำแหน่งกองหน้าตัวต่ำ และน่าจะให้ อเลกฮานโดร การ์นาโช่ ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในตำแหน่งตัวริมเส้นฝั่งซ้าย โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ จาดอน ซานโซ่ ซึ่งพร้อมลงไปยืนประจำการในตำแหน่งตัวริมเส้นฝั่งขวา ส่วนในรายของ อองโตนี่ มาร์กซิยัล ส่อได้สวมยทเป็นกองหน้าตัวเป้าเหมือนอย่างนัดที่แล้ว ทำให้ แอนโธนี่ เอลังก้า, บรูโน่ แฟร์นันเดส, แอนโทนี่ และ มาร์คัส แรชฟอร์ด เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองอยู่ที่ข้างสนามทั้งหมดเลย
ฟูแล่ม
ผลงาน 5 เกมหลังสุดในศึกพรีเมียร์ลีก
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : แพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-2 (เยือน)
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : แพ้ ลิเวอร์พูล 0-1 (เยือน)
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : ชนะ เลสเตอร์ 5-3 (เหย้า)
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : ชนะ เซาแธมป์ตัน 2-0 (เยือน)
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : เสมอ คริสตัล พาเลซ 2-2 (เหย้า)
คาดว่ากุนซือ มาร์โก ซิลวา จะปรับทัพบางตำแหน่ง เพื่อลุ้นเก็บชัยทำอันดับให้ดีที่สุด หลังไม่พบกับความพ่ายแพ้มาแล้วถึง 3 เกม โดยตอนนี้ยังอยู่อันดับ 10 แข่ง 37 นัด มี 52 คะแนน แม้จะมีนักเตะได้รับบาดเจ็บหลายคน แต่ยังใช้งานพวกแข้งหลักได้อีกหลายคน จึงพร้อมจัดผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนามเพื่อลงเตะนัดส่งท้ายฤดูกาลนี้อย่างแน่นอน
11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามเป็นตัวจริงตามแผนการเล่นแบบ 4-2-3-1
แบรนด์ เลโน่, โทสิน อดาราบิโอโย่, อิสซ่า ดิย็อป, อันโตนี่ โรบินสัน, เคนนี่ เตเต้, เจา พัลฮินญ่า, แฮร์ริสัน รีด, วิลเลี่ยน, แฮร์รี่ วิลสัน, ทอม แคร์นีย์, อเล็กซานเดอร์ มิโตรวิช
ผู้รักษาประตู : เตรียมมอบหมายให้ แบรนด์ เลโน่ ลงไปยืนเฝ้าเสาตั้งแต่นาทีแรกเหมือนเดิม เพราะได้รับความไว้วางใจให้สวมบทเป็นมือหนึ่งอยู่แล้ว ส่วนในรายของมือสอง นั่นก็คือ มาเร็ค โรเด็ค เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองอยู่ที่ข้างสนามต่อไป
แนวรับ : ยังคงไร้ ทิม รีม และ เลย์แว็ง คูร์ซาว่า ต้องพักรักษาโรคเดี้ยงเหมือนเช่นเคย ทำให้ โทสิน อดาราบิโอโย่ กับ อิสซ่า ดิย็อป พร้อมลงไปยืนเป็นกองหลังคู่กันเหมือนอย่างนัดที่แล้ว และเตรียมได้เห็น อันโตนี่ โรบินสัน ลงไปยืนประจำการในตำแหน่งแบ็กซ้าย โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ เคนนี่ เตเต้ ในตำแหน่งแบ็กขวา ส่วนในรายของ เชน ดัฟฟี่ รวมถึง เซดริก โซอาเรส ไม่น่าจะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงอยู่แล้ว
แดนกลาง : พร้อมให้ เจา พัลฮินญ่า ลงไปยืนคุมเกมร่วมกับ แฮร์ริสัน รีด เหมือนอย่างนัดที่ผ่านมา ทำให้ นีสเค่นส์ เคบาโน่, ซาซ่า ลูคิช, ลุค แฮร์ริส รวมถึง มานอร์ ซาโลมอน เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองอยู่ที่ข้างสนามได้เลย
แนวรุก : ไม่มี ดาเนี่ยล เจมส์ เจอโรคเดี้ยงเล่นงาน รวมถึง อันเดรียส เปไรร่า ต้องพักรักษาอาการบาดเจ็บไปก่อน จึงพร้อมให้ ทอม แคร์นีย์ ลงไปสวมบทเป็นเพลย์เมกเกอร์ในฐานะตัวปั้นเกม ส่วนตัวริมเส้นฝั่งซ้ายพร้อมให้ วิลเลี่ยน ลงไปยืนประจำการเหมือนเดิม โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ แฮร์รี่ วิลสัน ในตำแหน่งตัวริมเส้นฝั่งขวา เพื่อประสานงานกับ อเล็กซานเดอร์ มิโตรวิช พร้อมสวมบทเป็นกองหน้าตัวเป้าเหมือนเดิม ทำให้ บ็อบบี้ รีด รวมถึง คาร์ลอส วินิซิอุส เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองตามเดิม
สถิติการพบกันเอง
สำหรับคู่นี้เคยดวลแข้งกันในทุกรายการมาแล้วทั้งหมด 58 เกม ปรากฎว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีสถิติเหนือเยอะเลย โดยเป็นฝ่ายชนะ 39 เกม เสมอ 12 เกม และแพ้ 7 เกม ส่วนผลการพบกันนัดล่าสุดในศึกเอฟเอ คัพ เมื่อปี 2023 ปรากฎว่า “ปีศาจแดง” เปิดบ้านชนะ 3-1 สำหรับผลการพบกันในสนามแห่งนี้นัดล่าสุดเกิดขึ้นในศึกเอฟเอ คัพ เมื่อปี 2023 ปรากฎว่า ฟูแล่ม บุกไปแพ้ 1-3
สถิติที่เคยพบกัน 5 เกมหลังสุด
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ปี 2019 : ฟูแล่ม แพ้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-3
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ปี 2021 : ฟูแล่ม แพ้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-2
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ปี 2021 : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เสมอ ฟูแล่ม 1-1
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ปี 2022 : ฟูแล่ม แพ้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-2
เอฟเอ คัพ ปี 2023 : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ ฟูแล่ม 3-1
ความน่าจะเป็น
ทั้งสองทีมไม่มีอะไรให้ต้องลุ้นในศึกพรีเมียร์ลีกอยู่แล้ว แต่ว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ลงสนามในถิ่นตัวเอง จึงตั้งเป้าพร้อมเก็บชัยในบ้านเพื่อเอาใจแฟนบอลจากเกมนัดสุดท้ายของฤดูกาลนี้นั่นเอง ส่วน ฟูแล่ม ยังคงมีนักเตะได้รับบาดเจ็บอยู่บ้าง แต่ว่าพร้อมให้พวกแข้งหลักออกสตาร์ทเป็นตัวจริงเพื่อลุ้นเก็บชัยเหนือทีมใหญ่นั่นเอง คาดว่า “ปีศาจแดง” น่าจะเป็นฝ่ายเก็บ 3 คะแนนเอาไว้ได้สำเร็จ
ผลที่คาด : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ ฟูแล่ม 2-0
บทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับพรีเมียร์ลีกอังกฤษ
บทความนี้นับสนุนโดย Siam99 เว็บคาสิโนออนไลน์ที่นึ่งในประเทศไทยสมัครตอนนี้รับตั๋ว5ใบทันที