วิเคราะห์ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด VS เลสเตอร์

วิจารณ์บอลพรีเมียร์ลีก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด VS เลสเตอร์

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด VS เลสเตอร์

สนาม : โอลด์ แทรฟฟอร์ด

เวลา : 21.00 น.

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ผลงาน 5 เกมหลังสุดในศึกพรีเมียร์ลีก

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : เสมอ คริสตัล พาเลซ 1-1 (เยือน)

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : แพ้ อาร์เซนอล 2-3 (เยือน)

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : ชนะ คริสตัล พาเลซ 2-1 (เหย้า)

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : เสมอ ลีดส์ ยูไนเต็ด 2-2 (เหย้า)

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : ชนะ ลีดส์ ยูไนเต็ด 2-0 (เยือน)

คาดว่ากุนซือ เอริค เทน ฮาก จะปรับทัพจากเกมล่าสุดที่บุกไปชนะ ลีดส์ ยูไนเต็ด 2-0 ในศึกพรีเมียร์ลีก เพื่อลุ้นเก็บชัยเกาะกลุ่มบนหัวตารางคะแนนต่อไป โดยตอนนี้รั้งอันดับ 3 แข่ง 23 นัด มี 46 คะแนน แม้จะมีนักเตะได้รับบาดเจ็บอยู่บ้าง และมีผู้เล่นติดโทษแบนด้วย แต่ใช้งานพวกแข้งหลักได้อีกหลายราย

11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามเป็นตัวจริงตามแผนการเล่นแบบ 4-2-3-1

ดาบิด เด เคอา, ราฟาเอล วาราน, ลิซานโดร มาร์ติเนซ, ลุค ชอว์, ดิโอโก้ ดาโลต์, เฟรด, มาร์เซล ซาบิทเซอร์, จาดอน ซานโซ่, บรูโน่ แฟร์นันเดส, มาร์คัส แรชฟอร์ด, เวาท์ เวกฮอร์ทส

ผู้รักษาประตู : ยังคงเป็นหน้าที่ ดาบิด เด เคอา พร้อมยืนเฝ้าเสาในฐานะมือหนึ่งตั้งแต่นาทีแรกอยู่แล้ว ส่วนในรายของ ทอม ฮีตัน เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองอยู่ที่ข้างสนามต่อไป เพราะถูกวางตัวให้สวมบทเป็นมือสองอยู่แล้ว

แนวรับ : ส่อดร็อป แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ให้กลับไปนั่งเป็นตัวสำรอง เพื่อให้ ราฟาเอล วาราน กับ ลิซานโดร มาร์ติเนซ ลงไปยืนเป็นกองหลังคู่กัน และพร้อมขยับ ลุค ชอว์ ให้กลับไปสวมบทเป็นแบ็กซ้าย โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ ดิโอโก้ ดาโลต์ ในฐานะตัวเลือกอันดับแรกเหนือกว่า อารอน วาน-บิสซาก้า ซึ่งเตรียมนั่งเป็นตัวสำรองไปก่อน ส่วนในรายของ ไทเรลล์ มาลาเซีย รวมถึง วิคเตอร์ ลินเดเลิฟ เตรียมนั่งเป็นตัวสแตนบายเหมือนเดิม    

แดนกลาง : เป็นจุดที่มีปัญหาอยู่พอสมควร เพราะยังคงไร้ คาเซมิโร่ ติดโทษแบนเป็นนัดสุดท้ายจากทั้งหมด 3 เกม และหมดสิทธิ์ใช้งาน คริสเตียน อีริคเซ่น, สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ รวมถึง ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค ยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บ จึงพร้อมให้ เฟรด ลงไปยืนคุมเกมร่วมกับ มาร์เซล ซาบิทเซอร์ เหมือนอย่างนัดที่แล้ว

แนวรุก : ขาดเพียงแค่ อองโตนี่ มาร์กซิยัล ยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บ แต่พร้อมให้ เวาท์ เวกฮอร์สท สวมบทเป็นกองหน้าตัวเป้าต่อไป ส่วนในรายของ มาร์คัส แรชฟอร์ด พร้อมสวมบทเป็นปีกซ้ายอยู่แล้ว เพราะโชว์ฟอร์มสุดเฉียบจากการยิงประตูได้แบบต่อเนื่องเลย โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ จาดอน ซานโซ่ ในตำแหน่งปีกขวา ทำให้ แอนโทนี่ เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองในตำแหน่งนี้ไปก่อน ขณะที่ อเลฮานโดร การ์นาโช่ รวมถึง แอนโธนี่ เอลังก้า เตรียมนั่งเป็นตัวสแตนบายอยู่ที่ข้างสนามได้เลย    

เลสเตอร์

ผลงาน 5 เกมหลังสุดในศึกพรีเมียร์ลีก

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : แพ้ ฟูแล่ม 0-1 (เยือน)

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : แพ้ น็อตติ้งแฮม 0-2 (เยือน)

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : เสมอ ไบรท์ตัน 2-2 (เหย้า)

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : ชนะ แอสตัน วิลล่า 4-2 (เยือน)

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : ชนะ ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ 4-1 (เหย้า)

คาดว่ากุนซือ เบรนแดน รอดเจอร์ส จะปรับทัพจากเกมล่าสุดที่เปิดบ้านชนะ ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ 4-1 ในศึกพรีเมียร์ลีก เพื่อลุ้นเก็บชัยขยับอันดับขึ้นไปอยู่ตรงกลางตารางคะแนน หลังไม่พบกับความพ่ายแพ้มาแล้วถึง 3 เกมซ้อน โดยตอนนี้อยู่อันดับ 13 แข่ง 22 นัด มี 24 คะแนน แม้จะมีนักเตะได้รับบาดเจ็บอยู่บ้าง แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อการจัดทีมอย่างแน่นอน เพราะใช้งานพวกแข้งหลักได้อีกหลายรายเลย

11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามเป็นตัวจริงตามแผนการเล่นแบบ 4-2-3-1

แดนนี่ วอร์ด, แฮร์รี่ ซุตเตอร์, เวาท์ ฟาส, ติโมธี คาสตาเญ่, วิคเตอร์ คริสเตียนเซ่น, นัมปาลิส เมนดี้, คีร์แนน ดิวส์บิวรี่-ฮอลล์, เตเต้, เจมส์ แมดดิสัน, ฮาร์วีย์ บาร์นส, เคเลชี่ อีเฮียนาโช่

ผู้รักษาประตู : พร้อมให้ แดนนี่ วอร์ด ยืนเฝ้าเสาตั้งแต่นาทีแรกเหมือนเดิม เพราะว่าเป็นมือหนึ่งเหนือกว่า ดาเนี่ยล อีเวอร์เซ่น ซึ่งเตรียมนั่งเป็นตัวสำรองในฐานะมือสองเหมือนเช่นเดิม 

แนวรับ : ไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงคู่กองหลัง โดยพร้อมให้ แฮร์รี่ ซุตเตอร์ ลงไปยืนคู่กับ เวาท์ ฟาส เหมือนอย่างนัดที่แล้ว ส่วนแบ็กซ้ายยังคงเป็นหน้าที่ของ วิคเตอร์ คริสเตียนเซ่น โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ ติโมธี คาสตาเญ่ ในตำแหน่งแบ็กขวา ทำให้ ชักลาร์ โซยุนคู, ดาเนี่ยล อมาร์ตี้, ริคาร์โด เปไรร่า และ ลุค โธมัส เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองทั้งหมดเลย แต่หมดสิทธิ์ใช้งาน จอนนี่ อีแวนส์, ไรอัน เบอร์ทรานด์ และ เจมส์ จัสติน ต้องพักรักษาอาการบาดเจ็บต่อไป   

แดนกลาง : เตรียมดร็อป วิลฟรีด เอ็นดิดี้ และ เดนนิส ปราท นั่งอยู่ที่ข้างสนาม เพราะว่าน่าจะให้ นัมปาลิส เมนดี้ ลงไปยืนคุมเกมร่วมกับ คีร์แนน ดิวส์บิวรี่-ฮอลล์ เหมือนอย่างที่แล้ว ทำให้ ยูรู ติเลอมองส์ เตรียมเป็นเพียงแคตัวสแตนบาย ส่วนในรายของ บูบาการี่ ซูมาเร่ ยังคงเจอโรคเดี้ยงเหมือนเช่นเคย

แนวรุก : พร้อมให้ เจมส์ แมดดิสัน สวมบทเป็นเพลย์เมกเกอร์ในฐานะตัวปั้นเกม ส่วนในรายของ ฮาร์วีย์ บาร์นส เตรียมยืนประจำในตำแหน่งปีกซ้าย โดยจะยืนอยู่คนละฝั่งกับ เตเต้ ในบทบาทของปีกขวานั่นเอง สำหรับกองหน้ามีให้เลือกใช้งานได้หลายคนเลย แต่น่าจะเลือก เคเลชี่ อีเฮียนาโช่ ให้ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้า ทำให้ เจมี่ วาร์ดี้ รวมถึง พัตสัน ดาก้า เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองได้เลย     

สถิติการพบกันเอง

สำหรับคู่นี้เคยดวลแข้งกันในทุกรายการมาแล้วทั้งหมด 99 เกม ปรากฎว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีสถิติเหนือกว่าอยู่พอสมควร โดยเป็นฝ่ายชนะ 49 เกม เสมอ 25 เกม และแพ้ 25 เกม ส่วนผลการพบกันนัดล่าสุดในศึกพรีเมียร์ลีกเมื่อปี 2022 ปรากฎว่า “ปีศาจแดง” บุกไปชนะ 1-0 สำหรับผลการพบกันนัดล่าสุดที่สนามแห่งนี้ในศึกพรีเมียร์ลีกเมื่อปี 2022 ปรากฎว่า เลสเตอร์ บุกไปเสมอ 1-1

สถิติที่เคยพบกัน 5 เกมหลังสุด

เอฟเอ คัพ ปี 2021 : เลสเตอร์ ชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3-1

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ปี 2021 : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แพ้ เลสเตอร์ 1-2

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ปี 2021 : เลสเตอร์ ชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 4-2

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ปี 2022 : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เสมอ เลสเตอร์ 1-1

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ปี 2022 : เลสเตอร์ แพ้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-1

ความน่าจะเป็น

เพิ่งเหนื่อยล้าจากการลงสนามในศึกฟุตบอลสโมสรยุโรปเมื่อช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังคงพร้อมเดินหน้าเก็บชัยกันต่อไป เพื่อเกาะกลุ่มบนหัวตารางพรีเมียร์ลีกนั่นเอง เพราะมีโอกาสทำอันดับให้สูงขึ้นไปกว่าเดิมได้เลย หากว่า 2 ทีมนำเกิดอาการสะดุดขาตัวเอง แม้จะมีปัญหาตรงแดนกลาง เพราะมีมิดฟิลด์ขาดหายไปหลายคน แต่ว่าผู้เล่นรายอื่นๆ ยังคงสามารถลงไปทำหน้าที่ทดแทนก็ได้ ส่วนแนวรุกยังอยู่กันครบ จึงพร้อมจัดเต็มในแดนหน้าอย่างแน่นอน ขณะที่ เลสเตอร์ ถือว่าทำผลงานโดยรวมได้ดีขึ้น โดยเฉพาะแนวรุกที่ยิงได้นัดละ 4 ประตูมาแล้วถึง 2 เกมติดต่อกัน แต่ว่าโชว์ฟอร์มนอกบ้านได้ไม่ค่อยดีเสียเท่าไรนัก คาดว่า “ปีศาจแดง” น่าจะหยุดแนวรุกของทีมเยือนเอาไว้ได้ เพราะมีเกมรับที่เหนียวแน่น จึงน่าจะเก็บชัยในบ้านได้สำเร็จ  

ผลที่คาด : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ เลสเตอร์ 2-0

บทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับพรีเมียร์ลีกอังกฤษ

บทความนี้นับสนุนโดย Siam99 เว็บคาสิโนออนไลน์ที่นึ่งในประเทศไทยสมัครตอนนี้รับตั๋ว5ใบทันที

One thought on “วิเคราะห์ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด VS เลสเตอร์

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *