“ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด เตรียมปรับแนวรุกเจ็บเพียบ และพร้อมให้ โรดรีโก้ ดกเอส สวมบทเป็นกองหน้าเหมือนนัดก่อนเพื่อรอต้อนรับ แอธเลติก บิลเบา ในศึกฟุตบอลลาลีกา สเปน นัดส่งท้ายฤดูกาล 2022/2023 คืนวันที่ 4 มิ.ย.นี้ เพื่อลุ้นเก็บชัยจบด้วยตำแหน่งรองจ่าฝูงไปเลย
ลาลีกา สเปน
เรอัล มาดริด VS แอธเลติก บิลเบา
สนาม : เอสตาดิโอ ซานติอาโก้ เบอร์นาบิว
เวลา : 23.30 น.
เรอัล มาดริด
ผลงาน 5 เกมหลังสุดในศึกลาลีกา
ลาลีกา สเปน : ชนะ อัลเมเรีย 4-2 (เหย้า)
ลาลีกา สเปน : แพ้ เรอัล โซเซียดัด 0-2 (เยือน)
ลาลีกา สเปน : ชนะ เกตาเฟ่ 1-0 (เหย้า)
ลาลีกา สเปน : แพ้ บาเลนเซีย 0-1 (เยือน)
ลาลีกา สเปน : ชนะ เซบีญ่า 2-1 (เยือน)
คาดว่ากุนซือ คาร์โล อันเชลอตติ จะปรับทัพบางตำแหน่ง เพื่อลุ้นเก็บชัยเข้าป้ายรองจ่าฝูงไปเลย โดยตอนนี้อยู่อันดับ 2 แข่ง 36 นัด มี 77 คะแนน นำหน้า “ตราหมี” แอตเลติโก มาดริด ทีมคู่ปรับร่วมเมืองเดียวกันเพียงแต้มเดียวเท่านั้น แม้จะมีนักเตะขาดหายไปหลายคน โดยเฉพาะในแนวรุกที่จะต้องมีการปรับทัพอย่างแน่นอน แต่ยังใช้งานพวกแข้งหลักได้เกือบทั้งหมด
11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามเป็นตัวจริงตามแผนการเล่นแบบ 4-3-3
ธีโบต์ กูร์ตัวส์, ดาวิด อลาบา, เอแดร์ มิลิเทา, ลูคัส บาซเกซ, แฟร์ลองด์ เมนดี้, ลูก้า โมดริช, โทนี่ โครส, โอเรเลียง ชูอาเมนี่, เอเดน อาซาร์, เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้, โรดรีโก้ โกเอส
ผู้รักษาประตู : เตรียมได้เห็น ธีโบต์ กูร์ตัวส์ ลงไปยืนเฝ้าเสาเป็นตัวจริงเหมือนอย่างนัดก่อน เพราะได้สวมบทบาทเป็นมือหนึ่งอยู่แล้ว ส่วนในรายของ อังเดร ลูนิน เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองในฐานะมือสองเพื่อรอโอกาสลงสนามกันต่อไป
แนวรับ : ได้ ดานี่ คาร์บาฆัล พ้นโทษแบนพร้อมกลับมาลงสนามอีกครั้ง แต่น่าจะต้องนั่งเป็นตัวสำรองไปก่อน สำหรับคู่กองหลังพร้อมให้ เอแดร์ มิลิเทา ลงไปยืนคู่กับ ดาวิด อลาบา ส่วนแบ็กซ้ายพร้อมให้ แฟร์ลองด์ เมนดี้ ลงไปยืนประจำการ โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ ลูคัส บาซเกซ ซึ่งน่าจะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในตำแหน่งแบ็กขวาเหมือนอย่างนัดก่อน ทำให้ นาโช่ แฟร์นันเดซ, อัลบาโร่ โอดริโอโซล่า, เฆซุส บาเยโฆ่ รวมถึง อันโตนิโอ รูดิเกอร์ เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองตามเดิม
แดนกลาง : น่าจะเน้นความเก๋าด้วยการให้ ลูก้า โมดริช กับ โทนี่ โครส ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงทั้งคู่เลย และน่าจะให้ โอเรเลียง ชูอาเมนี่ ออกสตาร์ทเป้นตัวจริงด้วยเช่นกัน ทำให้ เอดูอาร์โด้ คามาวิงก้า รวมถึง ดานี่ เซบายอส เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองได้เลย ส่วน 2 เด็กปั้นจากทีมเยาวชน นั่นก็คือ เซร์คิโอ อาร์ริบาส และ มาริโอ มาร์ติน ไม่น่าจะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงอยู่แล้ว เพราะยังคงต้องรอโอกาสลงสนามไปก่อน
แนวรุก : เป็นจุดที่จะต้องมีการปรับเปลี่ยนมากที่สุด เพราะหมดสิทธิ์ใช้งาน คาริม เบนเซม่า กองหน้าตัวเก่งได้รับบาดเจ็บ เช่นเดียวกับ วินิซิอุส จูเนียร์ และ มาร์โก อเซนซิโอ เจอโรคเดี้ยงเล่นงาน ทำให้ เอเดน อาซาร์ น่าจะได้รับดอกาสให้ลงไปสวมบทเป็นตัวริมเส้นฝั่งซ้าย โดยจะยืนอยู่ตรงข้ามกับ เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้ เตรียมได้ขยับจากมิดฟิลด์เพื่อลงไปสวมบทเป็นตัวริมเส้นฝั่งขวา และพร้อมให้ โรดรีโก้ โกเอส ขยับจากตัวริมเส้นไปสวมบทเป็นกองหน้าตัวเป้าเหมือนอย่างนัดที่แล้ว ซ่งจัดการซัดเบิ้ลเหมายิงคนเดียวได้ถึง 2 ประตูเลยด้วย
แอธเลติก บิลเบา
ผลงาน 5 เกมหลังสุดในศึก
ลาลีกา สเปน : แพ้ เรอัล เบติส 0-1 (เยือน)
ลาลีกา สเปน : แพ้ บียาร์เรอัล 1-5 (เยือน)
ลาลีกา สเปน : ชนะ เซลต้า บีโก้ 2-1 (เหย้า)
ลาลีกา สเปน : แพ้ โอซาซูน่า 0-2 (เยือน)
ลาลีกา สเปน : แพ้ เอลเช่ 0-1 (เหย้า)
คาดว่ากุนซือ เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ จะปรับทัพบางตำแหน่ง เพื่อลุ้นเก็บชัยเข้าป้ายอันดับ 7 และจะได้คว้าตั๋วไปโชว์ฝีเท้าในศึกยูฟ่า ยูโรปา คอนเฟเรนซ์ลีก โดยตอนนี้อยู่อันดับ 8 แข่ง 37 นัด มี 50 คะแนน เท่ากับ โอซาซูน่า ทีมอ้นดับ 7 แต่มีผลการเผชิญหน้ากันเองตามสถิติ “เฮด-ทู-เฮด” เป็นรองอยู่ด้วย จึงต้องภาวนาให้ โอซาซูน่า ไม่พบกับชยัชนะในเกมนัดสุดท้ายด้วยเช่นกัน แม้จะมีนักเตะได้รับบาดเจ็บหลายคน แต่ยังใช้งานพวกแข้งหลักได้อีกหลายราย
11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนามเป็นตัวจริงตามแผนการเล่นแบบ 4-2-3-1
อูไน ซิมง, ไอตอร์ ปาเรเดส, ดานี่ วีเวียน, ยูริ แบร์ชิเช่, ออสการ์ เดอ มาร์กอส, โอฮาน ซานเซต, มิเกล เวสก้า, อเล็กซ์ เบเรนกูเอร์, อินากี้ วิลเลี่ยมส์, อีเคร มูเนียอิน, กอร์ก้า กูรูเซต้า
ผู้รักษาประตู : พร้อมให้มือหนึ่ง นั่นก็คือ อูไน ซิมง ลงไปยืนเป็นเฝ้าเสาตั้งแต่นาทีแรกเหมือนเดิม ส่วนในรายของ ฆูเล็น อากีร์เรซาบาล่า เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองในฐานะมือสองเหมือนอย่างนัดที่แล้ว
แนวรับ : ไม่มี อินิโก้ มาร์ติเนซ ได้รับบาดเจ็บ และเตรียมอำลาทีมในช่วงหลังหมดสัญญาตอนจบฤดูกาลนี้อยู่แล้วด้วย และไร้เงาของ เยราย อัลาเรซ ยังไม่หายจากโรคเดี้ยงด้วยเช่นกัน จึงพร้อมให้ ไอตอร์ ปาเรเดส ลงไปยืนเป็นกองหลังคู่กับ ดานี่ วีเวียน ส่วนแบ็กซ้ายเตรียมเป็นหน้าที่ของ ยูริ แบร์ชิเช่ ลงไปยืนประจำการ โดยจะยืนอยู่คนละฝั่งกับ ออสการ์ เดอ มาร์กอส ซึ่งจะขยับจากมิดฟิลด์มาลงเล่นในตำแหน่งแบ็กขวาเหมือนอย่างนัดก่อน ทำให้ อันแดร์ กาปา รวมถึง มิเกล บาเลนเซียก้า เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองทั้งหมดเลย
แดนกลาง : หมดสิทธิ์ใช้งาน อันแดร์ เอร์เรร่า ต้องพักรักษาอาการบาดเจ็บต่อไป เช่นเดียวกับ ดานี่ การ์เซีย ยังไม่ฟื้นจากโรคเดี้ยง จึงน่าจะให้ โอฮาน ซานเซต ลงไปยืนคุมเกมร่วมกับ มิเกล เวสก้า ทำให้ ไอเย่ร์ ซาร์ราก้า, อูไน เวนเซดอร์ และ โอเอร์ ซาร์ราก้า ไม่น่าจะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงอยู่แล้ว
แนวรุก : ขาดเพียงแค่ นิโกลาส์ วิลเลี่ยมส์ ต้องพักรักษาอาการบาดเจ็บไปก่อน จึงพร้อมให้คนพี่ นั่นก็คือ นิโกลาส์ วิลเลี่ยมส์ ลงไปยืนประจำการในตำแหน่งตัวริมเส้นฝั่งขวา โดยจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ อเล็กซ์ เบเรนกูเอร์ พร้อมสวมบทเป็นตัวริมเส้นฝั่งซ้าย และ พร้อมให้ อีเคร มูเนียอิน ลงไปสวมบทเป็นตัวปั้นเกมในฐานะเพลย์เมกเกอร์ ส่วนในรายของ กอร์ก้า กูรูเซต้า เตรียมสวมบทเป็นกองหน้าตัวเป้าได้เลย ทำให้ ราอูล การ์เซีย รวมถึง อาดู อาเรส เตรียมนั่งเป็นตัวสำรองไปก่อน
สถิติการพบกันเอง
สำหรับคู่นี้เคยดวลแข้งกันในทุกรายการมาแล้วทั้งหมด 64 เกม ปรากฎว่า เรอัล มาดริด มีสถิติเหนือกว่าเยอะเลย โดยเป็นฝ่ายชนะ 41 เกม เสมอ 10 เกม และแพ้ 13 เกม ส่วนผลการพบกันนัดล่าสุดในศึกลาลีกาเมื่อปี 2023 ปรากฎว่า “ราชันชุดขาว” บุกไปชนะ 2-1 สำหรับผลการพบกันในสนามแห่งนี้นัดล่าสุดเกิดขึ้นในศึกโคปา เดล เรย์ เมื่อปี 2022 ปรากฎว่า แอธเลติก บิลเบา เปิดบ้านชนะ 1-0
สถิติที่เคยพบกัน 5 เกมหลังสุด
ลาลีกา สเปน ปี 2021 : เรอัล มาดริด ชนะ แอธเลติก บิลเบา 1-0
ลาลีกา สเปน ปี 2021 : แอธเลติก บิลเบา แพ้ เรอัล มาดริด 1-2
ซูเปอร์ โคปา เดอ เอสปันญ่า ปี 2022 : แอธเลติก บิลเบา แพ้ เรอัล มาดริด 0-2
โคปา เดล เรย์ ปี 2022 : แอธเลติก บิลเบา ชนะ เรอัล มาดริด 1-0
ลาลีกา สเปน ปี 2023 : แอธเลติก บิลเบา แพ้ เรอัล มาดริด 0-2
ความน่าจะเป็น
แม้จะมีนักเตะในแนวรุกได้รับบาดเจ็บหลายคน แต่ เรอัล มาดริด ยังคงมีผู้เล่นฝีเท้าดีให้เลือกใช้งานได้อีกหลายราย จึงพร้อมทำหน้าที่ทดแทนกันได้อยู่แล้ว ส่วน แอธเลติก บิลเบา มีสภาพทีมไม่สมบูรณ์แบบเต็มร้อย แต่ยังต้องมุ่งมั่นเพื่อคว้าชัยลุ้นโควตาไปเล่นในศึกฟุตบอลสโมสรยุโรปช่วงฤดูกาลหน้า คาดว่า “ราชันชุดขาว” น่าจะเป็นฝ่ายเก็บชัยในถิ่นของตัวเองเอาไว้ได้
ผลที่คาด : เรอัล มาดริด ชนะ แอธเลติก บิลเบา 2-1
บทความนี้นับสนุนโดย Siam99 เว็บคาสิโนออนไลน์ที่นึ่งในประเทศไทย