ผีคืนชีพจากการปลุกของ “เทน ฮาก” เริ่มนับหนึ่งหวนกลับสู่แชมป์
แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นฝั่ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้เริ่มต้นนับหนึ่งไปสู่ยุคใหม่ในช่วงหลังจากที่มีการเปลี่ยนตัวกุนซืออีกครั้ง เพราะเป็นฝ่ายเอาชนะ นิวคาสเซิ่ล ได้แบบไม่ยากเย็นนักด้วยสกอร์ 2-0 จึงได้ชูถ้วยแชมป์คาราบาว คัพ หรือที่มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า ลีก คัพ เป็นสมัยที่ 6 ไปเลยด้วย และเป็นการหวนกลับมาคว้าแชมป์เพื่อยุติช่วงเวลาที่ไร้ความสำเร็จมานานถึง 6 ปีได้แล้วด้วย ซึ่งต้องยกความดีความชอบให้กับ เอริค เทน ฮาก กุนซือคนใหม่ที่เคยประสบความสำเร็จกับ อาแจ๊กซ์ อัมสเตอร์ดัม และได้ก้าวเท้าเข้ามาสวมบทนายใหญ่แห่งถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด ในช่วงก่อนเริ่มฤดูกาลนี้ โดยได้เข้ามาสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เป็นไปในทิศทางบวกได้แบบต่อเนื่องเลยด้วย
นับตั้งแต่ โจเซ่ มูรินโญ่ อดีตกุนซือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สามารถพาทีมคว้าแชมป์ยูฟ่า ยูโรปาลีก เมื่อปี 2017 หลังจากนั้น “ปีศาจแดง” เหมือนตกอยู่ในภวังค์ เพราะสูญเสียจิตวิญญาณของการเป็นผู้ชนะไปแบบดื้อๆ และดูเหมือนว่าพวกนักเตะระดับดาวดังในช่วงนั้นจะไม่ได้โฟกัสไปที่เกมฟุตบอลแบบ 100% โดยเฉพาะ ปอล ป็อกบา ซึ่งให้ความสนใจกับเรื่องของแฟชั่นเสียมากกว่า และมีการเปลี่ยนแปลงทรงผมบนศีรษะให้เป็นแบบใหม่ๆ อยู่ตลอดเลยด้วย แม้ว่าในยุคของกุนซือ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา จะมีลุ้นกลับมาคว้าแชมป์ยูฟ่า ยูโรปาลีก ในช่วงปี 2021 จากการตบเท้าผ่านเข้าชิงกับ บียาร์เรอัล ซึ่งมีชื่อชั้นเป็นรองอยู่พอสมควร แต่สุดท้ายกลับเป็นฝ่ายแพ้ในช่วงดวลจุดโทษตัดสิน ทั้งๆ ที่มีศักยภาพเหนือกว่าในหลายๆ ด้านเลยด้วย จึงต้องจำใจสวมบท “พระรอง” ในฐานะรองแชมป์ไปแบบสุดชอกช้ำใจ ส่วนในยุคของกุนซือ ราล์ฟ รังนิค เป็นไปแบบเช้าชามเย็นชามจากการที่ได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่คุมทีมแบบขัดตาทัพแค่ชั่วคราวเท่านั้น และไม่มีอะไรน่าจดจำไปกว่าผลงานที่ดำดึ่งแบบสาละวันเตี้ยลงในช่วงครึ่งหลังของเมื่อฤดูกาลที่แล้ว เพราะว่าพร้อมลงสนามเพื่อพบกับความพ่ายแพ้ให้กับทุกทีมนั่นเอง
แม้ว่าการก้าวเท้าเข้ามาของ เทน ฮาก จะไม่ได้ทำให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ดีขึ้นแบบพลิกหน้ามือเป็นหลังมือในทันทีทันใด หากดูจากผลงานในช่วงออกสตาร์ทฤดูกาลนี้ที่พบกับความพ่ายแพ้จาก 2 เกมแรกในศึกพรีเมียร์ลีก และต้องลงหลุมจากการหล่นลงไปอยู่ตำแหน่งบ๊วยท้ายในอันดับสุดท้ายของตารางคะแนนเลยด้วย แต่ว่าหลังจากนั้นกุนซือชาวดัตช์ได้ค่อยๆ ลงมือสร้างทีมแบบแก้ปัญหาไปทีละจุด เริ่มต้นกันด้วยเรื่องของเกมรับที่เคยเป็นปัญหาใหญ่จากการเสียประตูแบบง่ายๆ อยู่เป็นประจำ โดยเฉพาะ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ซึ่งเคยทำตัวเป็น “บ่อน้ำมัน” จากการเล่นแบบเฟอะฟะให้ได้เห็นกันอยู่บ่อยๆ เลย จึงมีการคว้าตัวลูกน้องเก่า นั่นก็คือ ลิซานโดร มาร์ติเนซ ให้ย้ายตามมาจาก อาแจ๊กซ์ เลยด้วย แม้จะโดนวิจารณ์เรื่องของรูปร่างว่าไม่เหมาะกับฟุตบอลอังกฤษที่เน้นการเล่นลูกโด่งเป็นหลักเลย เพราะมีความสูงเพียงแค่ 175 เซนติเมตรเท่านั้น จึงไม่น่าจะโหม่งเคลียร์ลูกกลางอากาศของทีมคู่แข่งที่พร้อมบอมบ์เข้าใส่ได้แน่ แต่ว่าดาวเตะเลือดฟ้าขาวได้ใช้สไตล์การเล่นแบบดุดันไม่เกรงใจเข้าจัดการนักเตะของทีมคู่ต่อสู้ในสนามได้แบบอยู่หมัด และสามารถประสานงานกับ ราฟาเอล วาราน แกนหลักในแนวรับได้แบบเข้าขารู้ใจกันเป็นอย่างดีเลยด้วย ทำให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลับมามีแนวรับที่ไว้วางใจได้อีกครั้ง แม้ว่า แม็คไกวร์ ในฐานะกัปตันทีมจะเรียกฟอร์มเก่งกลับคืนมาได้ตั้งแต่ช่วงที่ไปรับใช้ทีมชาติอังกฤษในศึกฟุตบอลโลก 2022 แต่ยังคงถูกจับนั่งเป็นตัวสำรองเหมือนกับ วิคเตอร์ ลินเดเลิฟ ไปก่อน
ส่วนแดนกลางได้แก้ปัญหาที่เคยเก็บบอลในแผงมิดฟิลด์ไม่ค่อยจะได้ด้วยการดร็อป สกอตต์ แม็คโทนิเนย์ กับ เฟรด ซึ่งโชว์ฟอร์มกันแบบผีเข้าผีออกไปนั่งเป็นตัวสำรองแบบถูกใจกองเชียร์ “ปีศาจแดง” เป็นอย่างมาก แม้จะเคยพยายามแก้ปัญหาตรงจุดนี้ด้วยการตามตื้อ เฟรงกี้ เดอ ยอง ลูกน้องเก่าเมื่อตอนสมัยที่คุมทัพ อาแจ๊กซ์ ให้เข้ามาช่วยยืนคุมเกมในแดนกลาง แต่สุดท้ายไม่สามารถปิดดีลกับ บาร์เซโลน่า ได้สำเร็จ จึงหันไปจ่ายเงินให้กับ เรอัล มาดริด เพื่อดึง คาเซมิโร่ เข้ามาเสริมทัพแทนเสียเลย แม้จะถูกปรามาสว่าแก่เกินไปจากการที่มีอายุมากถึง 30 ปีแล้วนั่นเอง แต่มิดฟิลด์ผู้มากประสบการณ์ได้ใช้ความเก๋าช่วยคุมเกมได้เป็นอย่างดี และประสานงานกับ คริสเตียน อีริคเซ่น อีกหนึ่งกองกลางผู้มาใหม่ได้แบบเข้าขารู้ใจกันเป็นอย่างดีเลยด้วย ทำให้ บรูโน่ แฟร์นันเดส ไม่ต้องคอยทำหน้าที่แบกแดนกลางจนหลังแอ่นอีกต่อไป เพราะว่าได้ 2 มิดฟิลด์หน้าใหม่เข้ามาช่วยแบ่งเบาภาระแล้วนั่นเอง
ปิดท้ายด้วยแนวรุก แม้จะเคยเผชิญหน้ากับเรื่องดราม่าของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ มาโดยตลอด แต่ตอนนี้ได้เคลียร์ปัญหาดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว เพราะได้ตัดสินใจยกเลิกสัญญากันไปเลยดีกว่า ทำให้ “ปีศาจแดง” กลับมามีบรรยากาศภายในสโมสรที่ดีขึ้น ทำให้นักเตะพร้อมมุ่งมั่นเพื่อร่วมใจกันทำผลงานให้ดีที่สุด โดยเฉพาะ มาร์คัส แรชฟอร์ด ซึ่งกลับมาโชว์ฟอร์มเฉียบจากการยิงประตูได้แบบต่อเนื่องเลย แม้จะเคยถูกลงโทษจากการทำผิดกฎเรื่องของระเบียบวินัย เพราะว่าตื่นมาประชุมทีมสายนั่นเอง แต่กองหน้าทีมชาติอังกฤษได้ยอมรับผิดแต่โดยดีแบบไม่มีเรื่องดราม่าใดๆ ทั้งสิ้น และพร้อมก้มหน้าก้มตาล่าตาข่ายตามหน้าที่ของตัวเองกันต่อไป นอกจากนี้ เทน ฮาก ยังสามารถปลุกปั้น อเลฮานโดร การ์นาโช่ ดาวรุ่งพุ่งแรงให้แจ้งเกิดกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้แบบเต็มตัวแล้วด้วย ส่วนในรายของแนวรุกคนใหม่ นั่นก็คือ แอนโทนี่ แม้จะยังโชว์ฟอร์มได้ไม่คุ้มค่าสุดแพง แต่ว่าโค้ชชาวดัตช์มีคู่มือการใช้งาน เพราะว่าเป็นลูกน้องเก่าตั้งแต่ตอนที่คุมทัพ อาแจ๊กซ์ จึงพร้อมติวเข้มเพื่อให้งัดฟอร์มเก่งออกมาโชว์ได้ทุกเมื่อเลย ขณะที่ อองโตนี่ มาร์กซิยัล กลับมาเล่นฟุตบอลแบบมีความสุขอีกครั้ง แม้จะยังไม่สามารถกลับมายิงประตูได้แบบเป็นกอบเป็นกำ แต่ยังคงพร้อมช่วยเกมรุกได้เป็นอย่างดี และจัดการเรื่องราวดราม่าของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ได้แบบอยู่หมัดเลยด้วย จึงต้องระเห็จออกจากถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด ไปเลย
ทำให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังคงเป็นทีมที่เต็มเปี่ยมไปด้วยสปิริต จึงสามารถไต่ระดับขึ้นมาเรื่อยๆ และได้หวนกลับมาอยู่บนเส้นทางแห่งความสำเร็จจากการที่ลุ้นแชมป์ในช่วงฤดูกาลนี้แบบครบทั้ง 4 รายการ หลังเริ่มนับหนึ่งจากการปิดจ็อบคว้าแชมป์คาราบาว คัพ ไปแล้ว ส่วนในศึกเอฟเอ คัพ ได้ผ่านเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย เตรียมพบกับ ฟูแล่ม กันต่อไป ขณะที่ในศึกยูฟ่า ยูโรปาลีก เตรียมพบกับ เรอัล เบติส ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายด้วยเช่นกัน และปิดท้ายด้วยการรั้งอันดับ 3 บนหัวตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก เพื่อเบียดลุ้นแชมป์กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ อาร์เซนอล กันต่อไป ซึ่งล้วนมาจากฝีมือของ เอริก เทน ฮาก ที่สามารถปลุกจิตวิญญาณของ “ปีศาจแดง” ให้กลับคืนมาแล้วนั่นเอง
บทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับพรีเมียร์ลีกอังกฤษ
บทความนี้นับสนุนโดย Siam99 เว็บคาสิโนออนไลน์ที่นึ่งในประเทศไทยสมัครตอนนี้รับตั๋ว5ใบทันที